พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นแพทย์และปลอมแปลงเอกสารราชการ ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงินให้จำเลย
จำเลยแสดงตนว่าเป็นแพทย์และพ่อตาจำเลยเป็นแพทย์ใหญ่แม้ความจริงจำเลยและพ่อตาไม่ได้เป็นแพทย์แต่ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือบุตรผู้เสียหาย จำเลยย่อมมีผิดตาม ม.123
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริง แม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม ม.224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข.แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริง แม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม ม.224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข.แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างระหว่างเจ้าของเคหะสถานกับผู้ครอบครองและการฟ้องคดีอาญา
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า จำเลยบุกรุกเคหะสถานของผู้เสียหายแล้วทำร้ายร่างกายผู้เสียหายและกระทำอนาจารแก่หญิงที่เคหะสถานนั้น
พิจารณาได้ความว่า จำเลยได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายและกระทำอนาจารแก่หญิงที่เคหะสถานนั้นจริง ปรากฏว่าเคหะสถานนั้นเป็นของมารดาผู้เสียหาย และมารดาผู้เสียหายไม่ได้ไปร้องทุกข์ในข้อหาฐานบุกรุกดังนี้ แม้ศาลจะยกฟ้องในข้อหาฐานบุกรุกโดยเหตุที่เจ้าของเคหะสถานไม่ได้ร้องทุกข์ก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายและทำอนาจารได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง
พิจารณาได้ความว่า จำเลยได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายและกระทำอนาจารแก่หญิงที่เคหะสถานนั้นจริง ปรากฏว่าเคหะสถานนั้นเป็นของมารดาผู้เสียหาย และมารดาผู้เสียหายไม่ได้ไปร้องทุกข์ในข้อหาฐานบุกรุกดังนี้ แม้ศาลจะยกฟ้องในข้อหาฐานบุกรุกโดยเหตุที่เจ้าของเคหะสถานไม่ได้ร้องทุกข์ก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายและทำอนาจารได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับภรรยาเจ้าพนักงาน ไม่ถือว่าเป็นการแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน
แสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิด ชอบกับภรรยาผู้พิพากษาจะไปพูดกับภรรยาผู้พิพากษาให้พูดกับกับผู้พิพากษาตัดสินความให้เป็นความชนะคดีดังนี้ ไม่เป็นการแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานตาม ม.123 เป็นแต่แสดงว่าสนิทชิดชอบกับภรรยาเจ้าพนักงานเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาท, และความผิดฐานแสดงอาคตมาดร้าย: เงื่อนไขความผิดและการฟ้องร้อง
การสแดงความอาคาตมาดร้ายตามมาตรา 30 จะต้องเปนเรื่องสแดงอาคาตจะก่อการร้ายอันเปนผิดทางอาญา
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหา+ นอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหา เมื่อเสนอไปแล้วพายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อไห้เข้าใจว่า + รายงานไว้แต่เดิมก็อาดมีผิดถานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเปนเหตุไห้ + ถูกจับกุมจะเปนผิดตามมาตา 270 หรือไม่น้น ถ้าเปนการนีที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
สแดงคนสนิชชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทเข้าเปนผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทเปนผู้เสียหายแทนความผิดตามมาตรา 123 และ154 พลเรือนสมคบกับตำหรวดทำ + ถ้าไม่ได้ฟ้องตำหรวดด้วย ก็ผู้ + พลเรือนต่อสาลพลเรือนได้ + ที่ 622/2486
