พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษทวีคูณ มาตรา 74 และลดโทษ มาตรา 59: กรณีโทษประหารชีวิต
จำเลยจะต้องถูกเพิ่มโทษทวีคูณตามมาตรา 74 และได้รับความปราณีลดโทษตาม มาตรา 59 หนึ่งในสาม แต่ความผิดครั้งหลังที่จำเลยกระทำนี้มีโทษถึงประหารชีวิต จึงเพิ่มโทษไม่ได้ ได้แต่ลดโทษ (อ้างฎีกาที่ 683/2484)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัว/บันดาลโทสะ: การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้ตายดื่มสุราอยู่ด้วยกันบนเรือน ผู้ตายชวนจำเลยไปที่ถนนจำเลยไม่ไปผู้ตายชักมีดขู่ทำท่าจะแทงจำเลย จำเลยจึงตบหน้าผู้ตายแล้ววิ่งหนีไปที่ชานเรือนผู้ตายไล่แทงจำเลยถูกที่สะบักซ้ายโลหิตไหลโทรมตัว จำเลยเอาชะแลงตีผู้ตาย 1 ทีที่โคนหน้าผากล้มลงผู้ตายหนีลงจากเรือน จำเลยถือชะแลงกระโดดตามไปตีผู้ตายด้วยชะแลงอีก 2 ทีและจะตีอีกแต่มีผู้ห้ามไว้จึงหยุด ผู้ตายอยู่ได้ 6 วันจึงตาย เห็นว่าเหตุเกิดตอนบนเรือนนั้นจำเลยทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิดอาญา ตอนทำร้ายผู้ตายข้างล่างเนื่องมาจากการที่ผู้ตายแทงจำเลยเป็นการยั่วโทสะจำเลยลงมาตีในทันใดยังไม่มีเจตนาฆ่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้เขาถึงแก่ความตายโดยอ้างเหตุบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุพ้นวิสัยขัดขวางการกระทำความผิด: ปืนมีปลอกกระสุนคาลำกล้อง
ใช้อาวุธปืนจ้องยิงตำรวจ หากแต่ปืนนั้นมีปลอกกระสุนคาลำกล้องอยู่แม้จะปรากฏว่าปืนนั้นจะยิงได้ต่อเมื่อเอาปลอกกระสุนออกแล้วก็ดีก็นับว่าเป็นเหตุพ้นวิสัยมาขัดขวางมิให้ทำผิดสำเร็จ กรณีเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าคนตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิด หากไม่มีการกล่าวอ้างถึงอาวุธปืน ก็ไม่สามารถลงโทษฐานมีอาวุธปืนได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้อาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตโดยมิได้กล่าวอ้างว่าจำเลยมีอาวุธปืนแต่อย่างใด ศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตน/ทรัพย์สิน: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตในสถานการณ์เข้าใจผิด ย่อมสมควรแก่เหตุ
จำเลยไปกับพี่ชายผู้ตายซุ่มรอจับคนร้ายที่ลักโคของจำเลยไปแล้วเอามาผูกทิ้งไว้ในป่า ก่อนค่ำผู้ตายได้มาพบจำเลยและพี่ชายผู้ตายครั้งหนึ่งแล้ว และว่าผู้ตายจะไม่กลับมาที่ซุ่มนี้อีก เพราะถ้ามืดค่ำแล้วเกรงว่าจะเข้าใจผิดว่าเป็นคนร้าย ครั้นพอเวลา 19.00 นาฬิกา ผู้ตายกับ ส. ได้ไปรับจำเลยและพี่ชายของผู้ตายกลับบ้านเพราะเห็นว่าฝนตกผู้ตายเดินตรงไปยังที่จำเลยและพี่ชายผู้ตายคนเดียวห่าง 1 วา และเปิดไฟฉายส่องเต็มหน้าจำเลยจำเลยทักว่าใคร ไม่มีเสียงตอบ จำเลยจึงยิงปืนไป 1 นัด ถูกผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันทรัพย์ของตน แต่เนื่องด้วยที่เกิดเหตุเป็นที่ป่าและเป็นเวลาค่ำคืนทั้งฝนตก ซึ่งไม่น่าจะมีใครไปมานอกจากจะเป็นคนร้ายที่จะมาเอาโคย่อมจะทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ตายเป็นคนร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ตายได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่กลับมาอีก เมื่อจำเลยได้ยิงผู้ตายไปเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตได้และเวลานั้นจำเลยก็ถูกไฟฉายเต็มหน้าไม่เห็นอะไร ไม่มีทางทราบได้ว่าคนที่จำเลยคิดว่าเป็นคนร้ายมีอาวุธหรือไม่และทั้งอยู่ในระยะใกล้กัน ถ้าคนร้ายมีอาวุธก็อาจทำร้ายจำเลยได้ทันที การกระทำของจำเลยจึงไม่เกินสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยสำคัญผิด: ยิงผู้บุกรุกในสถานการณ์ฉุกเฉิน
