คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 132

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 554 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์มรดกโดยวิธีประมูลราคาระหว่างเจ้าของรวมตามพินัยกรรมและสิทธิเรียกร้องให้แบ่งทรัพย์
ผู้ตายทำพินัยกรรมยกที่ดินบ้านเรือนให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆกัน โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าต่อไปภายหน้าผู้ที่ได้รับที่ดินบ้านเรือนนี้คนใดไม่ต้องการที่ดินบ้านเรือนรายนี้ ต้องขายให้แก่บรรดาผู้ที่ยังคงต้องการ โดยกำหนดราคาไว้ ผู้ใดที่ไม่ต้องการ ก็ให้ได้รับเงินแทนค่าที่ดินบ้านเรือนไปตามส่วนที่ตีราคาไว้ในพินัยกรรมนี้ โดยให้ผู้ต้องการอยู่จ่ายเงินตามส่วนที่กำหนดไว้นี้ให้ไป ผู้ใดไม่ต้องการ จะเรียกร้องเอาราคาที่เกินกว่าที่กำหนดไว้นี้ไม่ได้ ดังนี้ โจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะฟ้องร้องขอให้แบ่งทรัพย์รายนี้โดยวิธีประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งถ้าไม่ตกลงกันก็ขายทอดตลาด เอาเงินมาแบ่งปันกันได้ เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ต้องการทรัพย์ที่ยกให้ตามพินัยกรรม อันจะต้องขายให้ผู้รับทรัพย์ร่วมกันตามข้อกำหนดในในพินัยกรรม แต่เป็นเรื่องที่โจทก์เรียกร้องให้แบ่งทรัพย์ที่โจทก์ได้รับมาแล้วร่วมกับจำเลยตามพินัยกรรม์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม: สิทธิเรียกร้องแบ่งทรัพย์เมื่อผู้รับมรดกไม่ต้องการ
ผู้ตายทำพินัยกรรมยกที่ดินบ้านเรือนให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆกันโดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าต่อไปภายหน้าผู้ที่ได้รับที่ดินบ้านเรือนนี้คนใดไม่ต้องการที่ดินบ้านเรือนรายนี้ ต้องขายให้แก่บรรดาผู้ที่ยังคงต้องการ โดยกำหนดราคาไว้ ผู้ใดที่ไม่ต้องการ ก็ให้ได้รับเงินแทนค่าที่ดินบ้านเรือนไปตามส่วนที่ตีราคาไว้ในพินัยกรรมนี้ โดยให้ผู้ต้องการอยู่จ่ายเงินตามส่วนที่กำหนดไว้นี้ให้ไปผู้ใดไม่ต้องการ จะเรียกร้องเอาราคาที่เกินกว่าที่กำหนดไว้นี้ไม่ได้ ดังนี้ โจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะฟ้องร้องขอให้แบ่งทรัพย์รายนี้โดยวิธีประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งถ้าไม่ตกลงกันก็ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งปันกันได้ เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ต้องการทรัพย์ที่ยกให้ตามพินัยกรรมอันจะต้องขายให้ผู้รับทรัพย์ร่วมกันตามข้อกำหนดในพินัยกรรมแต่เป็นเรื่องที่โจทก์เรียกร้องให้แบ่งทรัพย์ที่โจทก์ได้รับมาแล้วร่วมกับจำเลยตามพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกา: ผลของการไม่จัดการเมื่อศาลสั่งให้ดำเนินการ
จำเลยยื่นฎีกา เจ้าพนักงานกองหมายนำหมายนัดและสำเนาฎีกาส่งแก่โจทก์แต่ส่งไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า"ให้จำเลยทราบและจะจัดการอย่างไร" ทนายจำเลยได้ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่ 10 มกราคม 2494 และจนถึงวันที่29 มกราคม 2494 ก็มิได้แถลงให้ศาลทราบ จนศาลชั้นต้นส่งสำนวนมาศาลฎีกา พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตามความในมาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามมาตรา 132 ประกอบมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม: พินัยกรรมไม่เป็นแบบ/มีแก้ไข, ดุลยพินิจศาล
