พบผลลัพธ์ทั้งหมด 554 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขัดแย้ง – เจตนาไม่ชัดเจน – ศาลต้องสืบพยาน
เมื่อข้อความในสัญญาฉบับเดียวกันขัดแย้งกันเอง และไม่ชัดเจนพอที่จะพิจารณาถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญาได้ศาลจะให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียโดยพิจารณาแต่เพียงตัวสัญญาเท่านั้นย่อมไม่ได้ ในกรณีเช่นนี้ ศาลต้องสืบพยานต่อไปตามข้อต่อสู้ของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้เช่า: ข้อตกลงในสัญญาเช่าต้องสอดคล้องกับบทบัญญัติกฎหมาย
ข้อความในสัญญาเช่าที่ว่าผู้เช่ารับรองจะระวังรักษาทรัพย์ที่เช่าและซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง ให้อยู่ในสภาพที่ดีใช้การได้เสมอนั้นไม่มีความหมายจะให้ผู้เช่าต้องรับผิดนอกเหนือไปจากที่กฎหมายได้กำหนดไว้ เพราะในสัญญามิได้มีข้อความชัดเจนว่าให้ผู้เช่าต้องรับผิดในทุกกรณีไปฉะนั้น ผู้เช่าจะต้องรับผิดก็แต่ในกรณีที่เป็นความผิดของตนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 565/2497)
(อ้างฎีกาที่ 565/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้เช่า: การซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่า และความรับผิดตามสัญญา
ข้อความในสัญญาเช่าที่ว่า ผู้เช่ารับรองจะระวังรักษาทรัพย์ที่เช่าและซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง ให้อยู่ในสภาพที่ดีใช้การได้เสมอนั้น ไม่มีความหมายจะให้ผู้เช่าต้องรับผิดนอกเหนือไปจากที่กฎหมายได้กำหนดไว้ เพราะในสัญญามิได้มีข้อความชัดเจนว่า ให้ผู้เช่าต้องรับผิดในทุกกรณีไป ฉะนั้นผู้เช่าจะต้องรับผิดก็แต่ในกรณีที่เป็นความผิดของตนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 565/2497)
(อ้างฎีกาที่ 565/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสำคัญผิดในเจตนาและการรู้เห็นของอีกฝ่ายทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
จำเลยเสนอขายของตามใบประกวดราคาแก่โจทก์ โดยคำนวณราคาผิดพลาด ทั้งที่ใจจริงของจำเลยหาได้ต้องการผูกพันตนตามราคาที่แสดงออกไม่ และโจทก์ก็รู้ความผิดพลาดของจำเลยดีอยู่แล้วเช่นนี้ การแสดงเจตนาของจำเลยตกเป็นโมฆะ จำเลยไม่ต้องรับผิดตามที่ได้เสนอราคาไปนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสำคัญผิดในการเสนอราคาและการรู้เห็นของอีกฝ่ายทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
จำเลยเสนอขายของตามใบประกวดราคาแก่โจทก์ โดยคำนวณราคาผิดพลาดทั้งที่ใจจริงของจำเลยหาได้ต้องการผูกพันตนตามราคาที่แสดงออกไม่ และโจทก์ก็รู้ความผิดพลาดของจำเลยดีอยู่แล้วเช่นนี้การแสดงเจตนาของจำเลยตกเป็นโมฆะจำเลยไม่ต้องรับผิดตามที่ได้เสนอราคาไปนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำสัญญาเช่าเพื่อค้าขาย แม้จะมีการอยู่อาศัยควบคู่ ก็ไม่ถือเป็นเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยเช่าห้องโจทก์ซึ่งเป็นตึกแถวสองชั้น ตามสัญญาระบุว่าเช่าเพื่อค้าขายห้องพิพาทตั้งอยู่ในทำเลการค้าและจำเลยก็ได้เปิดร้านซักรีดเป็นอาชีพอย่างเดียวถึง 2 ปี เพิ่งจะมาเลิกร้านค้าเมื่อหมดอายุการเช่าเท่านั้น เช่นนี้ ห้องพิพาทนั้นก็ยังหาเป็นเคหะไม่ และย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่เจ้าของร่วม ผลบังเกิดใช้กับส่วนของผู้ตายเท่านั้น
