คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 174 (2)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 331 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3448/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลไม่ถูกต้องและทิ้งฟ้อง ทำให้จำหน่ายคดี
โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายพินัยกรรม อันเป็นการเรียกร้องให้ทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท จึงเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ซึ่งไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาได้สั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม แต่โจทก์ไม่จัดการเสียเพิ่มภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2) ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มเติม ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีและไม่คืนค่าธรรมเนียม
โจทก์ทราบคำสั่งของศาลแล้วโจทก์เพิกเฉยไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มตามที่ศาลกำหนด ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2)
การทิ้งฟ้องนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ เหมือนอย่างกรณีที่ศาลไม่รับคำฟ้อง หรือถอนฟ้อง หรือยอมความกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องคดีอาญาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเรื่องการส่งหมายเรียกภายในกำหนด
คดีอาญาศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้อง ให้โจทก์ส่งหมายเรียกแก่จำเลยภายใน 7 วัน หากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง แม้ถึงหากโจทก์หรือผู้แทนโจทก์จะมิได้นำเจ้าหน้าที่ศาลไปส่งหมายเรียกแก่จำเลย กรณีก็เป็นเรื่องที่โจทก์มิได้นำส่งหมายเรียกแก่จำเลยภายใน 7 วัน ตามคำสั่งศาล ถือได้ว่า โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้ เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องคดีอาญาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งหมายเรียกภายในกำหนด
คดีอาญาศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้อง ให้โจทก์ส่งหมายเรียกแก่จำเลยภายใน 7 วัน หากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง แม้ถึงหากโจทก์หรือผู้แทนโจทก์จะมิได้นำเจ้าหน้าที่ศาลไปส่งหมายเรียกแก่จำเลย กรณีก็เป็นเรื่องที่โจทก์มิได้นำส่งหมายเรียกแก่จำเลยภายใน 7 วัน ตามคำสั่งศาลถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้ เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลในการนำส่งหมายเรียก ทำให้ศาลสั่งทิ้งฟ้อง แม้จะอ้างเหตุสุดวิสัย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกให้จำเลยแก้คดีภายใน 7 วัน กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ลงชื่อทราบไว้แล้ว โจทก์ไม่นำส่งหมายเรียกภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดี โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนหรือพิจารณาคดีใหม่ว่า ไม่ได้จงใจทิ้งฟ้องหลังจากวันที่ศาลสั่งให้นำส่งหมายเรียกถึง 34 วัน ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ฟังไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องไต่สวน
การที่ทนายจำเลยมาศาลและลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกนั้น เมื่อจำเลยไม่มาศาลในวันนั้น โจทก์ก็ต้องนำส่งหมายเรียกตามคำสั่งศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการนำส่งหมายเรียก แม้จะอ้างเหตุสุดวิสัย ศาลไม่รับฟัง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกให้จำเลยแก้คดีภายใน 7 วัน กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ลงชื่อทราบไว้แล้ว โจทก์ไม่นำส่งหมายเรียกภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดี โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนหรือพิจารณาคดีใหม่ว่าไม่ได้จงใจทิ้งฟ้องหลังจากวันที่ศาลสั่งให้นำส่งหมายเรียกถึง 34 วันข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ฟังไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องไต่สวน
การที่ทนายจำเลยมาศาลและลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกนั้น เมื่อจำเลยไม่มาศาลในวันนั้น โจทก์ก็ต้องนำส่งหมายเรียกตามคำสั่งศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3301/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ไม่ทราบคำสั่งศาล และการเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในคดีอาญา ศาลได้ทำการไต่สวนมูลฟ้อง สั่งว่าคดีมีมูล ประทับฟ้อง และให้หมายเรียกจำเลยมาให้การแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์ กับให้โจทก์นำส่งหมายภายใน 7 วัน ถ้าส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 3 วัน โดยโจทก์ลงลายมือชื่อทราบคำสั่งนั้นแล้ว ต่อมาได้มีการนำส่งหมายเรียกแก่จำเลยโดยขอให้ศาลอื่นจัดการส่งให้เพราะจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลอื่น ศาลที่จัดการส่งหมายให้แจ้งมาว่าส่งหมายให้จำเลยไม่ได้เนื่องจากจำเลยไปอยู่ที่อื่น ไม่มีผู้ใดรับหมายแทน ศาลเจ้าของคดีสั่งลงในหนังสือนำส่งหมายคืนนั้นว่าให้โจทก์ทราบ จะดำเนินการอย่างไรต่อไปให้แถลงภายใน 3 วัน แต่ไม่ปรากำว่าคู่ความได้ลงลายมือชื่อรับทราบคำสั่งนี้ ต่อมาเมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่ง - เลยกำหนด 3 วันแล้ว เจ้าพนักงานศาลรายงานว่า โจทก์มิได้มาติดต่อหรือยื่นคำแถลงต่อศาล ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 เพราะโจทก์ยังไม่ทราบคำสั่งของศาลที่ให้แถลงภายใน 3 วันนั้น