พินัยกรรมฝ่ายเมืองนั้นแม้จะไม่ถูกต้องตามแบบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 ถ้าเป็นการถูกต้องอย่างพินัยกรรมแบบธรรมดาแล้ว ก็ต้องถือว่าพินัยกรรมนั้นสมบูรณ์ตามแบบธรรมดาได้
พินัยกรรมมีรอยขีดฆ่า แล้วมิได้เซ็นชื่อกำกับไว้ ถ้าปรากฏว่าข้อความที่ขีดฆ่านั้นเป็นข้อหยุมหยิมเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญมิได้ทำให้เสียถ้อยกะทงความตรงไหนแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ หาทำให้พินัยกรรมทั้งฉบับนั้นเสียไปไม่ คงต้องถือว่าพินัยกรรมฉบับนั้นมีผลสมบูรณ์อยู่
ในกรณีที่คู่ความมิได้ต่อสู้ไว้ การที่ศาลจะยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างเองนั้นศาลย่อมกระทำในเมื่อเห็นสมควร มิใช่ว่าถ้าเห็นเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ฯลฯ แล้วศาลจะต้องยกขึ้นเองเสมอไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมไม่สมบูรณ์ตามแบบ แต่ใช้ได้ตามแบบธรรมดา หากข้อขีดฆ่าไม่สำคัญ และศาลมีดุลพินิจอนุญาต
พินัยกรรม์ฝ่ายเมืองนั้นแม้จะไม่ถูกต้องตามแบบตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1658 ถ้าเป็นการถูกต้องอย่างพินัยกรรม์แบบธรรมดาแล้ว ก็ต้องถือว่าพินัยกรรม์นั้นสมบูรณ์ตามแบบธรรมดาไว้
พินัยกรรม์มีรอยขีดฆ่า แล้วมิได้เซ็นชื่อกำกับไว้ ถ้าปรากฎว่าข้อความที่ขีดฆ่านั้นเป็นข้อหยุมหยิมเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญมิได้ทำให้เสียถ้อยกะทงความตรงไหนแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ หาทำให้พินัยกรรม์ทั้งฉะบับนั้นเสียไปไม่คงถือว่าพินัยกรรม์ฉะบับนั้นมีผลสมบูรณ์อยู่
ในกรณีที่คู่ความมิได้ต่อสู้ไว้ การที่ศาลจะยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างเองนั้น ศาลย่อมกระทำในเมื่อเห็นสมควร มิใช่ว่าถ้าเห็นเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ฯลฯ แล้ว ศาลจะต้องยกขึ้นเองเสมอไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาจะซื้อขายและสัญญาซื้อขายเด็ดขาด การบอกเลิกสัญญาเมื่อไม่ชำระหนี้
หลักการแปลสัญญานั้นควรแปลความให้มีผลบังคับดีกว่าจะแปลให้ไร้ผล
หนังสือสัญญาซื้อขายเรือนใช้คำว่า สัญญาซื้อขายแต่ปรากฏตามข้อสัญญาว่ายังไม่ได้ชำระราคากัน แสดงอยู่ว่า สัญญารายนี้ยังไม่เด็ดขาดมีการที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกและเมื่อยังไม่ชำระราคากัน ก็จะเรียกร้องให้โอนเรือนกันก็ยังไม่ได้ คู่กรณีก็มีเจตนาจะให้มีการผูกพันต่อกันตามสัญญา ดังนี้ ควรฟังว่า สัญญาเช่นนี้เป็นสัญญาจะซื้อขายไม่ใช่สัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ทำสัญญาขายเรือนกันฝ่ายผู้ซื้อขอผัดชำระเงินภายใน 2 เดือน ครั้นครบกำหนดแล้วผู้ซื้อก็ยังมิได้ชำระเงินดังนี้ ผู้ขายจะบอกเลิกสัญญานั้นเสียทีเดียวยังไม่ได้จะต้องบอกกล่าวให้ชำระหนี้ภายในระยะเวลาอันสมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 เสียก่อนเว้นแต่จะปรากฏว่าคู่สัญญาถือกำหนดเวลาดังกล่าวเป็นสาระสำคัญเพื่อความสำเร็จของวัตถุประสงค์ในการทำสัญญาตามมาตรา 388

