คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 254

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 223 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 719/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจตำรวจจับกุมนอกหมาย และการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน กรณีไม่มีเหตุฉุกเฉิน
นายสิบและพลตำรวจสงสัยว่า จำเลยจะกินสุราเถื่อนในเวลาค่ำคืน จึงเข้าไปเพื่อจะจับกุมโดยไม่มีหมายไม่ได้ เพราะไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าและตำรวจไม่มีอำนาจตามขึ้นไปจับจำเลยบนเรือนอันเป็นที่รโหฐานเพราะไม่ใช่กรณีฉุกเฉินอย่างยิ่ง หากตำรวจขืนขึ้นไปจับจำเลย จำเลยทำร้ายเอา ก็ไม่เป็นการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินบาดแผลเพื่อลงโทษอาญา: ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย vs. วิวาท และการมิได้ขอลงโทษตามบทบัญญัติที่ต่างกัน
โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าจำเลยทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในท้องถนนหลวงถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าบาดแผลที่จำเลยกระทำร้ายคู่วิวาทอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บ เมื่อโจทก์ไม่ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 335(6) มาด้วยจะลงโทษตามมาตรานี้ไม่ได้ เพราะเป็นความผิดคนละประเภทและบทบัญญัติความผิดก็คนละหมวดหมู่กัน ถือได้ว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
รายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องย่อมเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องเมื่อจำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดดังฟ้องโจทก์ทุกข้อหา แต่รายงานชันสูตรบาดแผลผู้ถูกทำร้ายเพียงฟกช้ำเท่านั้น ยังไม่ถึงเกณฑ์บาดเจ็บจะลงโทษตาม มาตรา 254 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการทำร้ายร่างกาย: การแบ่งแยกความผิดของจำเลยแต่ละคน
จำเลยที่ 1 ถือมีดดาบปลายตัด 1 เล่ม ผู้ตายถือมีดพก 1 เล่ม ระหว่างที่คนทั้งสองนี้เถียงกัน จำเลยที่ 2 ถือขวาน 1 เล่มเข้ามาทางข้างหลังผู้ตาย แล้วจำเลยที่ 2 เอาหัวขวานตีผู้ตายถูกที่ศรีษะด้านหลังตรงระดับหู 1 ที(ตอนนี้ผู้ตายยังไม่ตาย) แล้ว จำเลยทั้งสองฉุดมือกันวิ่งหนี แต่ไปได้ประมาณ3วาจำเลยที่1ก็สลัดแขนจากจำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 1 กลับมาฟันคอผู้ตายอีก 1 ที จำเลยทั้งสองวิ่งหนีไปเมื่อไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมคิดกันมาทำร้ายผู้ตายอาจเป็นกรณีเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน จำเลยต่างคนต่างกระทำจึงมีความผิดตามกรรมที่ตนได้กระทำ คือจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา จำเลยที่ 2ฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บ จะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมคบหรือสมรู้ในการฆ่าคนตายไม่ถนัด เพราะการกระทำของจำเลยที่ 2 มีผลเพียงให้ได้รับบาดแผลเพียงมีบาดเจ็บเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดต่างกรรม การร่วมกระทำความผิด และการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย
