คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 618

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 145 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2108/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ขนส่งทอดสุดท้าย: จำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบการขนส่งและส่งมอบสินค้า จึงถือเป็นผู้ขนส่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 608
จำเลยได้ติดต่อว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือเล็ก โดยจำเลยเป็นผู้แจ้งให้ผู้ขนถ่ายทราบว่าเป็นเรือลำไหนและจอดที่ใดจำเลยเป็นผู้ชำระค่าจ้างให้ห้าง ส.และหากห้างส. พบความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งจะแจ้งความเสียหายให้จำเลยทราบ จำเลยเป็นผู้เช่าเครื่องมือในการขนถ่ายสินค้าขึ้นลงจากเรือและชำระค่าเช่าให้แก่การท่าเรือ ฯจำเลยเป็นผู้ยื่นคำร้องขอนำเรือเข้าเทียบท่า แจ้งข่าวการมาถึงของเรือให้ผู้ซื้อและกรมศุลกากรทราบ เมื่อผู้ซื้อนำใบตราส่งมาที่บริษัทจำเลย จำเลยจะออกใบปล่อยสินค้าให้ ซึ่งจำเลยได้ดำเนินการดังกล่าวเฉพาะในประเทศไทยโดยได้รับมอบหมายจากบริษัท ด. ผู้ขนส่งทุกครั้งไป ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการขนส่งทอดสุดท้ายขึ้นลงจากเรือไปส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ขนส่งตาม ป.พ.พ. มาตรา608 ส่วนการกล่าวอ้างเอกสารที่ระบุข้อความว่าจำเลยเป็นตัวแทน หรือจำเลยอ้างว่าเป็นตัวแทนก็เป็นเรื่องของจำเลยเองในการดำเนิน การค้าระหว่างผู้ขนส่งกับจำเลยโดยจำเลยได้รับบำเหน็จตอบแทนตามอัตราทาง การค้าปกติของตน หามีผลทำให้ฐานะของจำเลยที่เป็นผู้ขนส่งเปลี่ยนแปลงไปไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2107/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ขนส่งต้องรับผิดแม้ความเสียหายเกิดจากความประมาทของผู้อื่น ตามหลักการขนส่ง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะผู้รับขนส่งข้าวสารจากองค์การคลังสินค้าไปลงเรือที่อ่าวไทย เพราะเรือที่จำเลยที่ 1 ใช้ บรรทุกข้าวสารชนกับเรือของจำเลยที่ 2 จนจมลงและข้าวสารเสียหายโดยโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่องค์การคลังสินค้าผู้เอาประกันภัยแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้เพียงว่า เมื่อจำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งข้าวสารก็ได้ว่าจ้างจำเลยร่วมทำการขนส่งช่วงและข้าวสารสูญหายเพราะเรือชนกันเป็นความประมาทของเรือของจำเลยที่ 2 ประเด็นพิพาทจึงมีเพียงว่าเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ ดังนั้นแม้จะฟังว่าข้าวสารเสียหายเพราะความประมาทของผู้ควบคุมเรือของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 และ 618

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2107/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางเรือ แม้จะเกิดจากความประมาทของบุคคลภายนอก
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะผู้รับขนส่งข้าวสารจากองค์การคลังสินค้าไปลงเรือที่อ่าวไทยเพราะเรือที่จำเลยที่ 1ใช้บรรทุกข้าวสารชนกับเรือของจำเลยที่ 2 จนจมลงและข้าวสารเสียหาย โดยโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่องค์การคลังสินค้าผู้เอาประกันภัยแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้เพียงว่า เมื่อจำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งข้าวสารก็ได้ว่าจ้างจำเลยร่วมทำการขนส่งช่วง และข้าวสารสูญหายเพราะเรือชนกันเป็นความประมาทของเรือของจำเลยที่ 2 ประเด็นพิพาทจึงมีเพียงว่า เหตุละเมิดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ จำเลยที่ 1 มิได้ยกเหตุสุดวิสัยขึ้นปฏิเสธความรับผิดแต่อย่างใด ดังนั้นแม้จะฟังว่าข้าวสารเสียหายเพราะความประมาทของผู้ควบคุมเรือของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 และ 618

