คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 249

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรู้ร่วมคิดฆ่าคน: การกระทำที่ต้องเป็นอุปการะต่อการกระทำผิด
การที่จะให้ฟังว่า จำเลยกระทำผิดฐานสมรู้ จะต้องได้ความว่าจำเลยได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในเวลาแต่ก่อนหรือเมื่อขณะความผิดนั้นได้เกิดขึ้น อันเป็นอุปการะแก่การกระทำผิดนั้น
การที่คนหนึ่งทำร้ายผู้ตายซึ่งเป็นกรรมกรสามล้อถึงตายโดยจำเลยไม่ได้สมคบด้วย เป็นการกระทำของคนนั้นโดยพลการจำเลยเป็นแต่เข้าช่วยคนนั้นชกต่อยพวกสามล้ออื่นซึ่งเกิดวิวาทกันในตอนแรกเท่านั้น และการที่จำเลยร้องห้ามไม่ใช้ใครเข้ามาเพื่อขู่ไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายคนนั้นหรือเข้ามาทำร้ายจำเลยเอง และทั้งขณะที่จำเลยร้องห้าม ก็ไม่ได้ความว่าจำเลยได้ทราบถึงการที่คนอื่นนั้นทำร้ายผู้ตายแล้วหรือไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิด อันจะเป็นผิดฐานสมรู้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรู้ร่วมคิดต้องมีการกระทำสนับสนุนก่อนหรือขณะเกิดเหตุ ศาลฎีกาตัดสินว่าการร้องห้ามไม่ได้เป็นการสนับสนุน
การที่จะให้ฟังว่า จำเลยกระทำผิดฐานสมรู้ จะต้องได้ความว่าจำเลยได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในเวลาแต่ก่อนหรือเมื่อขณะความผิดนั้นได้เกิดขึ้น อันเป็นอุปการะแก่การกระทำผิดนั้น
การที่คนหนึ่งทำร้ายผู้ตายซึ่งเป็นกรรมกรสามล้อถึงตายโดยจำเลยไม่ได้สมคบด้วย เป็นการกระทำของคนนั้นโดยพลการ จำเลยเป็นแต่เข้าช่วยคนนั้นชกต่อยพวกสามล้ออื่นซึ่งเกิดวิวาทกันในตอนแรกเท่านั้น และการที่จำเลยร้องห้ามไม่ให้ใครเข้ามาเพื่อขู่ไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายคนนั้นหรือเข้ามาทำร้ายจำเลยเอง และทั้งขณะที่จำเลยร้องห้าม ก็ไม่ได้ความว่าจำเลยได้ทราบถึงการที่คนอื่นนั้นทำร้ายผู้ตายแล้วหรือไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิด อันจะเป็นผิดฐานสมรู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ: การใช้มีดป้องกันการทำร้ายร่างกายฉุกเฉิน
จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการวิวาท เป็นแต่ผู้ยืนดูอยู่ข้างนอก ผู้ตายมาตีจำเลย 2-3 ที่แล้วยังจะตีซ้ำอีก จำเลยจำต้องป้องกันตัวและไม่มีโอกาสที่จะมัวเลือกหาอาวุธอื่นใดมาใช้ได้ทัน จึงต้องใช้อาวุธมีดที่มีอยู่แทงสวนไป ในการที่จำเลยแทงผู้ตายไปในขณะกำลังฉุกละหุกเช่นนี้ หามีเวลาจะเลือกว่าจะแทงให้ถูกตรงไหนไม่การที่แทงไปถูกท้องเป็นการบังเอิญ หาใช่จำเลยตั้งใจเอาชีวิตผู้ตายไม่ และจำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุจำเลยได้รับยกเว้นโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: จำเลยถูกทำร้ายจึงใช้มีดป้องกันตนเอง
จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการวิวาท เป็นแต่ผู้ยืนดูอยู่ข้างนอก ผู้ตายมาตีจำเลย 2-3 ที่แล้วยังจะตีซ้ำอีก จำเลยจำต้องป้องกันตัวและไม่มีโอกาศที่จะมัวเลือกหาอาวุธอื่นใดมาใช้ได้ทัน จึงต้องใช้อาวุธมีดที่มีอยู่แทงสวนไป ในการที่จำเลยแทงผู้ตายไปในขณะกำลังฉุกละหุก เช่นนี้ หามีเวลาจะเลือกว่าจะแทงให้ถูกตรงไหนไม่ การที่แทงไปถูกท้องเป็นการบังเอิญ หาใช่จำเลยตั้งใจเอาชีวิตผู้ตายไม่และจำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุ จำเลยได้รับยกเว้นโทษ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกันทำร้ายร่างกายและฆ่าผู้อื่น: การกระทำที่หวังผลช่วยเหลือเป็นตัวการ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันทำตัวเป็นนักเลงมาแต่แรก เมื่อผู้ตายกับพวกพูดหรือทำอะไรไม่ถูกใจ จำเลยที่ 2 ก็ลงมือทำร้ายก่อนโดยหวังความช่วยเหลือจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน และก็สมความมุ่งหมายโดยจำเลยที่ 1 เข้าช่วยทันทีทั้งใช้มือและมีดทำร้าย ครั้นแล้วจำเลยที่ 1 และ 2 ก็ร่วมทางกันไปอีกจนตำรวจจับได้ที่บ้านจำเลยที่ 1 พร้อมด้วยมีดที่จำเลยใช้ในการทำผิด จำเลยที่ 2 ย่อมเป็นตัวการด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมทำร้ายและฆ่าผู้อื่น: การกระทำร่วมกันของนักเลง
