คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 174 (2)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 331 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสียค่าขึ้นศาลหลังศาลสั่งจำหน่ายคดี: โจทก์ต้องยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่
ในชั้นพิจารณาคำฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์แต่โจทก์ไม่ยอมเสียอ้างว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีโจทก์อุทธรณ์และฎีกาคัดค้านในที่สุดศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีไปแล้วก็เท่ากับไม่มีคดีของโจทก์อยู่ในศาลโจทก์จะมายื่นคำแถลงขอเสียค่าขึ้นศาลในคดีที่ศาลชั้นต้นได้สั่งจำหน่ายไปแล้วไม่ได้ หากประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ชอบที่จะยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่โดยกำหนดทุนทรัพย์มาในฟ้องและเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอุทธรณ์: การจำกัดขอบเขตอุทธรณ์เฉพาะฟ้องโจทก์ และผลต่อค่าธรรมเนียมศาล
อุทธรณ์ของจำเลยได้ระบุไว้ชัดแล้วว่า จำเลยอุทธรณ์เฉพาะที่โจทก์ฟ้องจำเลยเท่านั้น มิได้อุทธรณ์ข้อที่เกี่ยวกับฟ้องแย้งแต่อย่างใด จำเลยจึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามที่ฟ้องแย้งอีก ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้เรียกค่าธรรมเนียมตามฟ้องแย้งเพิ่ม จำเลยแถลงเข้ามาใหม่ว่าจำเลยอุทธรณ์เฉพาะฟ้องโจทก์ ไม่ประสงค์อุทธรณ์ในข้อฟ้องแย้งต่อไปและไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียมศาลตามฟ้องแย้ง ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ถือเอาคำแถลงของจำเลยเป็นข้อวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงคำสั่งใหม่ได้ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิจารณาวินิจฉัยให้จำเลยเฉพาะแต่ที่เกี่ยวกับฟ้องโจทก์เท่านั้น กรณีไม่มีเหตุที่จะสั่งจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการอุทธรณ์และการเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาล การจำหน่ายคดี
อุทธรณ์ของจำเลยระบุไว้ชัดแจ้งว่า จำเลยขออุทธรณ์แต่เฉพาะที่โจทก์ฟ้องจำเลยเท่านั้น มิได้อุทธรณ์ข้อที่เกี่ยวกับฟ้องแย้งแต่อย่างใดจำเลยจึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามที่ฟ้องแย้งอีกศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้เรียกค่าธรรมเนียมศาลตามฟ้องแย้งเพิ่ม จำเลยแถลงเข้ามาใหม่ว่าจำเลยอุทธรณ์เฉพาะฟ้องโจทก์ ไม่ประสงค์อุทธรณ์ในข้อฟ้องแย้งต่อไปและไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียมศาลตามฟ้องแย้งดังนี้ ศาลอุทธรณ์ถือเอาคำแถลงของจำเลยเป็นข้อวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงคำสั่งใหม่ได้และศาลอุทธรณ์ย่อมพิจารณาวินิจฉัยคดีให้จำเลยเฉพาะแต่ที่เกี่ยวกับฟ้องโจทก์เท่านั้นกรณีไม่มีเหตุที่จะสั่งจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อการดำเนินคดีตามคำสั่งศาลทำให้ศาลมีอำนาจยกคำร้อง และไม่มีสิทธิยื่นคำร้องใหม่
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่อ้างว่า ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะจำเลยไม่เคยได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาดังกล่าว แต่จำเลยไม่นำส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องดังกล่าวให้โจทก์ภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งศาล ดังนี้เป็นกรณีที่จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด ศาลย่อมสั่งยกคำร้องได้
เมื่อศาลสั่งยกคำร้องดังกล่าวแล้ว จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งกลับยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนคำร้องฉบับแรกนั้นอีกอ้างว่าทนายของจำเลยทิ้งคดีไม่ดำเนินการตามที่ศาลสั่งและจำเลยอยู่ต่างจังหวัดดังนี้ไม่เป็นเหตุให้จำเลยยกเป็นข้ออ้างขอให้ศาลไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ศาลยกไปแล้วอีกได้ เพราะเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเองที่ไม่เอาใจใส่ในคดีของตนและจำเลยจะอ้างว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมก็ไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปเพื่อคู่ความทั้งสองฝ่ายมิใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยต่อการดำเนินคดีตามคำสั่งศาล และการไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์ ทำให้ศาลยกคำร้องได้
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่อ้างว่า ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะจำเลยไม่เคยได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาดังกล่าว แต่จำเลยไม่นำส่งหมายนัด และสำเนาคำร้องดังกล่าวให้โจทก์ภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งศาล ดังนี้เป็นกรณีที่จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด ศาลย่อมสั่งยกคำร้องได้
