คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 326

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3017/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนเพื่อประโยชน์ราชการและการป้องกันตนเอง ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยให้การต่อคณะกรรมการสอบสวนเนื่องจากถูกเรียกไปให้ถ้อยคำในฐานะเป็นพยานในกรณีที่ ส. ผู้บังคับบัญชาจำเลยถูกกล่าวหาว่าปกิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจำเลยเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ ส. จำเลยกล่าวถ้อยคำเพื่อประโยชน์แก่ราชการอันเป็นส่วนรวมและมีมูลความจริง แม้ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวจะพาดพิงไปถึงโจทก์ ก็เป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2818/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานกล่าวติชมในที่ประชุมสภาเทศบาล ไม่เป็นความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือหมิ่นประมาท
การที่จำเลยซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเป็นเจ้าพนักงานในเทศบาลผู้หนึ่งได้กล่าวอภิปรายในที่ประชุมสมาชิกสภาเทศบาลนั้นมิใช่เป็นการกระทำในหน้าที่ราชการของนายกเทศมนตรี และถ้อยคำที่จำเลยกล่าวก็เป็นการกล่าวติชมด้วยความเป็นธรรมในฐานะที่จำเลยเป็นผู้เสนอญัตติ และเพื่อให้สมาชิกสภาเทศบาลรับทราบเรื่องที่จำเลยได้เสนอเข้าพิจารณาในที่ประชุมจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและหมิ่นประมาทโจทก์
ตามรายงานกระบวนพิจารณาครั้งสุดท้ายมีว่าคู่ความมีการเจรจาเพื่อตกลงกันโดยศาลช่วยไกล่เกลี่ยและศาลเห็นว่าคู่ความมีทางตกลงกันได้ โดยโจทก์ขอเวลาไปไตร่ตรองเพื่อตัดสินใจ ขอให้ศาลเลื่อนการฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งไปก่อนเช่นนี้ถือได้ว่าผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณาตามรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวเป็นผู้นั่งพิจารณาคดีนี้แล้ว แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณานี้จะมิได้นั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์โดยตลอดคงทำการพิจารณาและจดรายงานกระบวนพิจารณาครั้งสุดท้ายเพียงครั้งเดียวผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณานี้ชอบที่จะทำคำพิพากษาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2818/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวติชมในที่ประชุมสภาเทศบาล ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
การที่จำเลยซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเป็นเจ้าพนักงานในเทศบาลผู้หนึ่งได้กล่าวอภิปรายในที่ประชุมสมาชิกสภาเทศบาลนั้น มิใช่เป็นการกระทำในหน้าที่ราชการของนายกเทศมนตรี และถ้อยคำที่จำเลยกล่าวก็เป็นการกล่าวติชมด้วยความเป็นธรรมในฐานะที่จำเลยเป็นผู้เสนอญัตติและเพื่อให้สมาชิกสภาเทศบาลรับทราบเรื่องที่จำเลยได้เสนอเข้าพิจารณาในที่ประชุม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและหมิ่นประมาทโจทก์ ตามรายงานกระบวนพิจารณาครั้งสุดท้ายมีว่าคู่ความมีการเจรจาเพื่อตกลงกันโดยศาลช่วยไกล่เกลี่ยและศาลเห็นว่าคู่ความมีทางตกลงกันได้โดยโจทก์ขอเวลาไปไตร่ตรองเพื่อตัดสินใจ ขอให้ศาลเลื่อนการฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งไปก่อนเช่นนี้ ถือได้ว่าผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณาตามรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวเป็นผู้นั่งพิจารณาคดีนี้แล้ว แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณานี้จะมิได้นั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์โดยตลอดคงทำการพิจารณาและจดรายงานกระบวนพิจารณาครั้งสุดท้ายเพียงครั้งเดียวผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณานี้ชอบที่จะทำคำพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาท: ข้อความวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานและการวิ่งเต้นทางการเมือง ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท
จำเลยจัดทำและพิมพ์เอกสารที่เรียกว่าจดหมายเปิดผนึกโดยมีข้อความตอนแรกว่า 'สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ... ย้ายผู้ว่าการประปานครหลวงรองผู้ว่าการบริการและรองผู้ว่าการวิชาการ(ซึ่งหมายถึงโจทก์ทั้งสาม) ไปประจำกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากบริหารงานการประปานครหลวงผิดพลาดล้มเหลวและพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สู้ดี ไม่สามารถขจัดการสูญเสียน้ำประปา 48เปอร์เซ็นต์ได้' กับตอนที่สองว่า 'การย้ายฝ่ายบริหารชุดดำเนินงานผิดพลาดไปประจำกระทรวงมหาดไทยโดยมิได้ปลดออกจากตำแหน่ง ทำให้พรรคพวกเส้นสาย บริวารเก่าๆ ยังมีความคิดว่าเจ้านายตัวเองจะต้องกลับมาบริหารงานในตำแหน่งเดิมอีก และได้มีการวิ่งเต้นกลุ่มการเมืองเพื่อขอกลับมามีอำนาจและแสวงหาผลประโยชน์' ข้อความตอนแรก จำเลยเพียงแต่เท้าความถึงเรื่องที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ย้ายโจทก์ทั้งสามไปประจำกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากโจทก์บริหารงานผิดพลาดล้มเหลว ส่วนที่ว่าพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สู้ดีอาจมีความหมายว่าหมายถึงโจทก์ฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามรับพนักงานใหม่ตามที่จำเลยนำสืบ จึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยกล่าวหาว่าโจทก์ทั้งสามทุจริต สำหรับข้อความตอนที่สอง จำเลยมิได้กล่าวยืนยันว่าโจทก์ทั้งสามเป็นผู้วิ่งเต้นเพื่อกลับมาแสวงหาประโยชน์อันมิชอบ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ทั้งสาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2180/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทต้องยืนยันข้อเท็จจริง การถามความเห็นหรือคาดคะเน ไม่ถือเป็นความผิด
การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น จะต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ใส่ความนั้นต่อบุคคลที่สามและการใส่ความนั้นน่าจะทำให้ผู้อื่นที่ถูกใส่ความเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ดังนั้น การที่จำเลยถาม ป. ว่ามีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์หรือไม่ จึงเป็นเพียงการคาดคะเนของจำเลยเท่านั้น มิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอันน่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังแต่ประการใด จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทและข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยกล่าววาจาต่อหน้าโจทก์ จึงไม่ใช่เป็นดูหมิ่นโจทก์ซึ่งหน้า จำเลยไม่มีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2180/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความต้องยืนยันข้อเท็จจริงและทำให้เสียชื่อเสียง จึงจะเป็นหมิ่นประมาท
การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น จะต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ใส่ความนั้นต่อบุคคลที่สามและการใส่ความนั้นน่าจะทำให้ผู้อื่นที่ถูกใส่ความเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ดังนั้น การที่จำเลยถาม ป. ว่ามีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์หรือไม่จึงเป็นเพียงการคาดคะเนของจำเลยเท่านั้นมิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอันน่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังแต่ประการใดจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยกล่าววาจาต่อหน้าโจทก์ จึงไม่ใช่เป็นดูหมิ่นโจทก์ซึ่งหน้า จำเลยไม่มีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2180/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทต้องเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ไม่ใช่แค่การคาดคะเนหรือถามถึงความสัมพันธ์
การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น จะต้องเป็นการใส่ความผู้อื่นโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ใส่ความนั้นต่อบุคคลที่สามและการใส่ความนั้นน่าจะทำให้ผู้อื่นที่ถูกใส่ความเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ดังนั้น การที่จำเลยถาม ป. ว่ามีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์หรือไม่ จึงเป็นเพียงการคาดคะเนของจำเลยเท่านั้น มิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอันน่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังแต่ประการใด จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทและข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยกล่าววาจาต่อหน้าโจทก์ จึงไม่ใช่เป็นดูหมิ่นโจทก์ซึ่งหน้า จำเลยไม่มีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2155/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถามถึงความสัมพันธ์ชู้สาว ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นซึ่งหน้า
จำเลยถาม ป. ว่า มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์จริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ให้เลิกเสีย ไม่ได้ยืนยันว่า ป. มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์ยังไม่เข้าลักษณะเป็นการใส่ความอันจะเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ และเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกล่าวเช่นนั้นต่อหน้าโจทก์จึงมิใช่เป็นการดูหมิ่นโจทก์ซึ่งหน้าอีกเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2155/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถามถึงความสัมพันธ์ชู้สาวไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นซึ่งหน้า
จำเลยถาม ป. ว่า มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์จริงหรือไม่ถ้าจริงก็ให้เลิกเสีย ไม่ได้ยืนยันว่า ป. มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์ยังไม่เข้าลักษณะเป็นการใส่ความอันจะเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ และเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกล่าวเช่นนั้นต่อหน้าโจทก์จึงมิใช่เป็นการดูหมิ่นโจทก์ซึ่งหน้าอีกเช่นกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808-1809/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์: ข้อความแสดงความรู้สึก vs. ยืนยันข้อเท็จจริงที่เป็นความเท็จ
ข้อความที่จำเลยลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ผู้เสียหายเรียกตัวยากหาตัวลำบากแถมยังมีราคีเรื่องอื่น ๆ เป็นข้อความที่แสดงความรู้สึกว่าไม่อาจเรียกตัวผู้เสียหาย หรือพบตัวผู้เสียหายลำบากเท่านั้น มิได้แสดงว่าผู้เสียหายมีราคีมัวหมองในเรื่องใด ทั้งปรากฏว่าผู้เสียหายได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกสมัย ผู้เสียหายจึงมิได้ถูกใส่ความโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ส่วนข้อความที่ลงพิมพ์ว่า 'เหตุไฉนรัฐมนตรีบัญญัติจึงพูดบิดเบือนความจริง เรื่องศาลากลาง สนามกีฬา ทำไมไม่พูดเรื่องกัญชาข้อหาฉกรรจ์เพราะประชาชนข้องใจ แต่ที่จำได้ ส.ส. ขี่ควายไม่อายเท่าใด ส.ส. ค้ายาเสพติดนั่นคือสิ่งที่ประชาชนสนใจ' นั้นประชาชนผู้อ่านหนังสือพิมพ์ย่อมเข้าใจได้ว่า รัฐมนตรีบัญญัติผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรค้ายาเสพติดให้โทษคือกัญชาซึ่งไม่ตรงกับความจริง จำเลยหาได้ติชมด้วยความเป็นธรรมหรือโดยความสุจริตใจแต่อย่างใดไม่และมิใช่ข้อความที่ไม่เหมาะสม แต่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายค้ายาเสพติดให้โทษ จึงเป็นข้อความที่ใส่ความผู้เสียหายด้วยการแพร่ข่าวสารทางหนังสือพิมพ์โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328.
of 47