คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 115

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 136 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไม่สมบูรณ์ โมฆะ และความรับผิดของทายาทในการชำระหนี้
สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีข้อความตอนใด ระบุว่าเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งไม่ได้ระบุว่าคู่สัญญาจะไปจดทะเบียนการซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่มีข้อความชัด ว่าให้เรียก ค.เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ว่าผู้ขาย เรียกโจทก์ว่าผู้ซื้อ กับมีข้อความด้วยว่าผู้ขายได้ขายนาพิพาทให้ผู้ซื้อและยอมมอบนาให้ผู้ซื้อเสร็จตั้งแต่วันทำสัญญา แสดงว่าโจทก์กับ ค. มีเจตนาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดเมื่อไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สัญญาซื้อขายดังกล่าวจึงตก เป็นโมฆะ ข้อตกลงแบ่งชำระราคาเป็นงวด ๆ ไม่ใช่เงื่อนไขแห่งสัญญา จำเลยทั้งหกรับโอนที่นาพิพาทมาร่วมกัน ความรับผิดที่ต้องชำระเงินให้แก่โจทก์เป็นการชำระหนี้อันไม่อาจจะแบ่งแยกกันได้แม้จำเลยบางรายจะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยนั้น ๆ ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไม่จดทะเบียนเป็นโมฆะ ทายาทผู้รับมรดกต้องชำระเงินคืน
สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีข้อความตอนใดระบุว่าเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งไม่ได้ระบุว่าคู่สัญญาจะไปจดทะเบียนการซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่มีข้อความชัดว่าให้เรียก ค. เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ว่าผู้ขาย เรียกโจทก์ว่าผู้ซื้อกับมีข้อความด้วยว่าผู้ขายได้ขายนาพิพาทให้ผู้ซื้อและยอมมอบนาให้ผู้ซื้อเสร็จตั้งแต่วันทำสัญญา แสดงว่าโจทก์กับ ค. มีเจตนาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด เมื่อไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สัญญาซื้อขายดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะข้อตกลงแบ่งชำระราคาเป็นงวด ๆ ไม่ใช่เงื่อนไขแห่งสัญญา
จำเลยทั้งหกรับโอนที่นาพิพาทมาร่วมกัน ความรับผิดที่ต้องชำระเงินให้แก่โจทก์เป็นการชำระหนี้อันไม่อาจจะแบ่งแยกกันได้ แม้จำเลยบางรายจะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยนั้น ๆ ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3464/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืมเงิน หนังสือสัญญาจำนองใช้เป็นหลักฐานได้ แม้ทำหลังการกู้
หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือมิใช่แบบของนิติกรรม ทั้งกฎหมายก็มิได้บัญญัติว่าหลักฐานนั้นจะต้องมีในขณะที่ให้กู้ยืม หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือจึงอาจมีก่อนหรือหลังการกู้ยืมเงินก็ได้
จำเลยที่ 1 จำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้แก่โจทก์ เพื่อเป็นประกัน การชำระหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยที่ 1 กู้จากโจทก์ เมื่อหนังสือสัญญาจำนอง ระบุให้ถือเอาสัญญาจำนองเป็นหลักฐานการกู้เงินด้วยและจำเลยที่ 1 มิได้ปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินที่กู้จากโจทก์ ดังนี้ หนังสือสัญญาจำนองนั้นย่อมเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3464/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือ อาจมีก่อนหรือหลังการกู้ และสัญญาจำนองใช้เป็นหลักฐานได้
หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือมิใช่แบบของนิติกรรมทั้งกฎหมาย ก็มิได้บัญญัติว่าหลักฐานนั้นจะต้องมีในขณะ ที่ให้กู้ยืม หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือจึงอาจ มีก่อนหรือหลังการกู้ยืมเงินก็ได้
จำเลยที่ 1 จำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้แก่โจทก์ เพื่อเป็นประกัน การชำระหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยที่ 1 กู้จากโจทก์เมื่อหนังสือสัญญาจำนอง ระบุให้ถือเอาสัญญาจำนองเป็นหลักฐานการกู้เงินด้วยและจำเลยที่ 1มิได้ปฏิเสธว่าไม่ได้รับเงินที่กู้จากโจทก์ดังนี้ หนังสือสัญญาจำนองนั้น ย่อมเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานสัญญาประกันภัย: หนังสือรับรองการทำประกันภัยเพียงพอต่อการฟ้องบังคับคดีได้ตามมาตรา 867
จำเลยมีหนังสือไปถึงโจทก์ข้อความว่า 'ตามที่ทางบริษัทกรุงเทพบูรพา จำกัด ได้ทำสัญญาประกันภัยไว้กับบริษัท ท่านเพื่อประกันภัยตัวเรือบางกอกโอเรียนท์ 1, 2 และ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ เอม. เอช. 00576 เอม. เอช. 00577 และ เอม. เอช. 00578 สัญญาประกันภัยเริ่มคุ้มครอง ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2519 ถึงวันที่ 4 กันยายน 2520 ฯลฯ เห็นได้ว่าข้อความดังกล่าวยืนยันว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันภัยไว้กับโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ฟ้อง จริงและต่อมาเมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้วจำเลยก็ยังได้ ทำคำให้การรับรองข้อความตามหนังสือดังกล่าวอีกด้วย ถือว่า หนังสือดังกล่าวเป็นหลักฐานแสดงว่าจำเลยได้เอาประกันภัยไว้แก่โจทก์ตามความหมายของ มาตรา 867 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว โจทก์จึงฟ้องร้องบังคับเอาแก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานสัญญาประกันภัย: หนังสือยืนยันการเอาประกันภัยเพียงพอต่อการฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามมาตรา 867
จำเลยมีหนังสือไปถึงโจทก์ข้อความว่า 'ตามที่ทางบริษัทกรุงเทพบูรพา จำกัด ได้ทำสัญญาประกันภัยไว้กับบริษัท ท่านเพื่อประกันภัยตัวเรือบางกอกโอเรียนท์ 1,2 และ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ เอม.เอช.00576เอม.เอช.00577 และ เอม.เอช.00578 สัญญาประกันภัยเริ่มคุ้มครอง ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2519 ถึงวันที่ 4 กันยายน 2520 ฯลฯ' เห็นได้ว่าข้อความดังกล่าวยืนยันว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันภัยไว้กับโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ฟ้องจริง และต่อมาเมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้วจำเลยก็ยังได้ ทำคำให้การรับรองข้อความตามหนังสือดังกล่าวอีกด้วย ถือว่า หนังสือดังกล่าวเป็นหลักฐานแสดงว่าจำเลยได้เอาประกันภัยไว้แก่โจทก์ตามความหมายของ มาตรา 867 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว โจทก์จึงฟ้องร้องบังคับเอาแก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมี น.ส.3 ต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นสิทธิครอบครองยังไม่สมบูรณ์ แต่การครอบครองภายหลังย่อมมีผล
การโอนสิทธิครอบครองเนื่องจากมีการซื้อขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วนั้นย่อมทำได้โดยสมบูรณ์ ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 4 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 2 ซึ่งเป็นการกระทำตามแบบของกฎหมายประการ หนึ่งกับกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 อีกประการหนึ่งซึ่งไม่ต้องมีแบบการที่โจทก์ขายที่พิพาทอันเป็นที่มี น.ส.3 ให้จำเลยโดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองและจำเลยได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาทหลังจากทำการซื้อจากโจทก์แล้วโดยปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้และสร้างยุ้งข้าวจำเลยจึงได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยประการหลังหาจำต้องทำตามแบบของนิติกรรมไม่ และกรณีเช่นนี้ไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมีโฉนด การโอนสิทธิครอบครองทำได้โดยการทำสัญญาซื้อขายและครอบครองทรัพย์สินจริง
การโอนสิทธิครอบครองเนื่องจากมีการซื้อขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วนั้นย่อมทำได้โดยสมบูรณ์ ด้วยการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 4ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 2 ซึ่งเป็นการกระทำตามแบบของกฎหมายประการ หนึ่งกับกระทำการโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378 อีกประการหนึ่งซึ่งไม่ต้องมีแบบการที่โจทก์ขายที่พิพาทอันเป็นที่มีน.ส.3ให้จำเลยโดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองและจำเลยได้เข้าครอบครองยึดถือที่พิพาทหลังจากทำการซื้อจาก โจทก์แล้วโดยปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ และสร้างยุ้งข้าวจำเลยจึงได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยประการหลัง หาจำต้องทำตามแบบของนิติกรรมไม่ และกรณีเช่นนี้ไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2516/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบฉันทะต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัท การลงนามและประทับตราสำคัญของกรรมการจึงจะถือเป็นผู้แทนนิติบุคคล
หนังสือรับรองของนายทะเบียนสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทได้กำหนดให้กรรมการบริษัทอย่างน้อยสองคนมีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทและต้องประทับตราสำคัญของบริษัทไว้ด้วยเมื่อปรากฏว่าหนังสือมอบฉันทะของบริษัทมีเพียงกรรมการเพียงคนเดียวลงลายมือชื่อไว้และไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทจึงเป็นการขัดต่อข้อบังคับและความประสงค์ของบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำของผู้แทนนิติบุคคลและกรณีเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการกระทำของผู้แทนนิติบุคคลที่ขาดความสามารถ อันจะทำให้นิติบุคคลให้การรับรองหรือให้สัตยาบันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2190/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไม่ทำตามแบบ การครอบครองปรปักษ์ และการพิพากษาเรื่องค่าเสียหาย
โจทก์จำเลยเป็นพี่น้องกัน จำเลยขายบ้าน 2 หลัง และส่งมอบให้โจทก์เข้าครอบครองอาศัยตลอดมา โดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แสดงว่าคู่กรณีมิได้มีเจตนาที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายมาแต่แรกการซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะและจะถือว่าการซื้อขายบ้านหลังที่ 2 ซึ่งโจทก์ยังค้างชำระเงิน เป็นสัญญาจะซื้อขายก็ไม่ได้ เพราะโจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ซื้อบ้านจากจำเลยเด็ดขาดมาแต่แรกแล้วแม้การซื้อขายเป็นโมฆะแต่โจทก์ครอบครองบ้านหลังแรกอย่างเป็นเจ้าของถึงวันฟ้องเกินกว่า 10 ปีแล้ว โจทก์จึงได้กรรมสิทธิ์บ้านหลังแรกโดยการครอบครองปรปักษ์
of 14