คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 50

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อป้องกันการประทุษร้ายต่อตนเองบนเรือน
โจทก์ฟ้องฐานฆ่าคนตาย จำเลยต่อสู้ว่า กระทำโดยบรรดาลโทษะตามมาตรา 55 จำเลยย่อมยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ว่า กระทำเพราะจำเป็นเพื่อป้องกันตัวตามมาตรา 49(2) ได้
พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาสามารถพิจารณาการป้องกันตัวได้
โจทก์ฟ้องฐานฆ่าคนตาย จำเลยต่อสู้ว่ากระทำโดยบันดาลโทสะตามมาตรา 55 จำเลยย่อมยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ว่ากระทำเพราะจำเป็นเพื่อป้องกันตัวตามมาตรา 49(2) ได้
ผู้ตายบังอาจขึ้นไปตีจำเลยถึงบนเรือนของจำเลย ตีแล้วยังถือไม้อยู่เมื่อจำเลยถูกทำร้ายและเป็นเวลาปัจจุบันทันด่วนจำเลยจึงหยิบมีดขอฟันผู้ตายไป 1 ที ถูกผู้ตายการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยอ้างป้องกันตัว โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน หากไม่นำสืบต้องยกฟ้อง
คดีอาญา จำเลยให้การว่าได้กระทำเพื่อป้องกันตัว โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบก่อน เมื่อไม่นำสืบ ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-587/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวในคดีวิวาททำร้ายร่างกาย: หลักฐานพยานไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
โจทก์ฟ้องจำเลย 4 คน หาว่าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันจำเลยต่างให้การปฏิเสธ โจทก์มีพยานปาก 1 เบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลยฝ่ายหนึ่งแสดงว่าเป็นการป้องกัน และมีพยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลย อีกฝ่ายหนึ่งว่าทำโดยป้องกัน ดังนี้คดีลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดในคดีอาญา จำเลยต่อสู้ว่าทำร้ายเพื่อป้องกันตัว โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิดเอง
คำรับของจำเลยที่รับว่า ได้ทำร้ายผู้เสียหายจริงแต่ได้ทำไปโดยการป้องกันตัวนั้น ถือว่าไม่ใช่คำรับสารภาพตามฟ้องตามที่กำหนดไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 จะฟังเอาคำรับของจำเลยแต่เพียงบางส่วนไปลงโทษจำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงคงมีหน้าที่ต้องนำสืบตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 174 เพื่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยควรรับโทษถ้าโจทก์ไม่สืบ ก็ต้องยกฟ้อง
ในคดีอาญานั้น แม้โจทก์จำเลยตกลงอ้างและขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตามคำให้การของพยานในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งซึ่งเกี่ยวเนื่องในกรณีเดียวกันศาลก็ไม่รับฟังคำพยานเหล่านั้นเพื่อลงโทษจำเลย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่1/2491 และครั้งที่ 8,9/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับคำให้การต่อสู้ของจำเลยไม่ใช่คำรับสารภาพ และหน้าที่การนำสืบของโจทก์ในคดีอาญา
คำรับของจำเลยที่รับว่า ได้ทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่ได้ทำไปโดยการป้องกันตัวนั้น ถือว่าไม่ใช่คำรับสารภาพตามฟ้องตามที่กำหนดไว้ใน ป.ม.วิ.อาญา ม.176 จะฟังเอาคำรับของจำเลยแต่เพียงบางส่วนไปลงโทษจำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงคงมีหน้าที่ต้องนำสืบตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 174 เพื่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยควรรับโทษ ถ้าโจทก์ไม่สืบก็ต้องยกฟ้อง
ในคดีอาญานั้น แม้โจทก์จำเลยตกลงอ้างและขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตามคำให้การขอพะยานในคดีอาญาอีกคดีหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวเนื่องในกรณีเกียวกัน ศาลก็ไม่รับฟังคำพะยานเหล่านั้นเพื่อลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมนอกหน้าที่และการป้องกันตัวโดยชอบธรรม เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจจับกุมในเคหสถาน
กรมการอำเภอตั้งกำนันตรวจโรงฆ่าสัตว์ และทำการจับกุมผู้ฆ่าสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต กำนันไปพบผู้หาบของมาสงสัยว่า จะทำการขายเนื้อสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต จะเข้าจับกุมผู้นั้นหนีเข้าบ้าน กำนันตามเข้าไปเพื่อจะจับ จำเลยหยิบมีดมา เงื้อจะทำร้ายพอดีตำรวจจับจำเลย ดังนี้ ไม่มีเหตุถือว่า เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า และคดีนี้กำนันไม่มีอำนาจเข้าไปจับในห้อง จึงเป็นการนอกหน้าที่ จำเลยทำการป้องกันได้ ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายในเวลากลางคืนและการใช้สัดส่วนในการป้องกัน
ผู้ตายเมาสุราเข้าทำร้ายจำเลยด้วยมือเปล่าเป็นพัลวัล คือชกจำเลยล้มแล้ว ยังต่อยและเตะซ้ำอีกหลายที ทั้งเวลาที่เกิดเหตุก็เป็นเวลากลางคืน จำเลยไม่สามารถจะทราบได้ว่า ผู้ตายมีอาวุธติดตัวมาด้วยหรือไม่ จำเลยจึงใช้มีดที่มีติดตัวไป ทำการป้องกันตัว ถูกผู้ตายในที่สำคัญ ผู้ตาย ตาย ดังนี้เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้ใช้มีดต่อสู้เมื่อถูกทำร้ายร่างกายในเวลากลางคืน
ผู้ตายเมาสุราเข้าทำร้ายจำเลยด้วยมือเปล่าเป็นพัลวัล คือชกจำเลยล้มแล้ว ยังต่อยและเตะซ้ำอีกหลายที ทั้งเวลาที่เกิดเหตุก็เป็นเวลากลางคืน จำเลยไม่สามารถจะทราบได้ว่า ผู้ตายมีอาวุธติดตัวมาด้วยหรือไม่ จำเลยจึงใช้มีดที่มีติดตัวไป ทำการป้องกันตัว ถูกผู้ตายในที่สำคัญ ผู้ตาย ตายดังนี้เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ความรุนแรงป้องกันทรัพย์สิน: การยิงผู้ลักทรัพย์ต้องพิจารณาความจำเป็นและเหตุผลสมควร
เห็นคนในสวนทุเรียนในเวลาค่ำคืน เข้าใจว่าเป็นคนร้ายร้องทักถามแล้วไม่ได้รับคำตอบจึงใช้ปืนแก๊ปยิงไป 1นัด ถูกที่ขา บาดเจ็บสาหัส ดังนี้เป็นการกระทำอันเกินสมควรแก่เหตุ และมีความผิด
ใช้ปืนแก๊บยิงคนร้ายถูกขาอ่อนทะลุเป็นบาดแผลสาหัส และเจตนาป้องกันทรัพย์และมีพฤติการณ์อื่นประกอบ ถือว่ามีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่าคน
of 24