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันทำตัวเป็นนักเลงมาแต่แรก เมื่อผู้ตายกับพวกพูดหรือทำอะไรไม่ถูกใจ จำเลยที่ 2 ก็ลงมือทำร้ายก่อนโดยหวังความช่วยเหลือจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน และก็สมความมุ่งหมายโดยจำเลยที่ 1 เข้าช่วยทันทีทั้งใช้มือและมีดทำร้าย ครั้นแล้วจำเลยที่ 1 และ 2 ก็ร่วมทางกันไปอีกจนตำรวจจับได้ที่บ้านจำเลยที่ 1 พร้อมด้วยมีดที่จำเลยใช้ในการทำผิด จำเลยที่ 2 ย่อมเป็นตัวการด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1384/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดฆ่าคน: ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มีเจตนาช่วยเหลือ
จำเลยที่ 2 เป็นคนงานโรงบ่มใบยา อยู่ในบังคับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายสถานีโรงบ่มเมื่อจำเลยที่ 1 ตะโกนให้จำเลยที่ 2 เอาปืนมาให้เร็วจำเลยที่ 2 ก็นำปืนลูกกรดมาให้ที่บันไดหลังบ้านพักของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ใช้ปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ยังไม่ควรมีความผิดฐานสมรู้ด้วยจำเลยที่ 1 เพราะไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นเป็นใจช่วยเหลืออุปการะในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปนั้นก็โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 จะเรียกเอาปืนไปเพื่อประโยชน์อันใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1384/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาของลูกจ้างผู้ถูกสั่งให้ส่งมอบอาวุธปืน โดยไม่รู้ถึงเจตนาการใช้ผิดกฎหมาย
จำเลยที่ 2 เป็นคนงานโรงบ่มใบยา อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายสถานีโรงบ่ม เมื่อจำเลยที่ 1 ตะโกนให้จำเลยที่ 2 เอาปืนมาให้เร็ว จำเลยที่ 2 ก็นำปืนลูกกรดมาให้ที่บันไดหลังบ้านพักของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ใช้ปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ยังไม่ควรมีความผิดฐานสมรู้ด้วยจำเลยที่ 1 เพราะไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นเป็นใจช่วยเหลืออุปการะในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปนั้นก็โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 จะเรียกเอาปืนไปเพื่อประโยชน์อันใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดต่างกรรม การร่วมกระทำความผิด และการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย
จำเลยที่ 1 ถือมีดดาบปลายตัด 1 เล่ม ผู้ตายถือมีดพก 1 เล่ม ระหว่างที่คนทั้งสองนี้เถียงกัน จำเลยที่ 2 ถือขวาน 1 เล่ม เข้ามาทางข้างหลังผู้ตาย แล้วจำเลยที่ 2 เอาหัวขวานตีผู้ตาย ถูกที่ศรีษะด้านหลังตรงระดับหู 1 ที (ตอนนี้ผู้ตายยังไม่ตาย) แล้ว จำเลยทั้งสองฉุดมือกันวิ่งหนี แต่ไปได้ประมาณ 3 วา จำเลยที่ 1ก็สลัดแขนจากจำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 1 กลับมาฟันคอผู้ตายอีก 1 ที จำเลยทั้งสองวิ่งหนีไป เมื่อไม่ปรากฎจากข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมคิดกันมาทำร้ายผู้ตาย อาจเป็นกรณีเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน จำเลยต่างคนต่างกระทำจึงมีความผิดตามกรรมที่ตนได้กระทำ คือ จำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา จำเลยที่ 2 ฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บ จะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมคบหรือสมรู้ในการฆ่าคนตายไม่ถนัด เพราะการกระทำของจำเลยที่ 2 มีผลเพียงให้ได้รับบาดแผลเพียงมีบาดเจ็บเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการทำร้ายร่างกาย: การแบ่งแยกความผิดของจำเลยแต่ละคน
จำเลยที่ 1 ถือมีดดาบปลายตัด 1 เล่ม ผู้ตายถือมีดพก 1 เล่ม ระหว่างที่คนทั้งสองนี้เถียงกัน จำเลยที่ 2 ถือขวาน 1 เล่มเข้ามาทางข้างหลังผู้ตาย แล้วจำเลยที่ 2 เอาหัวขวานตีผู้ตายถูกที่ศรีษะด้านหลังตรงระดับหู 1 ที(ตอนนี้ผู้ตายยังไม่ตาย) แล้ว จำเลยทั้งสองฉุดมือกันวิ่งหนี แต่ไปได้ประมาณ3วาจำเลยที่1ก็สลัดแขนจากจำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 1 กลับมาฟันคอผู้ตายอีก 1 ที จำเลยทั้งสองวิ่งหนีไปเมื่อไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมคิดกันมาทำร้ายผู้ตายอาจเป็นกรณีเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน จำเลยต่างคนต่างกระทำจึงมีความผิดตามกรรมที่ตนได้กระทำ คือจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา จำเลยที่ 2ฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บ จะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมคบหรือสมรู้ในการฆ่าคนตายไม่ถนัด เพราะการกระทำของจำเลยที่ 2 มีผลเพียงให้ได้รับบาดแผลเพียงมีบาดเจ็บเท่านั้น
of 53