พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การทำร้ายหลังแย่งอาวุธ
จำเลยใช้ไม้ตีผู้เสียหายโดยทางป้องกัน แล้วแย่งมีดจากผู้เสียหายได้ จึงทำร้ายผู้เสียหายถึงสาหัสอีก ซึ่งการทำร้ายภายหลังนี้ผู้เสียหายได้ล้มลงไปหมอบอยู่ไม่มีอาวุธแต่อย่างใดเช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตน/ทรัพย์สิน: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตในสถานการณ์เข้าใจผิด ย่อมสมควรแก่เหตุ
จำเลยไปกับพี่ชายผู้ตายซุ่มรอจับคนร้ายที่ลักโคของจำเลยไปแล้วเอามาผูกทิ้งไว้ในป่า ก่อนค่ำผู้ตายได้มาพบจำเลยและพี่ชายผู้ตายครั้งหนึ่งแล้ว และว่าผู้ตายจะไม่กลับมาที่ซุ่มนี้อีก เพราะถ้ามืดค่ำแล้วเกรงว่าจะเข้าใจผิดว่าเป็นคนร้าย ครั้นพอเวลา 19.00 นาฬิกา ผู้ตายกับ ส. ได้ไปรับจำเลยและพี่ชายของผู้ตายกลับบ้านเพราะเห็นว่าฝนตกผู้ตายเดินตรงไปยังที่จำเลยและพี่ชายผู้ตายคนเดียวห่าง 1 วา และเปิดไฟฉายส่องเต็มหน้าจำเลยจำเลยทักว่าใคร ไม่มีเสียงตอบ จำเลยจึงยิงปืนไป 1 นัด ถูกผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันทรัพย์ของตน แต่เนื่องด้วยที่เกิดเหตุเป็นที่ป่าและเป็นเวลาค่ำคืนทั้งฝนตก ซึ่งไม่น่าจะมีใครไปมานอกจากจะเป็นคนร้ายที่จะมาเอาโคย่อมจะทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ตายเป็นคนร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ตายได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่กลับมาอีก เมื่อจำเลยได้ยิงผู้ตายไปเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตได้และเวลานั้นจำเลยก็ถูกไฟฉายเต็มหน้าไม่เห็นอะไร ไม่มีทางทราบได้ว่าคนที่จำเลยคิดว่าเป็นคนร้ายมีอาวุธหรือไม่และทั้งอยู่ในระยะใกล้กัน ถ้าคนร้ายมีอาวุธก็อาจทำร้ายจำเลยได้ทันที การกระทำของจำเลยจึงไม่เกินสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยสำคัญผิด: ยิงผู้บุกรุกในสถานการณ์ฉุกเฉิน
จำเลยเฝ้าบ้านอยู่คนเดียวมีเพื่อนมานั่งคุยอยู่ด้วย 2 คน. นั่งคุยกันมืดๆ เพราะระหว่างนั้นมีโจรผู้ร้ายกระทำการปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์ชุกชุมชาวบ้านต่างเกรงกลัวโจรภัย ภรรยาจำเลยและมารดาภรรยาจำเลยผู้ตายไปพักนอนที่อื่น เวลาประมาณ 20 นาฬิกาฝนกำลังตก ผู้ตายรีบเดินขึ้นเรือนจำเลยร้องถามผู้ตายก็ไม่ตอบ จำเลยจึงร้องบอกไปอีกว่าอย่าขึ้นมาจะยิง ผู้ตายยังขืนเดินขึ้นบันไดเรือนจำเลยเวลานั้นเดือนมืดมองดูไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่อศีรษะผู้ตายพ้นชานเรือนแล้วจำเลยยังร้องถามอีก 2-3 คำผู้ตายก็ไม่ตอบ เป็นเหตุให้จำเลยสำคัญมั่นใจว่าเป็นผู้ร้ายบังอาจบุกรุกขึ้นมาบนเคหสถาน จำเลยจึงใช้ปืนลูกซองยิงไป 1นัด ถูกขาผู้ตาย ผู้ตายร้องขึ้นจึงทราบว่าเป็นมารดาภรรยาและได้ขาดใจตายในวันรุ่งขึ้น การกระทำของจำเลยเป็นการยิงปืนไปโดยเจตนาจะป้องกันชีวิตร่างกายและทรัพย์สินในเหตุการณ์ที่ผู้ตายแสดงอาการให้พึงเข้าใจว่าเป็นผู้ร้ายสำคัญ ไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเมื่อถูกประจัญหน้าด้วยคนร้ายมีอาวุธ
