คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 12

การที่จะรื้อฟื้นเอาคำพิพากษาในคดีอาญาถึงที่สุดแล้วมาเปลี่ยนแปลงได้ จะต้องอาศัยอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง และมาตรา 3
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 12 ถึง 16 ได้บัญญัติเรื่องวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้และได้มี มาตรา41 บัญญัติถึงเงื่อนไขในการที่จะกักกันไว้ด้วยซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติกักกันฯ พ.ศ.2479 มาตรา8,9. ต้องนำบทบัญญัติ มาตรา 41 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่บัญญัติภายหลังเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้บังคับ

ม.8 พ.ร.บ.สาธารณสุขมิได้กำหนดให้อำนาจเทศบาลสั่งห้ามการกระทำเกี่ยวกับสุขลักษณ์โดยทั่วไป แต่ให้มีอำนาจออกเทศบัญญัติหรือข้อบังคับควบคุมได้ ถ้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตามก็ชอบที่จะขอให้ลงโทษตาม ม.68 จะดำเนินคดีแพ่งอย่างเดียวขอให้ห้ามมิให้ผู้กระทำผิดกระทำการต่อไปไม่ได้
อำนาจสั่งห้ามผู้กระทำผิดมิให้กระทำต่อไปตาม ม.68 นั้น เป็นวิธีอุปกรณ์ของโทษปรับตาม ม.นั้นเท่านั้น

เมื่อศาลชั้นต้นปรับจำเลย 100 บาท กับให้ริบของกลางด้วย จำเลยอุทธรณ์ขออย่าริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ฉะเพาะให้คืนทรัพย์ของกลาง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องริบของกลางไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. 220

กำหนดโทสที่อาดมีถึงจำคุก ย่อมหนักกว่ากำหนดโทสที่มีแต่ปรับสถานเดียว.
อัตราโทสตาม ม. 48 พ.ร.บ.การเก็บรักสาน้ำมันเชื้อเพลิง 2474 คือปรับตั้งแต่ 200 บาทถึง 1000 บาท ส่วนอัตราโทสตาม ม. 22 พ.ร.บ.การปันส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญญัติโทสไว้สามสถานถึงจำคุก กำหนดโทสตามกดหมายอันหลังย่อมหนักกว่าอันแรก.

การมีไม้สักไม่เป็นความผิดเป็นความผิดต่อเมื่อชักลากความผิดฐานชักลากไม้สักมีอายุความ 5 ปี นับแต่วันชักลาก เมื่อความผิดขาดอายุความฟ้องร้องแล้ว โทษริบทรัพย์ก็ขาดอายุความตามไปด้วย.

ความผิดฐานชักลากไม้สักมีอายุความ 5 ปีนับแต่วันชักลาก เมื่อความผิดขาดอายุความฟ้องร้องแล้ว โทษฐานริบทรัพย์ก็ขาดอายุความตามไปด้วย.

โทษกักกันเป็นโทษอาญา+านหนึ่งและเป็นโทษ+ความผิดโดยเอกเทศโจทก์จะฟ้องจำเลยเป็นสำนวนปลีกขึ้นมาโดยลำพังขอให้ลงโทษกักกันสถานเดียวก็ได้ การจะลงโทษกักกันแก่จำเลยหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของศาล ศาลอาจไม่ลงโทษกักกันแก่จำเลยซึ่งเคยกระทำผิด (อันเป็นเหตุร้าย) 2 ครั้งมาแล้วก็ได้

พะนันชนแมลงกว่าง
ค่าสินบนนำจับไม่ใช่โทษสิทธิเรียกร้องค่านำจับเป็นสิทธิฉะเพาะตัวของผู้นำจับเอง พนักงานอัยยการไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องแทนผู้นำจับ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลยและริบแร่ของกลางจำเลยได้ชำระค่าปรับแล้วในระหว่างอุทธรณ์จำเลยตายดังนี้ ผู้จัดการมฤดกของจำเลยหมดความชอบธรรมที่จะร้องขอเงินค่าปรับและแร่ของกลางคืน
(หมายเหตุ เรื่องนี้มารดาจำเลยเคยร้องขอรับมฤดกความครั้งหนึ่งแล้วตามฎีกาที่ 1685/2479)

ไพ่ป๊อกเป็นการพะนันชนิดห้ามขาดตามบัญชี ก.หมายเลข 11 ไม่ใช่ "ไพ่ต่างๆ" ตามบัญชี ข. อ้างฎีกาที่ 1376/2479
คดีที่คู่ความฎีกาได้แต่ฉะเพาะข้อกฎหมาย ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษที่ศาลล่างได้วางไว้ เช่นให้รอการลงอาญาโทษจำคุกก็ได้