พบผลลัพธ์ทั้งหมด 223 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกาย: แม้ฟ้องไม่ระบุตัวผู้กระทำผิด ก็ลงโทษได้หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือ
คดีอาญาที่ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือโจทก์หลายคนตามมาตรา 254,63 แม้ในฟ้องจะไม่ได้กล่าวว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์คนใดก็ดี เมื่อได้ความว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์ ก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณาคดี: ทำร้ายร่างกายจากวิวาท ไม่ถือว่าต่างจากฟ้อง
คดีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายบาดเจ็บฝ่ายเดียว แม้ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยทำร้ายบาดเจ็บเนื่องจากวิวาทกัน ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับที่กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลฟกช้ำเล็กน้อยไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายตามกฎหมาย และการลงโทษจากคำรับสารภาพที่ไม่เป็นความจริง
บาดแผลที่ฟกช้ำลึกเพียง 1 หรือ 2 มิลลิเมตรไม่ถือว่าถึงบาดเจ็บตาม มาตรา 254
แม้จำเลยรับสารภาพตามฟ้องหากปรากฏว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว จะลงโทษจำเลยตามคำรับนั้นไม่ได้
แม้จำเลยรับสารภาพตามฟ้องหากปรากฏว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว จะลงโทษจำเลยตามคำรับนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาฆ่า: หลักฐานไม่เพียงพอชี้ขาดสาเหตุการตาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปีตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 6 เดือนตามมาตรา 254 ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความตายจากสาเหตุการกระทำของจำเลย: หลักฐานไม่เพียงพอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปีตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 6 เดือน ตามมาตรา 254 ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงเพื่อฆ่า แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิพากษาฐานพยายามฆ่า
จำเลยเอาปืนแก๊ปยิง พ.ในระยะห่าง 1 วา กระสุนถูกหน้าอกและแขน แต่เป็นบาดแผลเพียงหนังขาด กระสุนฝังกล้ามเนื้อ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยิงโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จำเลยก็มีความผิดตามมาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงเพื่อฆ่า แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิพากษาฐานพยายามฆ่าได้
จำเลยเอาปืนแก๊ปยิง พ.ในระยะห่าง 1 วา กระสุนถูกหน้าอกและแขน แต่เป็นบาดแผลเพียงหนังขาด กระสุนฝังกล้ามเนื้อ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยิงโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จำเลยก็มีความผิดตามมาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาทำร้ายร่างกาย หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคน โดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้ การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาอื่น หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้บาดเจ็บทุพพลภาพ ศาลพิจารณาจากอาการบาดเจ็บและผลกระทบต่อร่างกาย
จำเลยตีผู้เสียหายด้วยไม้โตกลมขนาดข้อมือ โดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงหมดสติไปครู่หนึ่ง มีรอยช้ำเขียวปรากฏอยู่ที่สบักและชายโครงซ้าย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายนอนตะแคงข้างซ้ายไม่ได้ ดังนี้ พอฟังได้ว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาทตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา256(8) จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาทตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา256(8) จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก