คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 118

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401-402/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงซื้อขายด้วยวาจาไม่มีผลบังคับใช้หากไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเงินมัดจำ
โจทก์ตกลงให้จำเลยใส่ชื่อเป็นผู้ซื้อ หากโจทก์มีเงินมาชำระให้จำเลยเมื่อไรจำเลยยอมโอนคืนที่ 2 แปลงที่จำเลยซื้อไว้ให้โจทก์ ดังนี้ เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ หรือวางเงินมัดจำไว้ ข้อตกลงดังกล่าวด้วยปากเปล่าโจทก์จะฟ้องขอให้ศาลบังคับคดีหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานเพิ่มเติมแก้ไขข้อความในสัญญา แม้ไม่ใช่ผู้ทำสัญญา ก็ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เอกสารสัญญากู้มีข้อความชัดแล้วว่า จำเลยได้ยืมเงินโจทก์ไปจริงและจำเลยได้ลงลายมือชื่อให้ไว้เป็นหลักฐานจำเลยจะขอสืบพยานว่าความจริงเป็นเงินหุ้นลงส่วนกันมิใช่เงินกู้ดังนี้เป็นการสืบเพิ่มเติมแก้ไขต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 หาได้มุ่งหมายห้ามเฉพาะแต่ฝ่ายผู้อ้างเอกสารเท่านั้นที่จะสืบเพิ่มเติมแก้ไขแม้ฝ่ายที่ไม่ได้นำหรืออ้างเอกสารมาก็อยู่ในบทบังคับแห่งมาตรานี้ดุจกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความขัดแย้งระหว่างฟ้องซื้อขายกับหลักฐานสัญญากู้ ศาลไม่บังคับตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินแก่โจทก์ตามที่โจทก์จำเลยตกลงกันไว้โดยบรรยายฟ้องมีความว่าโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายที่ดินกัน จำเลยต้องการเงินไปใช้ก่อนโจทก์จึงมอบเงินให้จำเลยไป 700 บาท อีก 100 บาทจะชำระกันเมื่อทำโอนจำเลยได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นเงิน 800 บาท ต่อมาจำเลยไม่ยอมโอนที่ดินให้แก่โจทก์ ๆ จึงฟ้องและได้แนบสำเนาสัญญากู้มาท้ายฟ้องด้วย ดังนี้แม้เดิมจะไ้ดมีการตกลงซื้อขายที่ดินหรือไม่ก็ดีแต่ที่กล่าวในฟ้องว่าได้ตกลงทำสัญญากู้กันประกอบด้วยตัว สัญญากู้เอง เห็นได้ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องตกลงจะซื้อขายที่ดินกัน ฉะนั้นจึงถือได้ว่าโจทก์ฟ้องเรื่องซื้อขายที่ดินอ้างสัญญากู้มาเป็นหลักฐาน ซึ่งมีข้อความชัดเจนเป็นเรื่องสัญญากู้เงินไว้ชัดแจ้งแล้วเช่นนี้ โจทก์จะขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินโดยอาศัยสัญญากู้หาได้ไม่ เพราะฟ้องกับคำขอท้ายฟ้องขัดกันอยู่ศาลจะบังคับให้ตามคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซื้อขายที่ดินโดยอ้างสัญญากู้ ฟ้องกับคำขอขัดแย้งกัน ศาลไม่สามารถบังคับตามคำขอได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินแก่โจทก์ตามที่โจทก์จำเลยตกลงกันไว้ โดยบรรยายฟ้องมีความว่าโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายที่ดินกัน จำเลยต้องการเงินไปใช้ก่อน โจทก์จึงมอบเงินให้จำเลยไป 700 บาท อีก 100 บาทจะชำระกันเมื่อทำโอน จำเลยได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นเงิน 800 บาท ต่อมาจำเลยไม่ยอมโอนที่ดินให้แก่โจทก์ โจทก์จึงฟ้องและได้แนบสำเนาสัญญากู้มาท้ายฟ้องด้วยดังนี้ แม้เดิมจะได้มีการตกลงซื้อขายที่ดินหรือไม่ก็ดี แต่ที่กล่าวในฟ้องว่าได้ตกลงทำสัญญากู้กันประกอบด้วยตัวสัญญากู้เอง เห็นได้ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องตกลงจะซื้อขายที่ดินกัน ฉะนั้นจึงถือได้ว่า โจทก์ฟ้อง เรื่องซื้อขายที่ดินอ้างสัญญากู้มาเป็นหลักฐาน ซึ่งมีข้อความชัดเจนเป็นเรื่องสัญญากู้เงินไว้ชัดแจ้งแล้วเช่นนี้ โจทก์จะขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินโดยอาศัยสัญญากู้หาได้ไม่ เพราะฟ้องกับคำขอท้ายฟ้องขัดกันอยู่ ศาลจะบังคับให้ตามคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้เงิน: การนำสืบเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิม และหลักฐานการชำระหนี้
