คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 99

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 63 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2275/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ใบอนุญาตสถานบริการเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่อาจโอนหรือขอแทนกันได้ สัญญาโอนจึงเป็นโมฆะ
ใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 เป็นใบอนุญาตเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาต จะขออนุญาตแทนกันไม่ได้ พระราชบัญญัติดังกล่าวมิได้มีบทบัญญัติให้โอนใบอนุญาตแก่กันได้ แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ว่าไม่ประสงค์ให้โอนใบอนุญาตแก่กัน แม้ใบอนุญาตดังกล่าวจะเป็นทรัพย์สิน ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้รับอนุญาตโจทก์จึงไม่อาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนใบอนุญาตให้แก่โจทก์ตามสัญญา เพราะวัตถุประสงค์แห่งสัญญาฝ่าฝืนต่อกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กิจการเฉพาะตัวไม่เป็นมรดก, สิทธิในกิจการแพปลาหลังแม่เสียชีวิต, การเป็นหุ้นส่วนต้องมีหลักฐาน
กิจการแพปลาซึ่ง ผ.มารดาของโจทก์จำเลยประกอบอาชีพอยู่ก่อนถึงแก่กรรมนั้น ไม่ปรากฏว่านอกจากเงินสดและเงินที่ผ.ให้ชาวประมงยืมไปเป็นทุนแล้ว ยังมีทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอีก กิจการแพปลาจึงเป็นเพียงการงานอาชีพของ ผ.อันเป็นกิจการเฉพาะตัวโดยแท้ และย่อมไม่เป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์จำเลย การที่จำเลยประกอบกิจการแพปลาต่อมาหาทำให้โจทก์มีสิทธิเป็นเจ้าของกิจการแพปลาร่วมกับจำเลยด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กิจการเฉพาะตัวไม่เป็นมรดก การเป็นหุ้นส่วนต้องมีหลักฐานชัดเจน
กิจการแพปลาซึ่ง ผ.มารดาของโจทก์จำเลยประกอบอาชีพอยู่ก่อนถึงแก่กรรมนั้น ไม่ปรากฏว่านอกจากเงินสดและเงินที่ผ.ให้ชาวประมงยืมไปเป็นทุนแล้ว ยังมีทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอีก กิจการแพปลาจึงเป็นเพียงการงานอาชีพของผ.อันเป็นกิจการเฉพาะตัวโดยแท้ และย่อมไม่เป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์จำเลย การที่จำเลยประกอบกิจการแพปลาต่อมาหาทำให้โจทก์มีสิทธิเป็นเจ้าของกิจการแพปลาร่วมกับจำเลยด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3567/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คสลักหลัง - สัญญาซื้อขายลดเช็ค - ความรับผิดของผู้อุทธรณ์ - อำนาจฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คที่จำเลยที่ 1 นำมาทำสัญญาขายลดรับเงินสดจากโจทก์จำเลยทั้งสองไม่ได้ให้การปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ในข้อนี้จึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าเช็คดังกล่าวจำเลยที่ 2 ได้ลงลายมือชื่อสลักหลังไว้ดังโจทก์ฟ้อง
จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีเพียงว่ามีเหตุไม่ต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ หาได้ต่อสู้ในข้อไม่ต้องรับผิดในต้นเงินด้วยไม่ ฉะนั้นปัญหาว่าจำเลยจะต้องรับผิดในต้นเงินหรือไม่ จึงไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
จำเลยที่ 1 นำเช็คซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังมาทำสัญญาขายลดรับเงินสดจากโจทก์ โดยสัญญาว่าหากเช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์ไม่ได้รับชำระเงินตามเช็ค จำเลยที่ 1 ยอมชำระเงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีแก่โจทก์เมื่อได้ความว่าโจทก์ไม่ได้รับชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ส่วนจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคหนึ่ง
เช็คคือหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งหรือให้ใช้ ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งอันเรียกว่าผู้รับเงิน จึงเป็นทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 99 ซึ่งอาจโอนกรรมสิทธิ์กันได้ตามมาตรา 904,917 และ 989โจทก์จึงทำสัญญาซื้อขายลดเช็คอันเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่งมีมูลหนี้อยู่ และนำสัญญาดังกล่าวมาฟ้องบังคับได้ และปัญหาว่าโจทก์จะใช้สิทธิฟ้องบังคับตามสัญญาขายลดเช็คได้หรือไม่ เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องจะมีต้นฉบับอยู่หรือไม่ โจทก์ได้รับเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายแล้วหรือไม่จำเลยไม่ทราบ และตามภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยลงลายมือชื่อสลักหลังไว้ โจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ทั้งโจทก์ไม่เคยบอกกล่าวให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์โจทก์ยังไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องนั้นไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยอำนาจฟ้องของโจทก์ เพราะไม่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิเป็นคู่ความได้หรือไม่เมื่อจำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3567/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คสลักหลัง-สัญญาซื้อขายลดเช็ค: การรับผิดของผู้อ้างสลักหลังและผู้สลักหลังต่อผู้ทรง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คที่จำเลยที่ 1 นำมาทำสัญญาขายลดรับเงินสดจากโจทก์ จำเลยทั้งสองไม่ได้ให้การปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ในข้อนี้จึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าเช็คดังกล่าวจำเลยที่ 2 ได้ลงลายมือชื่อสลักหลังไว้ดังโจทก์ฟ้อง
จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีเพียงว่ามีเหตุไม่ต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ หาได้ต่อสู้ในข้อไม่ต้องรับผิดในต้นเงินด้วยไม่ ฉะนั้นปัญหาว่าจำเลยจะต้องรับผิดในต้นเงินหรือไม่ จึงไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
จำเลยที่ 1 นำเช็คซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังมาทำสัญญาขายลดรับเงินสดจากโจทก์ โดยสัญญาว่าหากเช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์ไม่ได้รับชำระเงินตามเช็ค จำเลยที่ 1 ยอมชำระเงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีแก่โจทก์เมื่อได้ความว่าโจทก์ไม่ได้รับชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีส่วนจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคหนึ่ง
เช็คคือหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งหรือให้ใช้ ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งอันเรียกว่าผู้รับเงิน จึงเป็นทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 99 ซึ่งอาจโอนกรรมสิทธิ์กันได้ตามมาตรา 904, 917 และ 989 โจทก์จึงทำสัญญาซื้อขายลดเช็คอันเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่งมีมูลหนี้อยู่ และนำสัญญาดังกล่าวมาฟ้องบังคับได้ และปัญหาว่าโจทก์จะใช้สิทธิฟ้องบังคับตามสัญญาขายลดเช็คได้หรือไม่ เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องจะมีต้นฉบับอยู่หรือไม่โจทก์ได้รับเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายแล้วหรือไม่จำเลยไม่ทราบ และตามภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยลงลายมือชื่อสลักหลังไว้โจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ทั้งโจทก์ไม่เคยบอกกล่าวให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์โจทก์ยังไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องนั้นไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยอำนาจฟ้องของโจทก์ เพราะไม่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิเป็นคู่ความได้หรือไม่เมื่อจำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก, การรับพยานเพิ่มเติม, และการพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่จำเลยนำสืบเพื่อวินิจฉัยทรัพย์มรดก
สิทธิการเช่าตึกแถว มีราคาและอาจโอนกันได้ จึงเป็นทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 99
พยานหลักฐานที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมภายหลังสืบพยาน โจทก์เสร็จ เป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับสูติบัตรที่โจทก์อ้างหมายจ. 1 นั่นเองจึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานที่ขออ้างเพิ่มเติมนั้นมาสืบ หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานนั้นมีอยู่ การที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อเสร็จการสืบพยานของโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน จึงไม่มีเหตุอันสมควรอนุญาตให้ระบุอ้างพยานเพิ่มเติมได้
แม้โจทก์ฟ้องอ้างว่ารถคันพิพาทเป็นทรัพย์มรดก แต่ทางพิจารณากลับได้ความตามที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยได้ขายทรัพย์มรดกอื่นไปแล้วไม่ถึงหนึ่งเดือน จำเลยก็ซื้อรถคันพิพาท ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้นำสืบว่าจำเลยขายทรัพย์อะไรไป ศาลก็มีอำนาจพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่จำเลยนำสืบรับดังกล่าวประกอบกับพยานหลักฐานในสำนวนและฟังว่าจำเลยขายทรัพย์มรดกอื่นเอาเงินมาซื้อรถคันพิพาท และถือได้ว่ารถคันพิพาทเป็นทรัพย์มรดก หาเป็นการนอกฟ้องและนอกคำให้การไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3853/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีจากหุ้นปันผล: หุ้นปันผลเป็นรายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิ
หุ้นเป็นสิ่งซึ่งอาจมีราคาและถือเอาได้ จึงต้องถือว่าเป็นทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 99
โจทก์ได้หุ้นมา ต้องถือว่าเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์สินซึ่งจะต้องนำมารวมเป็นรายได้ของโจทก์ในการคำนวณกำไรสุทธิโดยตีราคาหุ้นนั้นตามราคาที่พึงซื้อได้ตามปกติตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65ทวิ(3)
การที่โจทก์จ่ายเงินซื้อหุ้นเดิมนั้นเป็นรายจ่ายที่บังเกิดผลเป็นการเพิ่มเติมทรัพย์สินของโจทก์ขึ้นมา ถือได้ว่าเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนซึ่งจะนำมาเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของโจทก์ไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65ทวิ(1) และ 65ตรี(5) และหุ้นเดิมของโจทก์นั้นก็ยังคงเป็นทรัพย์สินของโจทก์อยู่ตามเดิม ไม่ได้สูญหายไปไหน เจ้าพนักงานประเมินนำทรัพย์สินเฉพาะส่วนที่โจทก์ได้รับเพิ่มเติมมาคือหุ้นปันผล มารวมเป็นรายได้ในการคำนวณหากำไรสุทธิของโจทก์เท่านั้น
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าการประเมินภาษีของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลรัษฎากร จำเลยให้การต่อสู้ว่าชอบแล้ว ศาลย่อมมีหน้าที่ยกบทกฎหมายมาปรับแก่คดีว่า การประเมินของจำเลยชอบด้วยประมวลรัษฎากรหรือไม่ ไม่ใช่วินิจฉัยนอกคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3853/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นปันผลเป็นรายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิ การลงทุนซื้อหุ้นเดิมไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้
หุ้นเป็นสิ่งซึ่งอาจมีราคาและถือเอาได้ จึงต้องถือว่าเป็นทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 99
โจทก์ได้หุ้นมา ต้องถือว่าเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์สินซึ่งจะต้องนำมารวมเป็นรายได้ของโจทก์ในการคำนวณกำไรสุทธิโดยตีราคาหุ้นนั้นตามราคาที่พึงซื้อได้ตามปกติตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ(3)
การที่โจทก์จ่ายเงินซื้อหุ้นเดิมนั้นเป็นรายจ่ายที่บังเกิดผลเป็นการเพิ่มเติมทรัพย์สินของโจทก์ขึ้นมา ถือได้ว่าเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนซึ่งจะนำมาเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของโจทก์ไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ(1) และ 65ตรี(5) และหุ้นเดิมของโจทก์นั้นก็ยังคงเป็นทรัพย์สินของโจทก์อยู่ตามเดิม ไม่ได้สูญหายไปไหน เจ้าพนักงานประเมินนำทรัพย์สินเฉพาะส่วนที่โจทก์ได้รับเพิ่มเติมมาคือหุ้นปันผลมารวมเป็นรายได้ในการคำนวณหากำไรสุทธิของโจทก์เท่านั้น
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าการประเมินภาษีของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลรัษฎากร จำเลยให้การต่อสู้ว่าชอบแล้ว ศาลย่อมมีหน้าที่ยกบทกฎหมายมาปรับแก่คดีว่า การประเมินของจำเลยชอบด้วยประมวลรัษฎากรหรือไม่ ไม่ใช่วินิจฉัยนอกคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2253/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าและการเพิกถอนตามพ.ร.บ.ล้มละลายฯ หากผู้ให้เช่ายินยอม
สิทธิการเช่าเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งซึ่งผู้เช่าอาจโอนให้แก่บุคคลอื่นได้ถ้าผู้ให้เช่ายินยอม เมื่อปรากฏว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้โอนสิทธิการเช่าแก่ผู้คัดค้านตามคำร้องของลูกหนี้ซึ่งเป็นผู้เช่าในระหว่างระยะเวลาสามปีก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลก็มีอำนาจสั่งเพิกถอนการโอนได้ตาม พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 114

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2095/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสิทธิในแชร์เป็นทรัพย์สินที่จำหน่ายได้ตามกฎหมาย ไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
สิทธิในการเป็นลูกวงในการเล่นแชร์เป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่งเพราะมีราคาและอาจถือเอาได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 99 จึงจำหน่ายและซื้อขายกันได้
จำเลยขายสิทธิในการเป็นผู้ถือหุ้นให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 194
การซื้อขายแชร์กฎหมายมิได้บังคับให้มีหลักฐานเป็นหนังสือการซื้อขายจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่อยู่ในบังคับว่าด้วยการโอนสิทธิเรียกร้องหรือโอนหนี้
of 7