การที่เจ้าของร่วมได้ทำพินัยกรรมฉบับเดียวกันยกทรัพย์ให้แก่ใคร แม้จะระบุว่า ถ้าเขาทั้งสองตายไปแล้ว ให้ทรัพย์ตกได้แก่ผู้นั้นก็ดี เมื่อผู้ทำพินัยกรรมคนหนึ่งตาย แม้อีกคนยังอยู่ ก็ยอมเกิดผลตามพินัยกรรมเฉพาะทรัพย์ส่วนของผู้ที่ตายไปนั้นแล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เดิมบิดาโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท เมื่อบิดาตาย โจทก์ก็ได้รับมรดกมา จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยกับสามี จำเลยกับสามีเพียงแต่ได้ทำพินัยกรรมยกให้บิดาโจทก์ แต่บัดนี้ไม่ประสงค์จะยกให้แล้ว เพราะบิดาโจทก์ตายไปก่อนจำเลย พินัยกรรมจึงไม่บังเกิดผล ดังนี้ เรื่องพินัยกรรมที่จำเลยต่อสู้จึงเป็นประเด็นที่ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่ใช้ดุลพินิจให้รวมค่าธรรมเนียมแล้วให้โจทก์จำเลยเสียฝ่ายละครึ่งได้
การที่เจ้าของร่วมในที่พิพาทเข้าทำในที่ที่ตนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยนั้น หาเป้นการละเมิดไม่ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งจะฟ้องขอให้ห้ามหรือเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดไม่ได้ (ที่พิพาทยังไม่ได้แบ่งแยก และเข้าทำเต็มทั้งแปลง).
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เดิมบิดาโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท เมื่อบิดาตาย โจทก์ก็ได้รับมรดกมา จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยกับสามี จำเลยกับสามีเพียงแต่ได้ทำพินัยกรรมยกให้บิดาโจทก์ แต่บัดนี้ไม่ประสงค์จะยกให้แล้ว เพราะบิดาโจทก์ตายไปก่อนจำเลย พินัยกรรมจึงไม่บังเกิดผล ดังนี้ เรื่องพินัยกรรมที่จำเลยต่อสู้จึงเป็นประเด็นที่ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่ใช้ดุลพินิจให้รวมค่าธรรมเนียมแล้วให้โจทก์จำเลยเสียฝ่ายละครึ่งได้
การที่เจ้าของร่วมในที่พิพาทเข้าทำในที่ที่ตนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยนั้น หาเป้นการละเมิดไม่ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งจะฟ้องขอให้ห้ามหรือเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดไม่ได้ (ที่พิพาทยังไม่ได้แบ่งแยก และเข้าทำเต็มทั้งแปลง).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมยกทรัพย์ของเจ้าของร่วม: ผลบังคับใช้เฉพาะส่วนของผู้ตายเมื่อยังมีเจ้าของร่วมรายอื่น
การที่เจ้าของร่วมได้ทำพินัยกรรมฉบับเดียวกันยกทรัพย์ให้แก่ใคร แม้จะระบุว่า ถ้าเขาทั้งสองตายไปแล้วให้ทรัพย์ตกได้แก่ผู้นั้นก็ดี เมื่อผู้ทำพินัยกรรมคนหนึ่งตาย แม้อีกคนยังอยู่ ก็ย่อมเกิดผลตามพินัยกรรมเฉพาะทรัพย์ส่วนของผู้ที่ตายไปนั้นแล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เดิมบิดาโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท เมื่อบิดาตาย โจทก์ก็ได้รับมรดกมา จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยกับสามี จำเลยกับสามีเพียงแต่ได้ทำพินัยกรรมยกให้บิดาโจทก์ แต่บัดนี้ไม่ประสงค์จะยกให้แล้ว เพราะบิดาโจทก์ตายไปก่อนจำเลยพินัยกรรมจึงไม่บังเกิดผล ดังนี้ เรื่องพินัยกรรมที่จำเลยต่อสู้จึงเป็นประเด็นที่ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่ใช้ดุลพินิจให้รวมค่าธรรมเนียมแล้วให้โจทก์จำเลยเสียฝ่ายละครึ่งได้