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายยังไม่เด็ดขาด ต้องบอกกล่าวให้ชำระหนี้ก่อนเลิกสัญญา
หลักการแปลสัญญานั้นควรแปลความให้มีผลบังคับดีกว่าจะแปลให้ไร้ผล
หนังสือสัญญาซื้อขายเรือนใช้คำว่า สัญญาซื้อขาย แต่ปรากฎตามข้อสัญญาว่ายังไม่ได้ชำระราคากันแสดงอยู่ว่า สัญญารายนี้ยังไม่เด็ดขาด มีการที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกและเมื่อยังไม่ชำระราคากัน ก็จะเรียกร้องให้โอนเรือนกันก็ยังไม่ได้ คู่กรณีก็มีเจตนาจะให้มีการผูกพันต่อกันตามสัญญาดังนี้ ควรฟังว่า สัญญาเช่นนี้เป็นสัญญาจะซื้อขายไม่ใช่สัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ทำสัญญาขายเรือนกันฝ่ายผู้ซื้อขอผัดชำระเงินภายใน 2 เดือน ครั้นครบกำหนดแล้ว ผู้ซื้อก็ยังมิได้ชำระเงิน ดังนี้ผู้ขายจะบอกเลิกสัญญานั้นเสียทีเดียวยังไม่ได้ จะต้องบอกกล่าวให้ชำระหนี้ภายในระยะเวลาอันสมควรตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 387 เสียก่อน เว้นแต่จะปรากฎว่าคู่สัญญาถือกำหนดเวลาดังกล่าวเป็นสาระสำคัญ เพื่อความสำเร็จของวัตถุประสงค์ในการทำสัญญาตามมาตรา 388

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาไถ่ในสัญญาขายฝาก: ข้อความในวงเล็บถือเป็นอายุสัญญาและกำหนดเวลาไถ่
หนังสือสัญญาขายฝากบรรทัดต้นที่หัวเรื่องมีความบันทึกว่า หนังสือสัญญาขายฝากกรรมสิทธิที่ดิน ต่อจากนั้นมีวงเล็บ ในวงเล็บมีบันทึกว่า มีกำหนด 18 เดือน ต่อจากบรรทัดนั้นลงมามีข้อความในเรื่องการขายฝากแต่ไม่มีข้อความกำหนดเวลาไถ่กัน ดังนี้ ถือได้ว่า ข้อความในวงเล็บที่ว่ามีกำหนด 18 เดือนนั้น คือเป็นอายุของสัญญา นัยหนึ่งก็คือกำหนดเวลาไถ่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาไถ่ในสัญญาขายฝาก: ข้อความในวงเล็บเป็นอายุสัญญา
หนังสือสัญญาขายฝากบรรทัดต้นที่หัวเรื่องมีความบันทึกว่า หนังสือสัญญาขายฝากกรรมสิทธิ์ที่ดิน ต่อจากนั้นมีวงเล็บในวงเล็บมีบันทึกว่ามีกำหนด 18 เดือน ต่อจากบรรทัดนั้นลงมามีข้อความในเรื่องการขายฝากแต่ไม่มีข้อความกำหนดเวลาไถ่กัน ดังนี้ ถือได้ว่า ข้อความในวงเล็บที่ว่ามีกำหนด18 เดือนนั้น คือเป็นอายุของสัญญา นัยหนึ่งก็คือกำหนดเวลาไถ่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และการตีความเอกสารรับเงินค่าเซ้งเป็นสัญญาเช่า
คณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มีอำนาจแต่เฉพาะการเช่าที่อยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ฉะนั้นก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าจำเลยย่อมได้รับความคุ้มครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่ใช่เรื่องของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าที่ให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในเคหะที่เช่าเองได้นั้นย่อมไม่มีผลแก่ผู้ให้เช่า
เอกสารรับเงินค่าเซ้งบ้าน มีข้อความเริ่มต้นระบุว่าผู้รับเป็นเจ้าของบ้านได้รับเงินค่าเซ้งบ้านจำนวนหนึ่งไว้แล้วและมีข้อความว่า ให้สัญญาว่าบ้านหลังนั้นจะให้ผู้ชำระเงินเช่า คิดค่าเช่าเดือนละ 40 บาท ไปจนกว่าจะหมดความต้องการแล้วลงชื่อเจ้าของบ้านผู้ให้เช่า ลงชื่อผู้เช่าและพยาน ดังนี้ ถือว่าเอกสารนี้เป็นสัญญาเช่าแล้ว
of 56