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2107/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของสินค้าจากการชนเรือ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะ ผู้รับขนส่งข้าวสารจาก องค์การคลังสินค้า ไปลงเรือที่ อ่าวไทย เพราะเรือที่จำเลยที่ 1ใช้ บรรทุกข้าวสารชนกับเรือของจำเลยที่ 2 จนจมลงและข้าวสารเสียหายโดย โจทก์ในฐานะ ผู้รับประกันภัยได้ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ องค์การคลังสินค้า ผู้เอาประกันภัยแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้เพียงว่า เมื่อจำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งข้าวสารก็ได้ ว่าจ้างจำเลยร่วมทำการขนส่งช่วง และข้าวสารสูญหายเพราะเรือชนกันเป็นความประมาทของเรือของจำเลยที่ 2 ประเด็นพิพาทจึงมีเพียงว่าเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมต้อง รับผิดต่อ โจทก์หรือไม่ดังนั้นแม้จะฟังว่าข้าวสารเสียหายเพราะความประมาทของผู้ควบคุมเรือของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ก็ต้อง รับผิดต่อ โจทก์ในฐานะ ผู้ขนส่ง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 และ 618.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2107/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับขนส่งต้องรับผิดชอบความเสียหายจากอุบัติเหตุแม้จะเกิดจากความประมาทของบุคคลภายนอก
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะผู้รับขนส่งข้าวสารจากองค์การคลังสินค้าไปลงเรือที่อ่าวไทยเพราะเรือที่จำเลยที่ 1 ใช้บรรทุกข้าวสารชนกับเรือของจำเลยที่ 2 จนจมลงและข้าวสารเสียหาย โดยโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่องค์การคลังสินค้าผู้เอาประกันภัยแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้เพียงว่า เมื่อจำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งข้าวสารก็ได้ว่าจ้างจำเลยร่วมทำการขนส่งช่วง และข้าวสารสูญหายเพราะเรือชนกันเป็นความประมาทของเรือของจำเลยที่ 2 ประเด็นพิพาทจึงมีเพียงว่า เหตุละเมิดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1กับจำเลยร่วมต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ ดังนั้นแม้จะฟังว่าข้าวสารเสียหายเพราะความประมาทของผู้ควบคุมเรือของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้ขนส่ง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 616 และ 618.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับจ้างติดต่อท่าเรือไม่ใช่ผู้ขนส่ง: การเยียวยาความเสียหายจากการสูญหายของสินค้า
บริษัทจำเลยมิได้เข้าร่วมทำการขนส่งหรือขนถ่ายสินค้า การขนส่งได้กระทำโดยเรือ น. เพียงทอดเดียวจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย จำเลยจึงมิได้เป็นผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 8 รับขน อันเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงกับการรับขนทางทะเลตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 609 แม้ว่าจำเลยจะเป็นผู้แจ้งการมาถึงของสินค้าให้ผู้รับตราส่งทราบ ให้ผู้รับตราส่งนำใบตราส่งมามอบเพื่อรับใบเบิกสินค้าจากจำเลยและการกระทำของจำเลยจะได้ค่าตอบแทนจากบริษัทผู้ขนส่งก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นเพียงผู้รับจ้างหรือตัวแทนของบริษัทผู้ขนส่งในการติดต่อกับท่าเรือเจ้าหน้าที่และผู้รับตราส่งเท่านั้น ไม่ได้มีลักษณะเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 618 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในการที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับจ้างติดต่อท่าเรือไม่ใช่ผู้ขนส่ง - ไม่ต้องรับผิดชอบสินค้าสูญหาย