สัญญากู้มีข้อความว่า 'ข้าพเจ้าได้กู้เงินของท่านไปจำนวน 2500 บาทและได้รับเงินนี้ไปเสร็จแล้วแต่ในวันทำสัญญานี้' ดังนี้ ผู้กู้จะขอนำสืบว่าไม่ได้รับเงิน ก็เท่ากับเป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคต้น(ข)
จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่ทำสัญญากู้นี้ขึ้น ก็เนื่องจากโจทก์ออกเงินซื้อเป็ดให้จำเลยเลี้ยง ตกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ตีราคาเป็ดเท่าจำนวนเงินที่ลงไว้ในสัญญากู้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยฉ้อโกง จึงให้ทำสัญญากู้ไว้ ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยยอมตนเข้าผูกพันตามสัญญากู้โดยสมัครใจเนื่องจากมีมูลหนี้ต่อกันมาก่อนแล้ว สัญญากู้นั้นจึงสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้สมบูรณ์ แม้ผู้กู้ต่อสู้ว่าไม่ได้รับเงิน การนำสืบแก้ไขข้อความในสัญญาต้องห้าม
สัญญากู้มีข้อความว่า "ข้าพเจ้าได้กู้เงินของท่านไปจำนวน 2,500 บาท และได้รับเงินไปเสร็จแล้ว แต่ในวันทำสัญญานี้" ดังนี้ผู้กู้จะขอนำสืบว่าไม่ได้รับเงิน ก็เท่ากับเป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงต้องห้าม ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94 วรรคต้น(ข)
จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่ทำสัญญากู้นี้ขึ้น ก็เนื่องจากโจทก์ออกเงินซื้อเป็ดให้จำเลยเลี้ยง จกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ตีราคาเป็ดเท่าจำนวนเงินที่ลงไว้ในสัญญากู้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยฉ้อโกง จึงให้ทำสัญญากู้ไว้ ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยยอมตนเข้าผูกพันตามสัญญากู้โดยสมัครใจ เนื่องจากมีมูลหนี้ต่อกันมาก่อนแล้ว สัญญากู้นั้นจึงสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้และเงินมัดจำเช่า: จำเลยต้องคืนเงินให้โจทก์หากผิดสัญญาเช่า และต้องแสดงเหตุแห่งข้อต่อสู้ตามวิ.แพ่ง
การที่เจ้าของสถานที่เช่าทำสัญญากู้ไว้แก่ผู้ตกลงเช่ามีกำหนดชำระคืนแน่นอนในเดือนปีนั้น เมื่อครบกำหนดแล้วแม้จะเป็นเงินมัดจำก็ต้องคืน
คำให้การต่อสู้คดีแพ่งต้องแสดงเหตุแห่งข้อต่อสู้ของตน จำเลยจะกล่าวในคำให้การแต่ว่าโจทก์ผิดสัญญา โดยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์กระทำหรือไม่ กระทำอย่างใดอันเป็นการผิดสัญญา การดังนี้ไม่ถูกต้องตาม วิ.แพ่ง ม.177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ vs. เงินมัดจำเช่า จำเลยต้องแสดงเหตุแห่งการต่อสู้คดีชัดเจน
การที่เจ้าของสถานที่เช่าทำสัญญากู้ไว้แก่ผู้ตกลงเช่ามีกำหนดชำระคืนแน่นอนในเดือนปีนั้น เมื่อครบกำหนดแล้วแม้จะเป็นเงินมัดจำก็ต้องคืน
คำให้การต่อสู้คดีแพ่งต้องแสดงเหตุแห่งข้อต่อสู้ของตน จำเลยจะกล่าวในคำให้การแต่ว่าโจทก์ผิดสัญญา โดยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์กระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดอันเป็นการผิดสัญญา ดังนี้ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่แท้จริงไม่ใช่ขายฝาก สัญญาที่ทำโดยไม่ผูกพันถือเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องว่า ขายฝากที่ดินไว้ แต่ได้ทำสัญญาเป็นซื้อขายกรรมสิทธิต่อกัน โดยไม่มีเจตนาจะผูกพัน หากสัญญาขายฝากที่อ้างไม่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าเป็นนิติกรรมจำนองหรือไม่ เพราะการขายฝากที่อ้างนั้นเป็นโมฆะ.
(อ้างฎีกาที่ 352/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่แท้จริงไม่ใช่ขายฝาก สัญญาขายฝากที่ไม่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องว่า ขายฝากที่ดินไว้ แต่ได้ทำสัญญาเป็นซื้อขายกรรมสิทธิ์ต่อกัน โดยไม่มีเจตนาจะผูกพัน หากสัญญาขายฝากที่อ้างไม่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ เพราะการขายฝากที่อ้างนั้นเป็นโมฆะ (อ้างฎีกาที่ 352/2492)
of 28