คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 806

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขัดทรัพย์: ศาลไม่จำเป็นต้องรับคำร้องหากไม่มีเหตุแก้ไข & การยินยอมให้ผู้อื่นจำนองทรัพย์สินโดยไม่เปิดเผยตัวตน
การที่ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง เมื่อไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องมีคำสั่งให้คืนไปให้ทำมาใหม่หรือแก้ไขเพิ่มเติมแล้วศาลชั้นต้นก็ต้องสั่งให้รับไว้ คำร้องขัดทรัพย์จะแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องพิจารณาในชั้นตรวจคำร้องขัดทรัพย์ ตามคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องที่อ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของที่ดินทั้งสามแปลงที่โจทก์นำยึดโดยใส่ชื่อ จำเลยไว้ในโฉนด แทนนั้นหากเป็นความจริงก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องซึ่งเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ยอมให้จำเลยผู้เป็นตัวแทนทำการออกหน้าเป็นตัวการนำที่ดินพิพาททั้งสามแปลงไปจำนองกับโจทก์ ผู้ร้องจึงหาอาจทำให้เสื่อมเสียแก่สิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่มีต่อจำเลยผู้เป็นตัวแทนและขวนขวายได้สิทธิมาก่อนที่จะรู้ว่าจำเลยเป็นตัวแทนของผู้ร้องได้ไม่ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1645/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและการจำนองโดยตัวแทน สิทธิของบุคคลภายนอกย่อมได้รับการคุ้มครอง
ย.แบ่งขายที่ดินบางส่วนให้จำเลย แต่ได้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งแปลงให้จำเลย และในวันเดียวกันนั่นเองจำเลยได้จำนองที่ดินแปลงดังกล่าวแก่โจทก์ ดังนี้ การที่ ย. โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งแปลงให้มีชื่อจำเลยในโฉนดแต่เพียงผู้เดียว เป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นโดยเปิดเผยว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของจำเลยจึงเท่ากับเป็นการยอมให้จำเลยผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนตนทำการออกหน้าว่าเป็นเจ้าของที่ดินคนเดียว ถือได้ว่าจำเลยมีฐานะเป็นตัวแทนของ ย.ในส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินของย. เมื่อจำเลยนำที่ดินไปจำนองไว้แก่โจทก์ต้องถือว่า ย. ยอมให้จำเลยทำการออกหน้าเป็นตัวการในการจำนอง ย. จึงไม่อาจทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 ผู้ร้องเป็นผู้รับมรดกของ ย.ซึ่งเป็นผู้รับโอน จึงไม่มีสิทธิดีกว่า ย. ผู้โอน เมื่อโจทก์บังคับจำนองนำยึดที่ดินดังกล่าว ผู้ร้องจะอ้างสิทธิของตนขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดหาได้ไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่ไม่ชัดเจนของจำเลย ถือเป็นการยอมรับข้อเท็จจริงของโจทก์ ศาลไม่รับฟังข้อต่อสู้เรื่องอายุความ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสอง ซึ่งเป็นสามีภริยากันและร่วมกัน ประกอบการค้าใช้ชื่อร้านว่า อารีรัตน์ ได้ซื้อสินค้าเครื่องเคมีภัณฑ์ ประเภทหัวน้ำหอมไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระเงินจำเลยทั้งสองหาได้ ให้การปฏิเสธว่ามิได้เป็นสามีภริยากันและมิได้ร่วมกันประกอบการค้า ใช้ชื่อร้านว่าอารีรัตน์ แต่อย่างใดไม่ ย่อมถือได้ว่าจำเลยทั้งสองรับข้อเท็จจริงดังกล่าวข้อที่ให้การว่าไม่เคยรับสินค้าตามฟ้องมาใช้ในกิจการส่วนตัว ถ้ามีการรับก็เป็นการรับไว้แทนผู้อื่นนั้น ไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งสองยอมรับ หรือปฏิเสธว่าไม่ได้รับสินค้าจากโจทก์และไม่ชัดแจ้งว่ารับไว้แทนบุคคลใด คำให้การจำเลยมิได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้าง ของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นจึงไม่มีประเด็น ที่จะนำสืบ การยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้นั้นเป็นการปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ จำเลยจะต้องแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การด้วยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะเหตุใดเมื่อคำให้การจำเลยมิได้แสดงเหตุเพียงแต่ให้การอย่างลอยๆ ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความปัญหาเรื่องอายุความจึงไม่เป็นประเด็น ที่จะต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่ไม่ชัดเจน ถือเป็นการยอมรับข้อเท็จจริงของโจทก์ และการยกอายุความต้องแสดงเหตุในคำให้การ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสอง ซึ่งเป็นสามีภริยากันและร่วมกันประกอบการค้าใช้ชื่อร้านว่า อารีรัตน์ ได้ซื้อสินค้าเครื่องเคมีภัณฑ์ ประเภทหัวน้ำหอมไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระเงิน จำเลยทั้งสองหาได้ให้การปฏิเสธว่ามิได้เป็นสามีภริยากันและมิได้ร่วมกันประกอบการค้าใช้ชื่อร้านว่าอารีรัตน์แต่อย่างใดไม่ย่อมถือได้ว่าจำเลยทั้งสองรับข้อเท็จจริงดังกล่าว ข้อที่ให้การว่าไม่เคยรับสินค้าตามฟ้องมาใช้ในกิจการส่วนตัว ถ้ามีการรับก็เป็นการรับไว้แทนผู้อื่นนั้น ไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งสองยอมรับหรือปฏิเสธว่าไม่ได้รับสินค้าจากโจทก์และไม่ชัดแจ้งว่ารับไว้แทนบุคคลใด คำให้การจำเลยมิได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นจึงไม่มีประเด็น ที่จะนำสืบ
การยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้นั้นเป็นการปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ จำเลยจะต้องแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การด้วยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความเพราะเหตุใด เมื่อคำให้การจำเลยมิได้แสดงเหตุ เพียงแต่ให้การอย่างลอย ๆ ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความปัญหาเรื่องอายุความจึงไม่เป็นประเด็น ที่จะต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งตัวแทนโดยไม่ทำเป็นหนังสือ สัญญาเช่าที่ทำผ่านตัวแทนไม่ผูกพันเจ้าของทรัพย์
โจทก์ผู้รับมรดกของ อ. ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวที่เช่า จำเลยอ้างว่าจำเลยตั้งให้ ร. เป็นตัวแทนของจำเลยเข้าทำสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าตึกแถวกับ อ. ผู้ให้เช่า ซึ่ง อ. ก็ทราบเรื่องนี้ดีและยินยอมให้ ร. เข้าทำสัญญาเช่าในฐานะตัวแทนของจำเลยได้กรณีจึงเป็นเรื่องที่จำเลยเปิดเผยให้บุคคลภายนอกทราบแล้วว่าตนเป็นตัวการตั้งให้ ร. ทำสัญญาเช่าแทนจำเลยจะมาอ้างว่าตนเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ กลับแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาเช่าที่ ร. ตัวแทนได้ทำไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 หาได้ไม่ การที่จำเลยตั้ง ร. เป็นตัวแทนไปกระทำการดังกล่าวซึ่งต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงต้องทำเป็นหนังสือเมื่อการตั้งตัวแทนของจำเลยไม่ได้ทำ เป็นหนังสือจึงไม่เป็นผลให้ใช้บังคับแก่ อ. และโจทก์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตามสัญญาเช่าดังกล่าวโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยออกไปจากตึกแถวของโจทก์ได้
เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำฟ้อง คำให้การและที่คู่ความแถลงรับกันเพียงพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อใดหรือทั้งคดีโดยไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นอีกแล้วศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งตัวแทนต้องทำเป็นหนังสือเมื่อสัญญาเช่าต้องจดทะเบียน และผลของการไม่ทำตามรูปแบบ
โจทก์ผู้รับมรดกของ อ.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวที่เช่า จำเลยอ้างว่าจำเลยตั้งให้ ร.เป็นตัวแทนของจำเลยเข้าทำสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าตึกแถวกับ อ.ผู้ให้เช่าซึ่งอ.ก็ทราบเรื่องนี้ดีและยินยอมให้ ร.เข้าทำสัญญาเช่าในฐานะตัวแทนของจำเลยได้กรณีจึงเป็นเรื่องที่จำเลยเปิดเผยให้บุคคลภายนอกทราบแล้วว่าตนเป็นตัวการตั้งให้ ร.ทำสัญญาเช่าแทนจำเลยจะมาอ้างว่าตนเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ กลับแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาเช่าที่ ร.ตัวแทนได้ทำไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 หาได้ไม่ การที่จำเลยตั้ง ร.เป็นตัวแทนไปกระทำการดังกล่าวซึ่งต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงต้องทำเป็นหนังสือ เมื่อการตั้งตัวแทนของจำเลยไม่ได้ทำ เป็นหนังสือจึงไม่เป็นผลให้ใช้บังคับแก่อ.และโจทก์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตามสัญญาเช่าดังกล่าวโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยออกไปจากตึกแถวของโจทก์ได้ เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำฟ้อง คำให้การและที่คู่ความแถลงรับกันเพียงพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อใดหรือทั้งคดีโดยไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นอีกแล้วศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2415-2426/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินโดยตัวแทน และสิทธิของเจ้าหนี้มีประกัน แม้กรรมสิทธิ์ที่แท้จริงอยู่ที่บริษัท
