คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย: กฎหมายลักษณะอาญา ม. 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

เจตนาต่อสู้และการป้องกันตัว: การกระทำที่แสดงเจตนาทำร้ายก่อนยิง จึงไม่อาจอ้างป้องกันตัวได้

เริ่มแรกจำเลยส่อเจตนาไม่ดีของจำเลยด้วยการนำมีดและอาวุธปืนลูกซองไม่จดทะเบียนไป แล้วรื้อฟันรั้วของผู้ตายที่ปิดทางไว้โดยพละการซึ่งแสดงว่าจำเลยเตรียมตัวจะต่อสู้กับผู้ตายอย่างเต็มที่ แม้จะปรากฎว่าผู้ตายได้ห้ามและได้เงื้อขวานจะฟันจำเลยก่อน จำเลยก็ยิงเอาด้วยปืนที่เตรียมมาดังนี้ จำเลยจะอ้าวว่าป้องกันตัวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2497

เจตนาเตรียมต่อสู้ย่อมไม่ถือเป็นการป้องกันตัว แม้ผู้ตายจะขัดขวาง

เริ่มแรกจำเลยส่อเจตนาไม่ดีของจำเลยด้วยการนำมีดและอาวุธปืนลูกซองไม่จดทะเบียนไป แล้วรื้อฟันรั้วของผู้ตายที่ปิดทางไว้โดยพลการซึ่งแสดงว่าจำเลยเตรียมตัวจะต่อสู้กับผู้ตายอย่างเต็มที่ แม้จะปรากฏว่าผู้ตายได้ห้ามและได้เงื้อขวานจะฟันจำเลยก่อน จำเลยก็ยิงเอาด้วยปืนที่เตรียมมาดังนี้ จำเลยจะอ้างว่าป้องกันตัวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2497

ป้องกันตัว: การใช้ขวานเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายด้วยมีดพก ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ว่าเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ

จำเลยและผู้ตายได้พูดเถียงกัน ผู้ตายชักมีดพกยาว 1 คืบเศษ จำเลยลุกขึ้นยืน ผู้ตายลุกขึ้นยืน จำเลยถอยไปข้างฝาและหยิบขวานที่เหน็บฝาไว้ พอผู้ตายเดินเข้ามา จำเลยก็ใช้ขวานทุบศีรษะผู้ตาย 1 ที ผู้ตายล้มลงและถึงแก่ความตายนั้น การกระทำของจำเลยเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยให้พ้นภยันตราย ซึ่งเกิดขึ้นโดยผิดกฎหมาย ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลยตาม มาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ผู้ถูกทำร้ายมีสิทธิป้องกันตนเองเมื่อถูกข่มขู่ด้วยอาวุธ

ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุและถือปืนเดินแกว่งเข้าหาจำเลยในระยะใกล้ชิด ห่างกันเพียงประมาณ 1 ศอกส่อแสดงว่าจะทำร้ายจำเลย จำเลยใช้ขวานตีผู้เสียหาย 1 ที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2497

การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อป้องกันชีวิตจากภัยอันตรายใกล้ชิด

ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุและถือปืนเดินแกว่งเข้าหาจำเลยในระยะใกล้ชิด ห่างกันเพียงประมาณ 1 ศอก ส่อแสดงว่าจะทำร้ายจำเลยจำเลยใช้ขวานตีผู้เสียหาย 1 ที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ผู้ถูกทำร้ายมีสิทธิป้องกันตนเองได้ แม้จะใช้ขวาน

ผู้ตายเป็นผู้ก่อเรื่องด่าและจะทำร้ายจำเลยก่อน ไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ค่าตอบ เมื่อมีผู้บอกให้จำเลยกลับบ้าน จำเลยก็กลับทันที ผู้ตายวิ่งตามจำเลยไปและเงื้อมีดจะทำร้ายจำเลยด้วย จำเลยหันหลังกลับใช้ขวานฟันผู้ตาย 1 ทีถึงแก่ความตาย ดังนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2497

ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: ผู้ถูกทำร้ายก่อนมีสิทธิใช้กำลังป้องกันตนเองได้

ผู้ตายเป็นผู้ก่อเรื่องด่าและจะทำร้ายจำเลยก่อนไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ด่าตอบ เมื่อมีผู้บอกให้จำเลยกลับบ้านจำเลยก็กลับทันทีผู้ตายวิ่งตามจำเลยไปและเงื้อมีดจะทำร้ายจำเลยด้วยจำเลยหันหลังกลับใช้ขวานฟันผู้ตาย 1 ทีถึงแก่ความตายดังนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2497

การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในขณะเมาสุรา: เจตนาและเหตุป้องกัน

เหตุเกิดเวลาพลบค่ำมืดแล้วจำเลยเมาสุราใช้มีดขนาดย่อมไม่ใหญ่โตน่ากลัวแทงชุ่ยๆ ไปถูกผู้ตายที่ใต้ราวนมซ้ายโดยไม่ปรากฏสาเหตุยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าคงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น
เมาสุราอาละวาดมีผู้เข้าห้าม กลับทำร้ายจะอ้างว่าป้องกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2497

การป้องกันตนและเกินสมควรแก่เหตุในการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย

ผู้ตายเป็นคนอันธพาลและก่อเรื่องขึ้นก่อนผู้ตายหยิบขวานจะลุกขึ้นทำร้ายจำเลยที่ 1 จึงแย่งขวานได้แล้วฟันผู้ตาย 1 ทีและเรียกให้คนช่วยจำเลยอื่นๆได้เข้ามาช่วยทำร้ายผู้ตายถึงตายเช่นนี้การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกันตน ส่วนจำเลยนอกนั้นทำไปเพื่อป้องกันชีวิตจำเลยที่ 1 แต่จำเลยทำร้ายซ้ำๆจนผู้ตายถึงตายจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2497

ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนา, การป้องกันตัว, และความผิดตาม ม.251

จำเลยกับพวกพากันตามโคของผู้อื่นที่หายไป พบผู้ตายเชือดโคอยู่ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยไล่ตามและเกิดทำร้ายกันขึ้นผู้ตายถูกแทง 3 แห่ง ถูกตี 2 แห่ง จำเลยคนหนึ่งมีแผลที่ศีรษะโลหิตไหลเช่นนี้จะถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ถนัด ความผิดของผู้ตายเข้าอยู่ในมาตรา 251

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย กฎหมายลักษณะอาญา ม. 50