เมื่อศาลสั่งยกคำร้องดังกล่าวแล้ว จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งกลับยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนคำร้องฉบับแรกนั้นอีก อ้างว่าทนายของจำเลยทิ้งคดีไม่ดำเนินการตามที่ศาลสั่ง และจำเลยอยู่ต่างจังหวัด ดังนี้ไม่เป็นเหตุให้จำเลยยกเป็นข้ออ้างขอให้ศาลไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ศาลยกไปแล้วอีกได้ เพราะเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเองที่ไม่เอาใจใส่ในคดีของตน และจำเลยจะอ้างว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมก็ไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปเพื่อคู่ความทั้งสองฝ่ายมิใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2701/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลและไม่แจ้งการเสียชีวิตของโจทก์
วันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มภายในกำหนด 15 วัน โจทก์มิได้เสียตามกำหนด ศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายคดีตามคำแถลงของจำเลยแม้ได้ความว่าตัวโจทก์ถึงแก่กรรมภายหลังวันนัดชี้สองสถานวันเดียว แต่ทนายโจทก์ก็หาได้แจ้งให้ศาลทราบและขอให้ศาลสั่งการเกี่ยวกับคำสั่งนั้นแต่ประการใดไม่ จึงเป็นความผิดของฝ่ายโจทก์เอง การที่ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(1) แล้ว
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มาฟังคำสั่งและกำหนดวันพิจารณาในวันนัดชี้สองสถาน ได้ทราบคำสั่งนั้นถือได้ว่าโจทก์ได้ทราบกำหนดนัดดังกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีแพ่งโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้มีเหตุส่งหมายเรียกผิดพลาด ศาลต้องพิจารณาความตั้งใจของผู้ฟ้อง
แม้โจทก์มิได้แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายในกำหนด 7 วันตามคำสั่ง ศาลชั้นต้น ในกรณีส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้แก่จำเลยไม่ได้ก็ตาม เมื่อได้ความว่าโจทก์ได้เอาใจใส่ในการดำเนินคดีของโจทก์มาโดยตลอด พนักงานศาลไปส่งหมายเรียกกับสำเนาคำฟ้องให้จำเลยผิดจากวันที่นัดหมายกันไว้ โดยโจทก์ไม่ทราบ ไม่ได้นำส่ง แต่โจทก์ก็ติดตามทำคำแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้มอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นต่อศาลแต่เกินกำหนด 7 วัน ซึ่งศาลได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงใหม่ในตราประทับรับฟ้องเดิมที่กำหนดไว้ 15 วันไปเพียงวันเดียว จึงยังไม่ได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลกำหนด ศาลจะมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายและสำเนาฟ้อง - การทิ้งฟ้อง - ความรู้โจทก์
ศาลสั่งรับคำฟ้องมีความว่า ถ้าส่งสำเนาแก่จำเลยไม่ได้ให้โจทก์แถลงใน 7 วัน หากไม่แถลงให้ถือว่าทิ้งฟ้อง แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ทราบว่าส่งหมายและสำเนาฟ้องแก่จำเลยไม่ได้ จะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและจำหน่ายคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกและการแจ้งผลการส่ง: ศาลต้องแจ้งผลการส่งหมายเรียกให้โจทก์ทราบก่อนสั่งทิ้งฟ้อง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งในวันรับคำฟ้องของโจทก์ว่า "ถ้าส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 7 วันนับแต่วันส่งไม่ได้" มีความหมายว่า โจทก์ได้ทราบถึงผลการส่งหมายในวันส่งนั้น ปรากฏว่าศาลยังมิได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่าส่งหมายเรียกให้จำเลยไม่ได้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) อันจะเป็นการทิ้งฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องฎีกาเนื่องจากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกา แม้คำสั่งจะผิดพลาด
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลย และสั่งให้โจทก์ (น่าจะเป็นจำเลย) นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน 7 วัน ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดฝ่ายจำเลยเซ็นทราบคำสั่งนี้ ต่อมาอีก 1 เดือนเศษ จำเลยยังไม่นำส่งสำเนาฎีกา ดังนี้ เมื่อแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า "ฯลฯ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว" และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งดังกล่าวในวันที่จำเลยยื่นฎีกานั้นเอง จึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบคำสั่งนั้นแล้ว แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งผิดพลาดไป ควรจะสั่งว่า "ให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์" ก็ตาม แต่ผู้ที่ทราบคำสั่งก็ย่อมจะทราบได้ว่าตามคำสั่งนั้นหมายถึงให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกานั่นเอง เพราะจำเลยเป็นผู้ฎีกา เมื่อจำเลยมิได้นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดเช่นนี้ จำเลยจึงทิ้งฟ้องฎีกา ศาลฎีกาจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ
of 34