พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนและการสมคบเพื่อกระทำความผิดทางอาญา
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิงจนมีคนวิ่งมาร้องถาม ชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม. 218 นั้นหมายถึงโทษแต่ละกะทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตาม ก.ม.อาญาม. 298 ,299,63 และตาม ม. 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตาม ก.ม.อาญาม. 298 ,299,63 และตาม ม. 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ลงโทษไม่ได้ตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อคืนระหว่างวันที่ 11,12 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดในคืนวันที่ 10 ถือว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริง ที่บรรยายมาในฟ้องลงโทษจำเลยไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 192(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความยินยอมในการกระทำชำเรา: การยั่วกามารมย์ไม่ใช่การหลอกลวง
ไช้อุบายยั่วกามารมย์หยิงจนหยิงยินยอมไห้ชำเรา ไม่เรียกว่าไช้อุบายหลอกลวงชำเราขืนไจหยิง ไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาญาแผ่นดินตาม ม.247 ผู้เสียหายไม่มีอำนาจถอนคดี แม้เหตุเกิดในที่ส่วนตัว
อาญา ม.243 เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายไม่มีอำนาจถอนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ส่งผลให้โจทก์หมดสิทธิฟ้องร้อง แม้ศาลไม่สังคำ
คดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัวไว้ต่อศาลแล้วนั้น เมื่อเจ้าทุกข์ยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนคำร้องทุกข์เสียแล้ว โดยคำร้องขอถอนนั้นมีข้อความถูกต้อง แม้ศาลจะไม่สังคำร้องขอถอนนั้น ก็ถือว่าโจทก์หมดสิทธิในการว่ากล่าวเอาโทษแก่จำเลยในความผิดต่อส่วนตัวต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การกระทำทางเพศโดยไม่ได้รับความยินยอม และการแก้ไขโทษโดยศาลอุทธรณ์
ชายอุดปากหยิงขึ้นคร่อมแก้ผ้าของตัวของหยิงและจะเอาของลับใส่ของลับหยิง หากหยิงผลักไสไม่ยอมจนมีคนมาพบเข้าชายจึงหนีไปดังนี้ ถือได้ว่าเป็นพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 4 เดือน ตามมาตรา 246 และรอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 8 เดือนตามมาตรา 243-60 และ 246 และไม่รอการลงอาญานับว่าเป็นการแก้ไขมาก
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 4 เดือน ตามมาตรา 246 และรอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 8 เดือนตามมาตรา 243-60 และ 246 และไม่รอการลงอาญานับว่าเป็นการแก้ไขมาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์แทนบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ และการพิจารณาข้อเท็จจริงของศาลชั้นต้น
บิดาทำการร้องทุกข์แทนบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะได้ ข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้ง 2 ฟังต้องกันมาและลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี นั้น ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฉุดคร่า-ข่มขืนฯ ต้องระบุการร้องทุกข์ในฟ้องคดีอาญาต่อส่วนตัว
ข่มขืนกระทำชำเราในห้องปิดประตู ไม่เป็นการต่อหน้าธาระกำนัล
พฤตติการณ์ที่ถือว่าการฉุดคร่าและการข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดคนละกะทง
คดีอาญาซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น เมื่ออัยยการเป็นผู้ฟ้อง ในฟ้องนั้นต้องบรรยายมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีนั้นว่ากล่าวแล้ว มิฉะนั้นศาลจะรับพิจารณาในความใดต่อส่วนตัวนี้มิได้
อ้างฎีกาที่ 1212/2480
พฤตติการณ์ที่ถือว่าการฉุดคร่าและการข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดคนละกะทง
คดีอาญาซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้น เมื่ออัยยการเป็นผู้ฟ้อง ในฟ้องนั้นต้องบรรยายมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีนั้นว่ากล่าวแล้ว มิฉะนั้นศาลจะรับพิจารณาในความใดต่อส่วนตัวนี้มิได้
อ้างฎีกาที่ 1212/2480
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งข้อเท็จจริงในคดีอาญา: ศาลฎีกายกข้อฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยืนตามคำพิพากษาเดิม
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลย 4 กระทงฐานทำร้ายร่างกาย จำคุก 3 เดือนกระทงหนึ่งฐานฉุกคร่าอนาจารจำคุก 3ปีกระทงหนึ่ง, ฐานข่มขืนชำเรา 2 กระทงจำคุก 4 ปี, รวมโทษ 7 ปี 3 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกฟ้องโจทก์ฐานข่มขืนทำชำเรา 2 กระทงนั้นเสีย คงลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายและฉุดคร่า อนาจารตามศาลชั้นต้นดังนี้ จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ในการทำร้ายร่างกายและฉุดคร่า