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายกับพวกอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนร้ายมีอาวุธกำลังเดินเข้ามาที่จำเลยในที่มืด เมื่อจำเลยได้ทักถามแล้วกลับไม่ตอบ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย: การกระทำเพื่อปกป้องตนเองจากผู้ที่เข้ามาทำร้ายถึงที่อยู่
ผู้ตายมีไม้ตะพดเป็นอาวุธไปด้วยขึ้นไปด่าท้าทายจะทำร้ายจำเลยและพวกถึงบนเรือน. พวกจำเลยได้ร้องห้ามไม่ให้ขึ้นเรือนและปิดประตูไว้. ผู้ตายก็ยังพยายามดึงประตูเปิดเข้าไป. จำเลยได้แทงผู้ตายด้วยหอก 1 ที. ผู้ตายก็ยังพยายามจะเข้าไปในเรือนอีก. จำเลยจึงได้แทงอีก 1 ทีเห็นว่าจำเลยได้แทงในขณะผู้ตายพยายามทำร้ายจำเลยและพวก.แม้ผู้ตายจะมีอาวุธเพียงไม้ตะพดก็จริง แต่เมื่อพยายามจะเข้าทำร้ายจำเลยและพวกถึงในห้องเรือน. ดังนี้ จะให้จำเลยทำอย่างไร นอกจากจะต้องป้องกันตัวก็ไม่เห็นมีทางอื่น.การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเอง: การยิงผู้บุกรุกที่มิได้ประทุษร้ายต่อผู้อื่น
การที่จำเลยยิงผู้ที่ลอบเข้าไปแอบอยู่นอกมุ้งที่ภรรยาจำเลยนอนในร้านของผู้อื่นในงานออกร้าน. โดยผู้นั้นมิได้ทำอะไรแก่ภรรยาจำเลยดังนี้. จะถือว่ากระทำโดยป้องกันมิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุในการป้องกันสิทธิ – กรณีเฝ้าประตูโรงมหรสพ
ผู้เฝ้าประตูโรงมหรสพใช้ตะบองตีผู้ที่ไม่ตีตั๋วและขัดขืนจะเข้าไปในโรงตาย มีผิดฐานฆ่าคน เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การใช้กำลังสกัดกั้นผู้บุกรุกเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกาย
ผู้ตายเมาสุราไปด่าท้าทายจำเลย และเอามีดตีฝาจากและแทงทะลุ. พยายามจะลอดช่องฝาเรือนเข้าไปทำร้ายจำเลยซึ่งอยู่ในเคหสถาน. จำเลยใช้มีดซึ่งสวมด้ามไม้ยาวแทงออกมาเพียงทีเดียวถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย. การกระทำของจำเลยจึงเป็นการจำเป็นที่จำเลยจะต้องป้องกันตัว. จำเลยใช้มีดแทงไปเพียงทีเดียว หากไปถูกที่สำคัญจึงตาย ไม่ใช่เป็นเรื่องเจตนาฆ่า. และเป็นการป้องกันตัวตามสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ: การใช้กำลังเพื่อปกป้องชีวิตและเคหะสถานจากการถูกประทุษร้าย
พฤติการณ์ที่เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายก่อน
จำเลยไล่ติดตามผู้ตายกับพวกซึ่งเป็นคนร้ายที่ลักกระบือของว. ไป. คนร้าย 2 คนอยู่ข้างหน้าจำเลย 4 วาเศษกำลังพากระบือไป. มีคนร้ายอีกคนหนึ่งลอบมาข้างหลังใช้ไม้ตีไหล่จำเลย 1 ที. จำเลยจึงยิงคนที่อยู่ข้างหน้าไป 1นัด ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย. และถูกพวกคนร้ายเข้ากลุ้มรุมตีจำเลยหมดสติ. เห็นว่าแม้จำเลยจะได้ใช้ปืนยิงไปแล้วก็ยังไม่พ้นถูกทำร้าย. ฉะนั้นถ้าจำเลยจะเพียงแต่ยิงขู่ก็คงไม่พ้นถูกทำร้ายเช่นกัน. ทั้งจำเลยก็ถูกพรรคพวกผู้ตายทำร้ายเอาก่อน. การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.