บริษัทจำเลยมิได้เข้าร่วมทำการขนส่งหรือขนถ่ายสินค้าการขนส่งได้กระทำโดยเรือ น. เพียงทอดเดียวจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย จำเลยจึงมิได้เป็นผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะ 8 รับขน อันเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงกับการรับขนทางทะเลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 609 แม้ว่าจำเลยจะเป็นผู้แจ้งการมาถึงของสินค้าให้ผู้รับตราส่งทราบ ให้ผู้รับตราส่งนำใบตราส่งมามอบเพื่อรับใบเบิกสินค้าจากจำเลยและการกระทำของจำเลยจะได้ค่าตอบแทนจากบริษัทผู้ขนส่งก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นเพียงผู้รับจ้างหรือตัวแทนของบริษัทผู้ขนส่งในการติดต่อกับท่าเรือ เจ้าหน้าที่และผู้รับตราส่งเท่านั้น ไม่ได้มีลักษณะเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 618 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในการที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ถือเป็นผู้ร่วมขนส่ง แม้ช่วยเหลือเจ้าของเรือและผู้ขนส่งในการดำเนินการบางส่วน
จำเลยไม่ได้เข้าร่วมทำการขนส่งสินค้ากับบริษัทผู้ขนส่งซึ่ง ได้ ทำการขนส่งสินค้ามาทางเรือ และไม่ได้มีส่วนเข้าร่วมในการขนถ่ายสินค้าจากเรือด้วยการที่จำเลยได้ ดำเนินการติดต่อ กรมเจ้าท่าให้มีการนำร่องเพื่อให้เรือเข้าเทียบท่า และแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองให้ตรวจ ชาว ต่างประเทศที่มากับเรือเป็นผู้ขออนุญาตนำเรือเข้าต่อ กรมศุลกากร รวมทั้งแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบนั้นกิจการเหล่านี้เป็นกิจการที่เจ้าของเรือและบริษัทผู้ขนส่งจะต้อง กระทำโดย ตนเอง การที่จำเลยได้ กระทำกิจการเหล่านั้นแทนเจ้าของเรือและผู้ขนส่ง ยังไม่พอให้ถือว่าจำเลยเป็นผู้เข้าร่วมขนส่งด้วย แม้เมื่อผู้รับตราส่งนำใบตราส่งมายื่น และจำเลยรับใบตราส่งคืนมาแล้วออกใบปล่อยสินค้าให้เพื่อนำไปรับสินค้าจากนายเรือก็ตาม ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะ ผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตาม วิธีการขนส่งทางทะเล.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งทางทะเล: จำเลยไม่ได้มีส่วนร่วมในการขนส่ง แม้จะดำเนินการแทนเจ้าของเรือและผู้ขนส่ง
จำเลยไม่ได้เข้าร่วมทำการขนส่งสินค้ากับบริษัทผู้ขนส่งซึ่งได้ทำการขนส่งสินค้ามาทางเรือ และไม่ได้มีส่วนเข้าร่วมในการขนถ่ายสินค้าจากเรือด้วย การที่จำเลยได้ดำเนินการติดต่อกรมเจ้าท่าให้มีการนำร่องเพื่อให้เรือเข้าเทียบท่าและแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองให้ตรวจชาวต่างประเทศที่มากับเรือ เป็นผู้ขออนุญาตนำเรือเข้าต่อกรมศุลกากร รวมทั้งแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบนั้น กิจการเหล่านี้เป็นกิจการที่เจ้าของเรือและบริษัทผู้ขนส่งจะต้องกระทำโดยตนเอง การที่จำเลยได้กระทำกิจการเหล่านั้นแทนเจ้าของเรือและผู้ขนส่ง ยังไม่พอให้ถือว่าจำเลยเป็นผู้เข้าร่วมขนส่งด้วย แม้เมื่อผู้รับตราส่งนำใบตราส่งมายื่น และจำเลยรับใบตราส่งคืนมาแล้วออกใบปล่อยสินค้าให้เพื่อนำไปรับสินค้าจากนายเรือก็ตาม ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจช่วงกับการไม่ถือเป็นผู้เข้าร่วมขนส่ง
การที่จำเลยได้ ดำเนินการติดต่อ กรมเจ้าท่า และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อการนำร่องเรือ น. ซึ่ง บรรทุกสินค้ารายพิพาทเข้าสู่ท่าและขอที่จอดเทียบเรือ กับติดต่อ กรมศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรไปตรวจ สินค้าในเรือ รวมทั้งแจ้งเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบ กิจการเหล่านี้เป็นกิจการที่เจ้าของเรือ น. และบริษัท ฟ. ผู้ขนส่งจะต้อง กระทำโดย ตนเองซึ่ง ได้ มอบอำนาจให้บริษัท ซ. เป็นผู้กระทำการแทนแต่บริษัท ซ.มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ จึงได้ มอบอำนาจช่วงให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินกิจการเหล่านั้นแทน การที่จำเลยกระทำไปดังกล่าวยังไม่พอให้ถือได้ว่าจำเลยได้ ทำหน้าที่เป็นผู้เข้าร่วมขนส่งกับเรือ น. และบริษัท ฟ. และเพียงแต่ จำเลยได้ ร่วมตรวจสอบสินค้ารายพิพาทกับพนักงานตรวจสอบสินค้าของ การท่าเรือแห่งประเทศไทยรับมอบใบตราส่งคืนมาแล้วออกใบรับของให้แก่ผู้รับตราส่งกับแจ้งไปยังผู้อำนวยการกองตรวจสอบสินค้าขอเข้า กรมศุลกากร ขอแก้บัญชีสินค้าเพื่อให้ผู้รับตราส่งไปดำเนินพิธีการศุลกากร ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะ เป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด.
of 15