พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย เป็นโทษเสริมจากโทษฐานความผิด ลดโทษตามมาตรา 59 ไม่ได้
แม้ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดที่จำเลยกระทำนั้น พร้อมกับเพิ่มโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 72 แล้วก็ตาม ถ้าปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายแล้ว ศาลก็เพิ่มโทษกักกันขึ้นอีกโสดหนึ่ง
โทษกักกันเป็นโทษเพิ่มสถานหนึ่งต่างหากจากโทษ อันเป็นฐานความผิดจึงจะลดโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 ไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1387/2495)
โทษกักกันเป็นโทษเพิ่มสถานหนึ่งต่างหากจากโทษ อันเป็นฐานความผิดจึงจะลดโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 ไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1387/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1387/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษกักกันเป็นโทษเพิ่มเติมนอกเหนือจากโทษฐานความผิด การลดโทษตามมาตรา 59 จึงใช้ไม่ได้
โทษกักกันเป็นโทษเพิ่มสถานหนึ่งต่างหากจากโทษอันเป็นฐานความผิดที่ได้กระทำลง ฉะนั้นแม้จำเลยจะรับสารภาพศาลก็จะลดโทษกักกันให้ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 59 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลลดโทษปรานีตามมาตรา 59 วรรคท้าย แห่งกฎหมายลักษณะอาญา
กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 ตอนท้ายให้อำนาจศาลในการที่จะใช้ดุลพินิจลดโทษปรานีให้จำเลยไว้อย่างกว้างๆ ฉะนั้นเมื่อศาลพิเคราะห์เห็นมีเหตุสมควรจะปรานีแก่จำเลยแล้ว ศาลก็ย่อมใช้อำนาจตามมาตรา 59 ตอนท้ายนี้ลดโทษฐานปรานีแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลลดโทษตามมาตรา 59 กรณีผู้ถูกทำร้ายมีพฤติกรรมยั่วยุ
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 59 ตอนท้ายให้อำนาจศาลในการที่จะใช้ดุลยพินิจลดโทษปราณีให้จำเลยไว้อย่างกว้าง ๆ ฉะนั้นเมื่อศาลพิเคราะห์เห็นมีเหตุสมควรจะปราณีแก่จำเลยแล้ว ศาลก็ย่อมใช้อำนาจตามมาตรา 59 ตอนท้ายนี้ ลดโทษฐานปราณีแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า, ป้องกันตัว, คำให้การจำเลย, การชันสูตรพลิกศพ, ลดโทษ
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องโดยมีการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้ว จำเลยจะคัดค้านว่า แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพไม่ได้ไปชันสูตรศพด้วยตนเองนั้น ฟังไม่ขึ้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 129
คดีที่จำเลยต่อสู้ว่ากระทำโดยป้องกันตัว โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุเลย และศาลพิพากษาลงโทษจำเลยโดยอาศัยคำให้การจำเลยที่รับว่าได้ทำร้ายผู้ตายนั้น เป็นเหตุควรปรานีลดโทษให้จำเลยตามมาตรา 59
คดีที่จำเลยต่อสู้ว่ากระทำโดยป้องกันตัว โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุเลย และศาลพิพากษาลงโทษจำเลยโดยอาศัยคำให้การจำเลยที่รับว่าได้ทำร้ายผู้ตายนั้น เป็นเหตุควรปรานีลดโทษให้จำเลยตามมาตรา 59
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนา: การทำร้ายด้วยอาวุธจนถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้ไม้สี่เหลี่ยมโตขนาด 3 นิ้วยาว 1 ศอกตีผู้ตายที่ขมับและแง่ศีรษะ 3-4 ทีโดยแรงถึงเยื่อกะโหลกศีรษะแตก 3 แห่ง และเมื่อผู้ตายล้มลงไปแล้วยังตีซ้ำอีก ดังนี้ ถือว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามมาตรา 249
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรก แม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลก็ปราณลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรก แม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลก็ปราณลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาจากกิริยาอาการและผลของการกระทำ
จำเลยใช้ไม้สี่เหลี่ยมโตขนาด 3 นิ้วยาว 1 ศอก ตีผู้ตายที่ขมับและแง่ศรีษะ 3-4 ทีโดยแรงถึงเยื่อกะโหลกศรีษะแตก 3 แห่ง และเมื่อผู้ตายล้มลงไปแล้วยังตีซ้ำอีก ดังนี้ ถือว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามมาตรา 249
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรกแม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ก็ปราณีลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรกแม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ก็ปราณีลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองสุราผิดกฎหมายและการพิพากษาโทษ ศาลฎีกาไม่ลดโทษเพิ่มจากศาลอุทธรณ์
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยมีลูกแป้งเชื้อสุราไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานนั้น ย่อมเป็นองค์ความผิดชัดแจ้งตามกฎหมายแล้ว หาจำต้องกล่าวว่า การกระทำของจำเลยไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 16 พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม 2486 ด้วยไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับจำเลยเพียงเล็กน้อย ศาลฎีกาจะไม่ลดโทษฐานรับสารภาพให้อีกก็ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับจำเลยเพียงเล็กน้อย ศาลฎีกาจะไม่ลดโทษฐานรับสารภาพให้อีกก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากการป้องกันตัวเกินสมควร: ลดหย่อนผ่อนโทษได้
ผู้ตายถูกแทงที่รักแร้ลึกเข้าปอด และที่ลิ้นปี่ลึกเข้าช่องท้องอันตรายแก่กะเพาะอาหารเป็นบาดแผลถูกแทงโดยแรง ผู้แทงย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ถูกแทงจะต้องตายเป็นธรรมดา และผู้ตายก็ล้มลงและขาดใจตายหน้าห้องจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยแสดงว่าเจตนาฆ่า มีผิดตามมาตรา 249
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำ ทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา 50,53.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำ ทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา 50,53.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากการป้องกันเกินสมควร การลดโทษจากเหตุทำอนาจาร
ผู้ตายถูกแทงที่รักแร้ลึกเข้าปอด และที่ลิ้นปี่ลึกเข้าช่องท้องอันตรายแก่กระเพาะอาหารเป็นบาดแผลถูกแทงโดยแรงผู้แทงย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ถูกแทงจะต้องตายเป็นธรรมดา และผู้ตายก็ล้มลงและขาดใจตายหน้าห้องจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลย แสดงว่าเจตนาฆ่ามีผิดตามมาตรา 249
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา50,53 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา50,53 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)