จำเลยเฝ้าบ้านอยู่คนเดียวมีเพื่อนมานั่งคุยอยู่ด้วย 2 คน. นั่งคุยกันมืดๆ เพราะระหว่างนั้นมีโจรผู้ร้ายกระทำการปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์ชุกชุมชาวบ้านต่างเกรงกลัวโจรภัย ภรรยาจำเลยและมารดาภรรยาจำเลยผู้ตายไปพักนอนที่อื่น เวลาประมาณ 20 นาฬิกาฝนกำลังตก ผู้ตายรีบเดินขึ้นเรือนจำเลยร้องถามผู้ตายก็ไม่ตอบ จำเลยจึงร้องบอกไปอีกว่าอย่าขึ้นมาจะยิง ผู้ตายยังขืนเดินขึ้นบันไดเรือนจำเลยเวลานั้นเดือนมืดมองดูไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่อศีรษะผู้ตายพ้นชานเรือนแล้วจำเลยยังร้องถามอีก 2-3 คำผู้ตายก็ไม่ตอบ เป็นเหตุให้จำเลยสำคัญมั่นใจว่าเป็นผู้ร้ายบังอาจบุกรุกขึ้นมาบนเคหสถาน จำเลยจึงใช้ปืนลูกซองยิงไป 1นัด ถูกขาผู้ตาย ผู้ตายร้องขึ้นจึงทราบว่าเป็นมารดาภรรยาและได้ขาดใจตายในวันรุ่งขึ้น การกระทำของจำเลยเป็นการยิงปืนไปโดยเจตนาจะป้องกันชีวิตร่างกายและทรัพย์สินในเหตุการณ์ที่ผู้ตายแสดงอาการให้พึงเข้าใจว่าเป็นผู้ร้ายสำคัญ ไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเมื่อถูกประจัญหน้าด้วยคนร้ายมีอาวุธ
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายกับพวกอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนร้ายมีอาวุธกำลังเดินเข้ามาที่จำเลยในที่มืด เมื่อจำเลยได้ทักถามแล้วกลับไม่ตอบ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควร: การยิงลักทรัพย์
จำเลยนอนเฝ้าข้าวสารอยู่ในห้อง. มีคนร้ายมาลักข้าวสารซึ่งอยู่นอกห้อง. จำเลยได้ยินเสียงและมองเห็นตัวคนร้ายได้บ้าง จึงใช้ปืนยิงคนร้ายไปตามเสียงนั้น. กระสุนทะลุฝาออกไปถูกโจทก์ซึ่งอยู่ที่ถนนกลางตลาดได้รับอันตรายแก่กาย. การที่จำเลยใช้ปืนอันร้ายแรงยิงคนร้ายซึ่งอยู่นอกห้องกำลังลักข้าวสารซึ่งไหลลงสู่กระสอบนั้นนับว่าเป็นการเกินกว่าเหตุ. เพราะข้าวสารไหลลงทีละเล็กละน้อยและคนร้ายที่อยู่นอกห้องไม่ปรากฏว่ามีกี่คนหรือมีอาวุธแต่อย่างใด.เมื่อเทียบการลักเช่นนี้กับการยิงเข้าด้วยกันแล้วจะเห็นได้ว่าร้ายแรงผิดกันมาก. จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามฆ่า แม้ไม่มีการสมคบคิด
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยบังอาจสมคบกับนายจอมซึ่งต้องโทษไปแล้ว. ใช้หอกทำร้ายร่างกายนายอ๋อนายเพาโดยเจตนาฆ่าให้ตาย.แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยพยายามฆ่านายเพาโดยมิได้สมคบกับนายจอมก็ลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย: การกระทำเพื่อปกป้องตนเองจากผู้ที่เข้ามาทำร้ายถึงที่อยู่
ผู้ตายมีไม้ตะพดเป็นอาวุธไปด้วยขึ้นไปด่าท้าทายจะทำร้ายจำเลยและพวกถึงบนเรือน. พวกจำเลยได้ร้องห้ามไม่ให้ขึ้นเรือนและปิดประตูไว้. ผู้ตายก็ยังพยายามดึงประตูเปิดเข้าไป. จำเลยได้แทงผู้ตายด้วยหอก 1 ที. ผู้ตายก็ยังพยายามจะเข้าไปในเรือนอีก. จำเลยจึงได้แทงอีก 1 ทีเห็นว่าจำเลยได้แทงในขณะผู้ตายพยายามทำร้ายจำเลยและพวก.แม้ผู้ตายจะมีอาวุธเพียงไม้ตะพดก็จริง แต่เมื่อพยายามจะเข้าทำร้ายจำเลยและพวกถึงในห้องเรือน. ดังนี้ จะให้จำเลยทำอย่างไร นอกจากจะต้องป้องกันตัวก็ไม่เห็นมีทางอื่น.การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.