พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดี ถือเป็นการกระทำที่ศาลสามารถเพิกถอนสัญญาได้
รถยนต์ของจำเลยชนกับรถยนต์ของผู้อื่นเสียหายเขาได้มีหนังสือมาขอให้ใช้ค่าเสียหายแก่เขาจำเลยไปติดต่อแล้ว แต่ว่าจะปรึกษากันดูก่อนครั้นแล้วกลับเอาที่ดินของจำเลยไปขายให้แก่พี่ชาย เพื่อป้องกันมิให้ถูกยึดทรัพย์ ถ้าแพ้คดีแก่เขา ซึ่งพี่ชายผู้รับซื้อก็ทราบดี ดังนี้ เมื่อเขาชนะคดีในเรื่องเรียกค่าเสียหายเพราะรถยนต์จำเลยชนรถยนต์ของเขาแล้วเขามีสิทธิขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยกับพี่ชายเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863-864/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางการหย่าและซื้อขายทรัพย์สิน: โมฆะเมื่อเจตนาหลอกลวง
สามีภริยาไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอ แต่ความจริงนั้นทั้งสองฝ่ายมิได้มี่เจตนาจะหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา กันเลย ที่ทำไปก็เพื่อจะลวงผู้อื่นเกี่ยวกับทรัพย์สินของสามีภริยานั่นเอง แล้วภริยาทำนิติกรรมขายที่ดินบ้านเรือนอัน เป็นสินเดิมให้สามีเพื่อกีดกันบุตรของภริยาอันเกิดแก่สามีคนเก่า แต่ความจริงมิได้ขายกัน ดังนี้ นิติกรรมซื้อขาย ย่อมเป็นโมฆะ.
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายฝาก ให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากัน จริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้/
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายฝาก ให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากัน จริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้/
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863-864/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางและการซื้อขายที่ดินโดยกลฉ้อฉล ศาลเพิกถอนได้
สามีภริยาไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอ แต่ความจริงนั้นทั้งสองฝ่ายมิได้มีเจตนาจะหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากันเลย ที่ทำไปก็เพื่อจะลวงผู้อื่นเกี่ยวกับทรัพย์สินของสามีภริยานั่นเอง แล้วภริยาทำนิติกรรมขายที่ดินบ้านเรือนอันเป็นสินเดิมให้สามีเพื่อกีดกันบุตรของภริยาอันเกิดแต่สามีคนเก่า แต่ความจริงมิได้ขายกัน ดังนี้นิติกรรมซื้อขายย่อมเป็นโมฆะ
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายขาดให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากันจริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้
ภริยามีเจตนาจะขายฝากที่ดินแก่ผู้อื่น แต่เนื่องจากไม่เข้าใจในกิจธุระเช่นนี้ และไม่รู้หนังสือ สามีจัดการขายขาดให้แก่ผู้อื่นไป โดยสามีใช้กลฉ้อฉล ดังนี้ เมื่อที่ดินนั้นกลับตกมาเป็นของสามีอีก และสามีภริยามิได้เจตนาหย่ากันจริง สามีจะเอาที่ดินนั้นไว้เป็นของตนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินโดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนเงิน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หาจึงไม่อยู่ในข้อยกเว้นการเพิกถอนการให้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตรแต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่นบุตร จึงหาเงินตามจำนวนนั้นให้มารดาไปแต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้ มารดาจึงทำโอนยกที่นานั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปีมารดาก็ไ่ได้ให้ดอกเบี้ยแก่บุตรเลย ดังนี้ไม่เป็นการกู้จริงจังวินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรโดยเสน่หาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้บุตรโดยมีข้อแลกเปลี่ยนเงินตรา ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา จึงไม่สามารถเพิกถอนได้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตร แต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่น บุตร จึงหา เงินตามจำนวนั้นให้มารดาไป แต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้มารดาจึงทำโอนยกที่นา นั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปี มารดาก็ไม่ได้ให้ดอกเบี้ย แก่บุตรเลย ดังนี้ ไม่เป็นการกู้จริงจัง วินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณ ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางสัญญาเงินกู้เพื่อปกปิดความเป็นหุ้นส่วน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยตามหนังสือสัญญากู้ จำเลยต่อสู้ว่า เป็นนิติกรรมอำพราง เมื่อคดีได้ความว่าความจริงเป็นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันในการแสดงละครเพื่อหาผลกำไร จำนวนเงินที่โจทก์จะมอบให้จำเลยไปซื้อหาและใช้จ่ายในการแสดงละครนั้นโจทก์ให้จำเลยทำหนังสือสัญญากู้โจทก์ไว้ เพื่อให้จำเลยเอาเงินไปใช้เพื่อประโยชน์ในการจัดการแสดงละครจริงๆ และเพื่อป้องกันเจ้าหนี้อื่นถ้าหากจำเลยจะไปก่อให้เกิดขึ้น มิให้มาฟ้องร้องโจทก์ในฐานเป็นหุ้นส่วน ดังนี้สัญญากู้ดังกล่าวจึงเป็นนิติกรรมอำพราง ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาฝากยังไม่สิ้นสุด อายุความยังไม่เริ่ม คดีไม่ขาดอายุความ
ทำสัญญาฝากยางกันไว้จำนวนหนึ่ง ภายหลังผู้ฝากขายยางที่ฝากให้แก่ผู้ซื้อไปส่วนหนึ่ว โดยให้ผู้ซื้อไปรับยางจากผู้รับฝาก ดังนี้ ย่อมถือว่าสัญญาฝากยางสำหรับยางจำนวนที่ยังคงเหลืออยู่ที่ผู้รับฝาก ยังหาได้สิ้นหรือเลิกกันไม่ เพราะยังไม่มีการแสดงเจตนาเลิกสัญญาแต่ประการใด สัญญายังคงผูกพันกันอยู่ จึงไม่เริ่มอายุความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 671.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาฝากยังไม่สิ้นสุด แม้มีการขายยางบางส่วน สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาคงอยู่
ทำสัญญาฝากยางกันไว้จำนวนหนึ่ง ภายหลังผู้ฝากขายยางที่ฝากให้แก่ผู้ซื้อไปส่วนหนึ่ง โดยให้ผู้ซื้อไปรับยางจากผู้รับฝาก ดังนี้ ย่อมถือว่าสัญญาฝากยางสำหรับยางจำนวนที่ยังคงเหลืออยู่ที่ผู้รับฝากยังหาได้สิ้นหรือเลิกกันไม่ เพราะยังไม่มีการแสดงเจตนาเลิกสัญญาแต่ประการใด สัญญายังคงผูกพันกันอยู่ จึงยังไม่เริ่มอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำนิติกรรมแทนเด็กโดยไม่ชอบ ศาลมีสิทธิเพิกถอนได้
ยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้ปกครองเฉพาะทำนิติกรรมขายที่ดินของเด็ก แทนเด็ก ศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาต เมื่อปรากฏว่าการซื้อขายนั้นได้กระทำโดยสมยอมกันขายในราคาต่ำและปิดบังความจริงต่อศาลเด็กก็ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายนั้นเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินที่เกิดจากการสมยอมและปิดบังความจริงต่อศาล
ยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้ปกครองเฉพาะทำนิติกรรมขายที่ดินของเด็ก แทนเด็ก ศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาติ เมื่อปรากฎว่า การซื้อขายนั้นได้กระทำโดยสมยอมกันขายในราคาต่ำและปิดบังความจริงต่อศาล เด็กก็ย่อมมีสิทธิฟ้อง ขอให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายนั้นเสียได้