พบผลลัพธ์ทั้งหมด 223 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บทุพพลภาพ ศาลพิจารณาจากอาการบาดเจ็บและผลกระทบต่อร่างกาย
จำเลยตีผู้เสียหายด้วยไม้โตกลมขนาดข้อมือ โดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงหมดสติไปครู่หนึ่ง มีรอยช้ำเขียวปรากฎอยู่ที่สบักและชายโครงซ้าย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายนอนตะแคงข้างซ้ายไม่ได้ ดังนี้ พอฟังได้ว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254.
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาท ตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา 256 (8) จำคุก 8 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก.
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาท ตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา 256 (8) จำคุก 8 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการสืบพยานต้องตรงกับฟ้อง การวิวาทซึ่งกันและกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีจำเลยที่ 2 มีบาดเจ็บจำเลยที่ 2 ใช้มือชกต่อยจำเลยที่ 1 ไม่ถึงบาดเจ็บจำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ โจทก์จะขอสืบพยานว่าจำเลยที่ 1 ทำร้ายจำเลยที่ 2 ตอนหนึ่ง แล้วต่อมาจำเลยที่ 2 ทำร้ายจำเลยที่ 1 อีกตอนหนึ่ง ไม่ใช่การวิวาทนั้น เป็นการสืบข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องทำร้ายร่างกาย 'ซึ่งกันและกัน' และการสืบพยานนอกเหนือฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีจำเลยที่ 2 มีบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 ใช้มือชกต่อยจำเลยที่ 1 ไม่ถึงบาดเจ็บ จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ โจทก์จะขอสืบพะยานว่า จำเลยที่ 1 ทำร้ายจำเลยที่ 2 ตอนหนึ่ง แล้วต่อมา จำเลยที่ 2 ทำร้ายจำเลยที่ 1 อีกตอนหนึ่ง ไม่ใช่การวิวาทนั้น เป็นการสืบข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพและการพิจารณาโทษคดีทำร้ายร่างกาย: ศาลไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติมหากคำรับสารภาพสอดคล้องกับหลักฐาน
คดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่ถึง 10 ปี ซึ่งเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็ย่อมพิพากษาได้โดยมิต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพเสมอไป ในเมื่อปรากฏตามหลักฐานในสำนวนขัดแย้งกับคำรับของจำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ตามใบชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องปรากฏตามใบชันสูตรบาดแผลว่า รักษาในโรงพยาบาล 8 วันทุเลาอีกประมาณ 14 วันหาย รวมเป็น 22 วัน ข้อว่าไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกิน20 วันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ในวันที่จำเลยมาให้การรับสารภาพต่อศาลก็เป็นเวลาถึง 2 เดือนเศษจากวันที่ทำร้ายกัน จำเลยย่อมทราบความข้อนี้ดีโจทก์ไม่จำต้องสืบพยานอะไรอีก ศาลก็ลงโทษจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้และวินิจฉัยถึงว่าผู้บาดเจ็บมีอาชีพอะไร
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ตามใบชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องปรากฏตามใบชันสูตรบาดแผลว่า รักษาในโรงพยาบาล 8 วันทุเลาอีกประมาณ 14 วันหาย รวมเป็น 22 วัน ข้อว่าไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกิน20 วันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ในวันที่จำเลยมาให้การรับสารภาพต่อศาลก็เป็นเวลาถึง 2 เดือนเศษจากวันที่ทำร้ายกัน จำเลยย่อมทราบความข้อนี้ดีโจทก์ไม่จำต้องสืบพยานอะไรอีก ศาลก็ลงโทษจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้และวินิจฉัยถึงว่าผู้บาดเจ็บมีอาชีพอะไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทสมัครใจทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338 (3)
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยต่างสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน ถ้าฝ่ายใดทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บ กรณีไม่เข้าบทมาตรา 338 (3) เพราะมิได้กระทำโดยบังอาจ จำเลยจึงยังไม่เป็นผิด
(อ้างฎีกา 697/2489)
(อ้างฎีกา 697/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทสมัครใจทำร้ายร่างกาย หากไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338(3)
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยต่างสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันถ้าฝ่ายใดทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บกรณีไม่เข้าบทมาตรา 338(3) เพราะมิได้กระทำโดยบังอาจ จำเลยจึงยังไม่เป็นผิด
(อ้างฎีกาที่ 697/2489)
(อ้างฎีกาที่ 697/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำร้ายร่างกายแม้ฟ้องกล่าวถึงการวิวาท ศาลยึดตามการกระทำที่จำเลยรับสารภาพ
แม้ฟ้องจะกล่าวว่าจำเลยสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันก็ดีแต่ก็ได้บรรยายโดยชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 1 ได้ใช้มีดพับทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 ที่ 3 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 ได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากสมคบกันฆ่า เป็นฆ่าโดยเจตนาและทำร้ายร่างกาย จากพฤติการณ์ปัจจุบันใจ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลย 3 คนสมคบกันฆ่าคนโดยเจตนา ทางพิจารณาปรากฎว่า จำเลยที่ 2-3 ใช้ไม้ตีผู้ตายคนละทีก่อน แล้วจำเลยที่ 1 จึงเอาปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ตามลักษณะคดี จำเลยทั้ง 3 หาได้สมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนาไม่ จำเลยที่ 1 ผู้เดียวมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสมคบกันฆ่า VS. ฆ่าโดยเจตนาและทำร้ายร่างกาย: การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาและลดโทษ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลย 3 คนสมคบกันฆ่าคนโดยเจตนาทางพิจารณาปรากฏว่า จำเลยที่ 2-3 ใช้ไม้ตีผู้ตายคนละทีก่อน แล้วจำเลยที่ 1 จึงเอาปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ตามลักษณะคดี จำเลยทั้ง 3 หาได้สมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนาไม่ จำเลยที่ 1 ผู้เดียวมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาเหตุผลและความสมควรในการกระทำ
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยที่ 1 มีมีดซุยฝ่ายหนึ่ง จำเลย ที่ 2,3,4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 ใช้มีดซุยแทงจำเลยที่2,3,4ใช้ขวานและไม้ตะบองตีจำเลยที่ 1ถึงบาดเจ็บ จำเลยที่ 3 มีแผลถูกแทงที่หน้าอก 1 แห่งบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ ฟ้องของโจทก์พอเข้าใจได้ว่าจำเลยที่ 1 ใช้มีดซุยแทงถูกจำเลยที่ 3 ที่หน้าอก 1 แห่ง