พบผลลัพธ์ทั้งหมด 136 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์: การบังคับคดีและการเปลี่ยนแปลงสัญญา
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น กฎหมายมิได้บังคับว่า ถ้ามิได้ทำให้ถูกต้องตามมาตรา 538 การเช่าจะต้องเป็นโมฆะ กฎหมายบังคับแต่ว่า ถ้ามิได้ทำให้ถูกต้องตามมาตรา 538 ก็จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ เท่านั้น มิได้เกี่ยวกับปัญหาที่ว่าจะเป็นสัญญาเช่าหรือไม่อย่างใด
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ แม้ผู้สุจริตก็จะดูหลักฐานแต่ทางทะเบียนอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องดูหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือด้วย ฉะนั้นการทำสัญญาเพิ่มค่าเช่านั้น แม้การเช่าเดิมจะได้จดทะเบียนไว้ ก็อาจนับว่าเป็นหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด ซึ่งตามกฎหมายบัญญัติให้ฟ้องร้องบังคับคดีได้สามปีด้วย
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ แม้ผู้สุจริตก็จะดูหลักฐานแต่ทางทะเบียนอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องดูหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือด้วย ฉะนั้นการทำสัญญาเพิ่มค่าเช่านั้น แม้การเช่าเดิมจะได้จดทะเบียนไว้ ก็อาจนับว่าเป็นหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด ซึ่งตามกฎหมายบัญญัติให้ฟ้องร้องบังคับคดีได้สามปีด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์: การแก้ไขค่าเช่าและผลผูกพันตามสัญญา แม้ไม่ได้จดทะเบียน
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น กฎหมายมิได้บังคับว่า ถ้ามิได้ทำให้ถูกต้องตามมาตรา 538 การเช่าจะต้องเป็นโมฆะ กฎหมายบังคับแต่ว่า ถ้ามิได้ทำให้ถูกต้องตามมาตรา 538ก็จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้เท่านั้น มิได้เกี่ยวกับปัญหาที่ว่าจะเป็นสัญญาเช่าหรือไม่อย่างใด
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ แม้ผู้สุจริตก็จะดูหลักฐานแต่ทางทะเบียนอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องดูหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือด้วย ฉะนั้น การทำสัญญาเพิ่มค่าเช่านั้น แม้การเช่าเดิมจะได้จดทะเบียนไว้ ก็อาจนับว่าเป็นหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด ซึ่งตามกฎหมายบัญญัติให้ฟ้องร้องบังคับได้สามปีด้วย
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ แม้ผู้สุจริตก็จะดูหลักฐานแต่ทางทะเบียนอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องดูหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือด้วย ฉะนั้น การทำสัญญาเพิ่มค่าเช่านั้น แม้การเช่าเดิมจะได้จดทะเบียนไว้ ก็อาจนับว่าเป็นหลักฐานการเช่าที่เป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด ซึ่งตามกฎหมายบัญญัติให้ฟ้องร้องบังคับได้สามปีด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเรือนให้โดยไม่จดทะเบียน: สภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ทำให้สัญญาไม่สมบูรณ์
แม้สัญญาให้จะมีข้อความว่า ผู้ให้ยินยอมให้ผู้รับรื้อถอนเรือนได้ในเมื่อไปอยู่ที่อื่นก็ดี แต่ถ้าคู่สัญญามิได้เจตนาจะให้มีการรื้อถอนเรือนไปในเวลาใกล้ชิดกับวันที่ทำสัญญายกให้แล้ว เรือนนั้นหากลายสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ แต่ยังคงมีสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ดังเดิม ฉะนั้น เมื่อการยกให้ทำแต่เพียงเป็นหนังสือ มิได้จดทะเบียน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเรือนให้โดยไม่จดทะเบียน: สภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ทำให้สัญญาไม่สมบูรณ์
แม้สัญญาให้จะมีข้อความว่า ผู้ให้ยินยอมให้ผู้รับรื้อถอนเรือนได้ในเมื่อไปอยู่ที่อื่นก็ดี แต่ถ้าคู่สัญญามิได้เจตนาจะให้มีการรื้อเรือนไปในเวลาใกล้ชิดกับวันที่ทำสัญญายกให้แล้ว เรือนนั้นหากลายสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ แต่ยังคงมีสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ดังเดิม ฉะนั้นเมื่อการยกให้ทำแต่เพียงเป็นหนังสือ มิได้จดทะเบียน จึงไม่สมบูรณ์ และตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประมงและการยินยอมให้เข้าทำประโยชน์ แม้มิได้ทำสัญญาตามแบบ ไม่ทำให้สัญญานั้นเป็นโมฆะ