การที่เจ้าของร่วมในที่พิพาทเข้าทำในที่ที่ตนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยนั้น หาเป็นการละเมิดไม่เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งจะฟ้องขอให้ห้ามหรือเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดไม่ได้ (ที่พิพาทยังไม่ได้แบ่งแยก และเข้าทำเต็มทั้งแปลง)
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เดิมบิดาโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท เมื่อบิดาตาย โจทก์ก็ได้รับมรดกมา จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยกับสามี จำเลยกับสามีเพียงแต่ได้ทำพินัยกรรมยกให้บิดาโจทก์ แต่บัดนี้ไม่ประสงค์จะยกให้แล้ว เพราะบิดาโจทก์ตายไปก่อนจำเลยพินัยกรรมจึงไม่บังเกิดผล ดังนี้ เรื่องพินัยกรรมที่จำเลยต่อสู้จึงเป็นประเด็นที่ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่ใช้ดุลพินิจให้รวมค่าธรรมเนียมแล้วให้โจทก์จำเลยเสียฝ่ายละครึ่งได้
การที่เจ้าของร่วมในที่พิพาทเข้าทำในที่ที่ตนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยนั้น หาเป็นการละเมิดไม่เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งจะฟ้องขอให้ห้ามหรือเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดไม่ได้ (ที่พิพาทยังไม่ได้แบ่งแยก และเข้าทำเต็มทั้งแปลง)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกาศข้อกำหนดทางกฎหมายต้องทำเป็นหนังสือ เพื่อให้มีหลักฐานตรวจสอบได้และเป็นธรรมต่อประชาชน
"ออกประกาศหรือสั่งเป็นหนังสือ"ในมาตรา 18(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 คำว่า"ออกประกาศ"หมายความว่าออกประกาศเป็นหนังสือ หาใช่ออกประกาศด้วยวาจาก็ได้ไม่ เพราะมาตรานี้มุ่งบังคับเอากับประชาชน ถ้าตีความว่าออกประกาศด้วยวาจาก็ใช้ได้ ก็ย่อมปราศจากหลักฐานและเป็นช่องทางให้โต้เถียงกันได้
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวและประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวและประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความอำนาจออกประกาศของสัตวแพทย์ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ต้องเป็นหนังสือ เพื่อให้มีหลักฐานชัดเจนและเป็นธรรมต่อประชาชน
ออกประกาศหรือสั่งเป็นหนังสือ ในมาตรา 18 (1) แห่งพระราชบัญญัติ โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 คำว่า ออกประกาศ หมายความว่าออกประกาศเป็นหนังสือ หาใช่ออกประกาศด้วยวาจาก็ได้ไม่ เพราะมาตรา นี้มุ่งบังคับเอากับประชาชน ถ้าตีความว่า ออกประกาศด้วยวาจาก็ใช้ได้ ก็ย่อมปราศจากหลักฐานและเป็นช่องทางให้โต้เถียงกันได้
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว และประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ
สัตวแพทย์ประกาศเป็นหนังสือกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว และประกาศด้วยวาจาให้จำเลยและเจ้าของสัตว์แจ้งจำนวน โค กระบือ และให้นำโคกระบือมาให้ตรวจและฉีดยา จำเลยฝ่าฝืน ยังไม่เป็นความผิดเพราะสัตวแพทย์ ประกาศด้วยวาจามิใช่เป็นหนังสือ