แม้จะฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นของบริษัท ศ. โดยจำเลยที่ 2 กรรมการผู้จัดการเพียงแต่มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินแทนดังข้ออ้างของผู้ร้อง แต่การที่บริษัท ศ. ยอมให้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นตัวแทนแสดงออกเป็นตัวการด้วยการเอาที่ดินรายพิพาทที่จำเลยที่ 2 มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดไปทำสัญญาจำนองเป็นประกันหนี้ให้ไว้ต่อเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ จำเลยที่ 2 จะต้องผูกพันรับผิดตามสัญญาจำนองดังกล่าวในฐานะเป็นคู่สัญญาโดยตรงและบริษัท ศ. อยู่ในฐานะเป็นตัวการซึ่งมิได้เปิดเผยชื่อซึ่งจะแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาจำนองที่จำเลยที่ 2ได้ทำไว้แทนตนดังกล่าวได้ แต่จะทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ที่มีต่อจำเลยที่ 2 และที่ขวนขวายได้มาก่อนรู้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนหาได้ไม่ดังนั้นผู้ร้องซึ่งเป็นเพียงผู้เช่าซื้อที่ดินจากบริษัท ศ. จึงไม่อาจอ้างสิทธิของบริษัท ศ. อันจะเป็นเหตุทำให้ เสื่อมเสียถึงสิทธิของเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ที่มีต่อจำเลยที่ 2 ได้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ ปัญหาว่าผู้ร้องมีสิทธิร้องขัดทรัพย์หรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2415-2426/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนทำสัญญาจำนองผูกพันเจ้าของทรัพย์ หากเจ้าของทรัพย์รู้เห็นและไม่ได้เปิดเผยตัวเป็นหลัก
แม้จะฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นของบริษัท ศ. โดยจำเลยที่ 2 กรรมการผู้จัดการเพียงแต่มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินแทนดังข้ออ้างของผู้ร้อง แต่การที่บริษัท ศ. ยอมให้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นตัวแทนแสดงออกเป็นตัวการด้วยการเอาที่ดินรายพิพาทที่จำเลยที่ 2 มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดไปทำสัญญาจำนองเป็นประกันหนี้ให้ไว้ต่อเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ จำเลยที่ 2 จะต้องผูกพันรับผิดตามสัญญาจำนองดังกล่าวในฐานะเป็นคู่สัญญาโดยตรง และบริษัท ศ. อยู่ในฐานะเป็นตัวการซึ่งมิได้เปิดเผยชื่อซึ่งจะแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาจำนองที่จำเลยที่ 2 ได้ทำไว้แทนตนดังกล่าวได้ แต่จะทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ที่มีต่อจำเลยที่ 2 และที่ขวนขวายได้มาก่อนรู้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนหาได้ไม่ ดังนั้นผู้ร้อง ซึ่งเป็นเพียงผู้เช่าซื้อที่ดินจากบริษัท ศ. จึงไม่อาจอ้างสิทธิของบริษัท ศ. อันจะเป็นเหตุทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ที่มีต่อจำเลยที่ 2 ได้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์
ปัญหาว่าผู้ร้องมีสิทธิร้องขัดทรัพย์หรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3409/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินโดยตัวแทนโดยไม่ได้เปิดเผยชื่อ ผลผูกพันสิทธิของตัวการ
จำเลยเป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนด แม้จะฟังว่าเป็นการมีชื่อถือกรรมสิทธิ์แทนในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องด้วย จำเลยก็มีฐานะเป็นตัวแทนของผู้ร้องในส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินของผู้ร้อง และผู้ร้องอยู่ในฐานะเป็นตัวการซึ่งมิได้เปิดเผยชื่อ เมื่อจำเลยได้นำที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างไปจำนองไว้แก่โจทก์ การจำนองย่อมมีผลผูกพันกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนของผู้ร้องด้วย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะขอให้ปล่อยทรัพย์ดังกล่าวที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้ารับสัญญาระหว่างตัวการและตัวแทน: สิทธิของตัวการในการฟ้องร้องตามสัญญา
จำเลยทำสัญญาเช่าบ้านพิพาทจาก น. และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ น. ยอมออกจากบ้าน การที่โจทก์ตัวการเข้ารับเอาสัญญาทั้งสองที่ น. ทำไว้แทนตนนั้นเป็นสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 การเข้ารับเอาไม่จำต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือแต่อย่างใด และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาว่าโจทก์ให้สัตยาบันหรือไม่ เพราะการให้สัตยาบันเป็นปัญหาที่จะพิจารณาถึงความรับผิดของตัวการตาม มาตรา 823 มิใช่ปัญหาเรื่องสิทธิของตัวการซึ่งต้องพิจารณาตามมาตรา 806
of 12