เมื่อศาลมีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความแล้วในวันเดียวกันนั้นเองโจทก์ยื่นคำร้องแสดงเหตุผลว่า โจทก์มิได้จงใจที่จะทิ้งฟ้อง ขอให้ศาลเรียกจำเลยมาแก้คดีและดำเนินคดีต่อไป ศาลได้ตรวจสำนวนและบัญชีนัดแล้ว จึงได้ทราบว่าได้สั่งไปโดยผิดหลง ดังนี้ ศาลนั้นชอบที่จะมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นได้ และแม้จะมิได้ไต่สวนคำร้องของโจทก์ และมิได้สอบถามจำเลย ก็ไม่เป็นการผิดกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3301/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีและการเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ไม่ทราบคำสั่งศาล
ในคดีอาญา ศาลได้ทำการไต่สวนมูลฟ้อง สั่งว่าคดีมีมูลประทับฟ้อง และให้หมายเรียกจำเลยมาให้การแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์ กับให้โจทก์นำส่งหมายภายใน 7 วัน ถ้าส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 3 วัน โดยโจทก์ลงลายมือชื่อทราบคำสั่งนั้นแล้ว ต่อมาได้มีการนำส่งหมายเรียกแก่จำเลยโดยขอให้ศาลอื่นจัดการส่งให้เพราะจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลอื่น ศาลที่จัดการส่งหมายให้แจ้งมาว่าส่งหมายให้จำเลยไม่ได้เนื่องจากจำเลยไปอยู่ที่อื่น ไม่มีผู้ใดรับหมายแทน ศาลเจ้าของคดีสั่งลงในหนังสือนำส่งหมายคืนนั้นว่าให้โจทก์ทราบ จะดำเนินการอย่างไรต่อไปให้แถลงภายใน3 วัน แต่ไม่ปรากฏว่าคู่ความได้ลงลายมือชื่อรับทราบคำสั่งนี้ ต่อมาเมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเลยกำหนด 3 วันแล้วเจ้าพนักงานศาลรายงานว่า โจทก์มิได้มาติดต่อหรือยื่นคำแถลงต่อศาล ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 เพราะโจทก์ยังไม่ทราบคำสั่งของศาลที่ให้แถลงภายใน 3 วันนั้น
เมื่อศาลมีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความแล้ว ในวันเดียวกันนั้นเองโจทก์ยื่นคำร้องแสดงเหตุผลว่า โจทก์มิได้จงใจที่จะทิ้งฟ้อง ขอให้ศาลเรียกจำเลยมาแก้คดีและดำเนินคดีต่อไป ศาลได้ตรวจสำนวนและบัญชีนัดแล้ว จึงได้ทราบว่าได้ส่งไปโดยผิดหลง ดังนี้ ศาลนั้นชอบที่จะมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นได้ และแม้จะมิได้ไต่สวนคำร้องของโจทก์ และมิได้สอบถามจำเลย ก็ไม่เป็นการผิดกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3174/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิร้องขัดทรัพย์โดยไม่สุจริตเพื่อประวิงคดี ทำให้ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์
คดีได้มีการประกาศขายทอดตลาดแล้ว และเลื่อนการขายทอดตลาดเรื่อยมาโดยเฉพาะผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นบุตรจำเลยได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกศาลสั่งจำหน่ายคดี ครั้งที่ 2 ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คดีถึงที่สุด ศาลกำหนดให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 7 วัน มีการประกาศขายทอดตลาดอีก แต่ก่อนวันนัดซึ่งล่วงเลยเวลาที่ศาลให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาเสียเกือบ 3 เดือนผู้ร้องขัดทรัพย์กลับมายื่นฟ้องขัดทรัพย์ใหม่เป็นครั้งที่ 3 พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะประวิงคดีมิให้ศาลขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ถูกยึดเท่านั้น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ต้องยกคำร้องขัดทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีจำหน่าย: โจทก์ไม่เสียค่าขึ้นศาล ศาลจำหน่ายคดีแล้ว ไม่สามารถกลับมาเสียค่าขึ้นศาลในคดีเดิมได้ ต้องยื่นฟ้องใหม่
ในชั้นพิจารณาคำฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่งคดีมีทุนทรัพย์ แต่โจทก์ไม่ยอมเสียอ้างว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี โจทก์อุทธรณ์และฎีกาคัดค้านในที่สุดศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีไปแล้วก็เท่ากับไม่มีคดีของโจทก์อยู่ในศาล โจทก์จะมายื่นคำแถลงขอเสียค่าขึ้นศาลในคดีที่ศาลชั้นต้นได้สั่งจำหน่ายไปแล้วไม่ได้ หากประสงค์จะดำเนินการต่อไปก็ชอบที่จะยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่โดยกำหนดทุนทรัพย์มาในฟ้อง และเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์นั้น
of 34