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหา+ นอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหา เมื่อเสนอไปแล้วพายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อไห้เข้าใจว่า + รายงานไว้แต่เดิมก็อาดมีผิดถานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเปนเหตุไห้ + ถูกจับกุมจะเปนผิดตามมาตา 270 หรือไม่น้น ถ้าเปนการนีที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
สแดงคนสนิชชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทเข้าเปนผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทเปนผู้เสียหายแทนความผิดตามมาตรา 123 และ154 พลเรือนสมคบกับตำหรวดทำ + ถ้าไม่ได้ฟ้องตำหรวดด้วย ก็ผู้ + พลเรือนต่อสาลพลเรือนได้ + ที่ 622/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธฟ้องและการรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องทุกข์: อำนาจฟ้องและหน้าที่การนำสืบ
โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตาม ม. 123 และ 304. จำเลยไห้การปติเสธ เช่นนี้ย่อมต้องหมายถึงว่าจำเลยปติเสธคำกล่าวไนฟ้องซึ่งสแดงอำนาดฟ้องไนเรื่องไม่ไห้ร้องทุขด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยอ้างนำสินบนให้เจ้าพนักงาน - การร้องทุก - การคืนเงิน
เรียกเอาเงินจากผู้เสียหายว่าจะไปให้ตำรวจเพื่อช่วยระงับเรื่องให้ผู้ต้องหาในคดีหนึ่ง แต่แล้วไม่ช่วยเหลืออย่างไร เป็นเรื่องจะนำสินบนไปให้เจ้าพนักงาน ไม่ใช่เรื่องแสดงตนว่าสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานไม่เข้า ม.123, หลอกลวงเอาเงินจากเขาโดยอ้างว่า จะเอาไปให้เจ้าพนักงานในการช่วยเหลือผู้ถูกจับกุมเป็นผิดฐานฉ้อโกง,ผู้เสียหายเล่าเรื่องที่ถูกหลอกลวงให้นายร้อยตำรวจผู้หนึ่งฟังจนถึงมีการสอบสวนความผิดกันขึ้นเรียกว่ามีการร้องทุกตามกฎหมายแล้ว, ในเรื่องฉ้อโกงซึ่งเจ้าทุกมอบเงินให้จำเลยไปเพื่อเอาไปให้สินบนแก่เจ้าพนักงานนั้นอัยการจะขอให้จำเลยคืนเงินที่ถูกฉ้อไปนั้น ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยกฟ้อง: เหตุผลที่ไม่ปรากฏ
ยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวอ้างความรู้จักเจ้าพนักงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ถือเป็นความผิดตาม ม.123 หากไม่มีหลักฐานแสดงความสนิทชิดชอบ
จำเลยพูดว่ารู้จักกับเจ้าพนักงานมากคนจะไปพูดจากกิจธุระของโจทก์ให้โจทก์ได้ให้เงินจำเลยไปเช่นนี้ไม่เป็นผิดตาม ม.123
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเมื่อมีการอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย และการพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์ ๆ ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายได้
ถ้ามีอุทธรณ์แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงใดที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ชี้ขาดมาได้หรือไม่
(หมายเหตุ คดีนี้ศาลอุทธรณ์จะมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงได้หรือไม่ ศาลฎีกาไม่ชี้ขาด ศาลฎีกาชี้ขาดเพียงว่าข้ออุทธรณ์ของจำเลยอ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคำพิพากษาศาลชั้น ข้อฎีกาของจำเลยจึงตกไป)
ถ้ามีอุทธรณ์แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงใดที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ชี้ขาดมาได้หรือไม่
(หมายเหตุ คดีนี้ศาลอุทธรณ์จะมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงได้หรือไม่ ศาลฎีกาไม่ชี้ขาด ศาลฎีกาชี้ขาดเพียงว่าข้ออุทธรณ์ของจำเลยอ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคำพิพากษาศาลชั้น ข้อฎีกาของจำเลยจึงตกไป)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานรับสินบนและบทบาทผู้ช่วยในการรับสินบน: ความผิดและขอบเขตความรับผิด
นักเรียนอัยยการเปนเจ้าพนักงาน ถ้ารับสินบนมีผิดเสมียนฝึกหัดไม่ใช่เจ้าพนักงาน ถ้าเพียงแต่ชักจูงใครนำสืบบนไปให้เจ้าพนักงาน ถึงจะได้รับส่วนแบ่งบ้าง ก็ไม่มีผิดตาม ม.124 หรือฐานแสดงตนเปนคนสนิธชิดชอบกับเจ้าพนักงานตาม ม.123