ในเรื่องการประมูลผูกขาดการทำประมงมีกฎกระทรวงเกษตรฯ วางระเบียบว่าเมื่อชี้ขาดให้ผู้ใดได้รับประมูลแล้ว ก็ให้เรียกผู้นั้นมาชำระเงินและดำเนินการออกประทานบัตรตามแบบพิมพ์ ปรากฎว่าจำเลยประมูลได้และวางเงินมัดจำไว้ 10 % แล้วจำเลยไม่มาทำสัญญาตามแบบพิมพ์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกประทานบัตรให้ ถ้าหากเจ้าหน้าที่ได้ยินยอมอนุญาตให้จำเลยเข้าทำประมงตามที่ประมูลได้นั้นและจำเลยเข้าทำ ก็ถือว่ามีสัญญาต่อกันแล้ว การไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้ไม่ได้ทำให้สัญญาเป็นโมฆะหรือฟ้องร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประมูลและการยินยอมให้ทำประโยชน์ แม้มิได้ทำสัญญาตามระเบียบ แต่หากมีการยินยอมและทำประโยชน์แล้ว สัญญาก็มีผลผูกพัน
ในเรื่องการประมูลผูกขาดทำประมง มีกฎกระทรวงเกษตรฯ วางระเบียบว่าเมื่อชี้ขาดให้ผู้ใดได้รับประมูลแล้ว ก็ให้เรียกผู้นั้นมาชำระเงินและดำเนินการออกประทานบัตรตามแบบพิมพ์ ปรากฏว่าจำเลยประมูลได้และได้วางเงินมัดจำไว้10% แล้วจำเลยไม่มาทำสัญญาตามแบบพิมพ์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกประทานบัตรให้ถ้าหากเจ้าหน้าที่ได้ยินยอมอนุญาตให้จำเลยเข้าทำประมงตามที่ประมูลได้นั้นและจำเลยเข้าทำ ก็ถือว่ามีสัญญาต่อกันแล้วการไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้ไม่ได้ทำให้สัญญาเป็นโมฆะหรือฟ้องร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไม่จดทะเบียนเป็นโมฆะ ผู้ซื้อต้องคืนทรัพย์ ผู้ขายคืนเงิน
การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยทำหนังสือกันเองและไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น เป็นโมฆะเมื่อผู้ขายกล่าวอ้างขึ้นผู้ซื้อต้องคืนทรัพย์แก่ผู้ขายและรับเงินคืนจากผู้ขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไม่จดทะเบียนเป็นโมฆะ ผู้ซื้อต้องคืนทรัพย์และรับเงินคืน
การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยทำหนังสือกันเองและไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น เป็นโมฆะ เมื่อผู้ขายกล่าวอ้างขึ้น ผู้ซื้อต้องคืนทรัพย์แก้ผู้ขายและรับเงินคืนจากผู้ขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยทุจริตเป็นโมฆะ สิทธิจำนองที่จดทะเบียนกับผู้ไม่มีสิทธิไม่สมบูรณ์
จำเลยที่ 1 รับเอาโฉนดที่พิพาทของโจทก์ไปโดยบอกว่าจะซื้อ แล้วจัดการโอนเอาเสียเองโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย เมื่อนิติกรรมการโอนที่ดินรายพิพาทมาเป็นของจำเลยที่ 1 เกิดขึ้นจากการทุจริตและโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย นิติกรรมการโอนเป็นโมฆะแล้ว ก็ต้องถือเสมือนว่ามิได้มีนิติกรรมการโอนเกิดขึ้นเลย กรรมสิทธิ์ในที่ดินยังคงเป็นของโจทก์อยู่ตามเดิม หาตกเป็นของจำเลยที่ 1 ไม่ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้ว จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีสิทธิจะเอาที่ดินนั้นไปจำนองใครได้ การที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนรับจำนองที่ดินรายนี้ไว้จากจำเลยที่ 1 ผู้ไม่มีสิทธิจะจำนองได้ จึงไม่เกิดผลให้จำเลยที่ 2 มีสิทธิตามนิติกรรมจำนองนั้น
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2501)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยทุจริตทำให้การจำนองจากผู้ไม่มีสิทธิทำสัญญาเป็นโมฆะ กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของผู้ถือกรรมสิทธิ์เดิม
จำเลยที่ 1 รับเอาโฉนดที่พิพาทของโจทก์ไปโดยบอกว่าจะซื้อ แล้วจัดการโอนเอาเสียเองโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยเมื่อนิติกรรมการโอนที่ดินรายพิพาทมาเป็นของจำเลยที่ 1 เกิดขึ้นจากการทุจริตและโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยนิติกรรมการโอนเป็นโมฆะแล้วก็ต้องถือเสมือนว่ามิได้มีนิติกรรมการโอนเกิดขึ้นเลยกรรมสิทธิ์ในที่ดินยังคงเป็นของโจทก์อยู่ตามเดิมหาตกเป็นของจำเลยที่ 1 ไม่เมื่อจำเลยที่ 1ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้วจำเลยที่ 1 ก็ไม่มีสิทธิจะเอาที่ดินนั้นไปจำนองใครได้ การที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนรับจำนองที่ดินรายนี้ไว้จากจำเลยที่ 1 ผู้ไม่มีสิทธิจะจำนองได้ จึงไม่เกิดผลให้จำเลยที่2 มีสิทธิตามนิติกรรมจำนองนั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2501)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2501)