จำเลยที่ 1 ถือมีดดาบปลายตัด 1 เล่ม ผู้ตายถือมีดพก 1 เล่ม ระหว่างที่คนทั้งสองนี้เถียงกัน จำเลยที่ 2 ถือขวาน 1 เล่ม เข้ามาทางข้างหลังผู้ตาย แล้วจำเลยที่ 2 เอาหัวขวานตีผู้ตาย ถูกที่ศรีษะด้านหลังตรงระดับหู 1 ที (ตอนนี้ผู้ตายยังไม่ตาย) แล้ว จำเลยทั้งสองฉุดมือกันวิ่งหนี แต่ไปได้ประมาณ 3 วา จำเลยที่ 1ก็สลัดแขนจากจำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 1 กลับมาฟันคอผู้ตายอีก 1 ที จำเลยทั้งสองวิ่งหนีไป เมื่อไม่ปรากฎจากข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมคิดกันมาทำร้ายผู้ตาย อาจเป็นกรณีเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน จำเลยต่างคนต่างกระทำจึงมีความผิดตามกรรมที่ตนได้กระทำ คือ จำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา จำเลยที่ 2 ฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บ จะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมคบหรือสมรู้ในการฆ่าคนตายไม่ถนัด เพราะการกระทำของจำเลยที่ 2 มีผลเพียงให้ได้รับบาดแผลเพียงมีบาดเจ็บเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: จำเลยต้องมีความผิดหรือไม่ และบทกฎหมายที่ใช้
จะอ้างแต่เพียงว่าบาดเจ็บของจำเลยทั้งสองถูกอะไรไม่ปรากฏแต่ผลเกิดจากจำเลยทั้งสองชกต่อยและกอดปล้ำทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันยืนยันขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา254,256 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาบาดแผลและการกระทำโดยเจตนา
ใช้มือชกหนึ่งทีถูกที่จมูกเลือดกำเดาไหล ไม่ปรากฏว่าเลือดกำเดาออกเพราะเหตุใดและชกแรงแค่ไหน ย่อมมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บเท่านั้น
สำนวนการสอบสวนที่ศาลเรียกมาเองนั้นศาลจะยกขึ้นให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดทางอาญา: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: การแบ่งแยกความรับผิดชอบของผู้ร่วมวิวาทและการพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
ในกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครใจวิวาทเข้าทำร้ายกันจนผลผู้ตายตายลง โดยจำเลยที่ 1 และผู้ตายเริ่มเข้าทำร้ายกัน จำเลยที่ 1 ใช้พายและฆ้อนทำร้ายผู้ตายไม่เป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนผู้ตายมีมีดขอแล้วเข้ากอดปล้ำกัน จำเลยที่ 2 เห็นจำเลยที่ 1 เสียเปรียบเข้าช่วยจำเลยที่ 1 โดยใช้ไม้คานตีและใช้มีดแทงผู้ตายถูกชายโครงขวาทะลุช่องท้องเป็นแผลฉกรรจ์ แพทย์ลงความเห็นว่าถึงตายเพราะแผลนี้ ข้อเท็จจริงเช่นนี้ยังไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ในการทำร้ายผู้ตายจำเลยที่ 1 ควรมีความผิดเพียงกรรมที่ตนทำฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาบาดแผลและเจตนาเพื่อปรับแก้โทษจากฆ่าคนตายเป็นทำร้ายร่างกาย
คดีเฉพาะจำเลยที่ 1,3 ยุติแล้ว โดยศาลล่างทั้งสองฟังว่าจำเลยที่ 1 แทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว จำเลยที่3 ไม่ได้กระทำผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์ จำเลยที่ 2 ฎีกา เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1,2 ต่างแทงผู้ตายแต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยคนใดแทงตรงไหนอย่างใด ทั้งฟังได้ว่าต่างคนต่างทำเป็นการเฉพาะตัวมิได้สมคบกันมา บาดแผลของผู้ตายมี 3 แผลๆ ที่ 1 ฉกรรจ์อาจทำให้ถึงตาย อีก 2 แผลเป็นแต่เพียงทำให้หนังถลอกเท่านั้น ดังนี้จึงควรยกประโยชน์ให้แก่จำเลยที่ 2 คงลงโทษฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ไม่ใช่ฐานทำให้ถึงตายโดยไม่เจตนาตาม มาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิวาทชุลมุนและการร่วมกันทำร้ายร่างกาย: การพิพากษาความผิดตามมาตรา 253
จำเลยทั้งสองฝ่ายวิวาทต่อสู้กันพวกของจำเลยฝ่ายหนึ่งใช้ปืนยิงอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะนี้เองจำเลยอีกฝ่ายหนึ่งอ้างว่าได้และหนีออกมาจากการต่อสู้แล้ว เมื่อความปรากฏว่าการวิวาทได้ชุลมุนติดพันกันอยู่ตลอดมาชั่วเวลาเล็กน้อยจึงไม่อาจแยกว่าจำเลยนั้นได้ผละหนีจากการต่อสู้ขณะมีการยิงกันขึ้นแล้ว ดังนี้จำเลยอีกฝ่ายที่อ้างว่าผละหนีออกมาแล้วนั้นย่อมมีความผิดตาม มาตรา 253 ด้วย
of 23