พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการลงโทษปรับเมื่อมีโทษทั้งจำและปรับตามกฎหมายฝิ่น และการใช้ดุลพินิจงดปรับ
ตาม ม.11 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาอาจนำมาตรา 23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาบังคับกับ พ.ร.บ.ฝิ่นได้
เมื่อนำ ม.23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้แล้ว ศาลก็อาจจำคุกจำเลยสถานเดียวโดยไม่ปรับได้
ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฝิ่นว่าให้ปรับเท่านั้น ๆ เท่า หมายความว่าเมื่อศาลจะปรับจึงจะปรับตามส่วนที่กฎหมายฝิ่นกำหนดเมื่อศาลใช้ดุลพินิจจำคุกอย่างเดียว โดยไม่ปรับ บทบัญญัติในเรื่องปรับก็เป็นอันพ้นไป
การฎีกาให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษปรับด้วย เป็นข้อเท็จจริง ฎีกาไม่ได้
เมื่อนำ ม.23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้แล้ว ศาลก็อาจจำคุกจำเลยสถานเดียวโดยไม่ปรับได้
ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฝิ่นว่าให้ปรับเท่านั้น ๆ เท่า หมายความว่าเมื่อศาลจะปรับจึงจะปรับตามส่วนที่กฎหมายฝิ่นกำหนดเมื่อศาลใช้ดุลพินิจจำคุกอย่างเดียว โดยไม่ปรับ บทบัญญัติในเรื่องปรับก็เป็นอันพ้นไป
การฎีกาให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษปรับด้วย เป็นข้อเท็จจริง ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการลงโทษปรับและจำคุกตามกฎหมายฝิ่น โดยอ้างอิงมาตรา 23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา
ตาม มาตรา 11 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาอาจนำมาตรา 23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาบังคับกับ พระราชบัญญัติฝิ่นได้
เมื่อนำ มาตรา 23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้แล้ว ศาลก็อาจจำคุกจำเลยสถานเดียวโดยไม่ปรับได้
ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฝิ่นว่าให้ปรับเท่านั้นๆเท่า หมายความว่าเมื่อศาลจะปรับจึงจะปรับตามส่วนที่กฎหมายฝิ่นกำหนด เมื่อศาลใช้ดุลพินิจจำคุกอย่างเดียวโดยไม่ปรับ บทบัญญัติในเรื่องปรับก็เป็นอันพ้นไป
การฎีกาให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษปรับด้วย เป็นข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้
เมื่อนำ มาตรา 23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้แล้ว ศาลก็อาจจำคุกจำเลยสถานเดียวโดยไม่ปรับได้
ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฝิ่นว่าให้ปรับเท่านั้นๆเท่า หมายความว่าเมื่อศาลจะปรับจึงจะปรับตามส่วนที่กฎหมายฝิ่นกำหนด เมื่อศาลใช้ดุลพินิจจำคุกอย่างเดียวโดยไม่ปรับ บทบัญญัติในเรื่องปรับก็เป็นอันพ้นไป
การฎีกาให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษปรับด้วย เป็นข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต พยานหลักฐานจากการรับสารภาพและพฤติการณ์ที่เชื่อได้
ในคดีหาว่ามีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าฝิ่นของกลางเป็นของใครแต่โจทก์มีพยานสืบว่าฝิ่นของกลางถูกซุกซ่อนไว้ในตู้เก็บอาหารแห้งในเรือสินค้าต่างประเทศ ประกอบกับเมื่อค้นพบฝิ่นแล้ว ผูค้น ตำรวจและผู้สอบสวนสอบถามจำเลยถึง 3 ครั้ง 3 หน แต่จำเลยก็รับว่าเป็นฝิ่นของตนต่อหน้ามูลนายของจำเลยทั้งยังเขียนคำรับเป็นภาษาจีนและแสดงวิธีเอาฝิ่นไปซุกซ่อนไว้ให้ดูโดยถอดกระดานฝาตู้ชั้นในออกเอาฝิ่นซุกไว้แล้วปิดฝาอย่างเก่าสมกับเป็นผู้เอาฝิ่นไว้เอง ทั้งจำเลยเป็นผู้ครอบครองตู้ ๆ นั้นมีกุญแจ จำเลยเป็นผู้รักษากุญแจเอง พฤติการณ์เหล่านี้ฟังประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนคดีฟังได้ว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพและการครอบครองยาเสพติด พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับฝิ่นของกลาง
ในคดีหาว่ามีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าฝิ่นของกลางเป็นของใคร แต่โจทก์มีพยานสืบว่าฝิ่นของกลางถูกซุกซ่อนไว้ในตู้เก็บอาหารแห้งในเรือสินค้าต่างประเทศ ประกอบกับเมื่อค้นฝิ่นแล้ว ผู้ค้น ตำรวจและผู้สอบสวนสอบถามจำเลยถึง 3 ครั้ง 3 หนแต่จำเลยก็รับว่าเป็นฝิ่นของตนต่อหน้ามูลนายของจำเลยทั้งยังเขียนคำรับเป็นภาษาจีนและแสดงวิธีเอาฝิ่นไปซุกซ่อนไว้ให้ดูโดยถอดกระดานฝาตู้ชั้นในออกเอาฝิ่นซุกไว้แล้วปิดฝาอย่างเก่า สมกับเป็นผู้เอาฝิ่นไว้เองทั้งจำเลยเป็นผู้ครอบครองตู้ๆ นั้น มีกุญแจ จำเลยเป็นผู้รักษากุญแจเอง พฤติการณ์เหล่านี้ฟังประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนคดีฟังได้ว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญาต้องอาศัยพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงจำเลยกับความผิด ไม่สามารถลงโทษจากคำรับสารภาพเพียงอย่างเดียว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตแต่ตามทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับฝิ่นของกลางอย่างไรแม้กรณีจะเป็นประการใดก็ตาม คดีที่มีโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเช่นคดีนี้ศาลจะลงโทษจำเลยเพียงแต่ฟังคำรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานหรือชั้นสอบสวนหรือจะหยิบยกคำรับสารภาพของจำเลยต่อศาลในชั้นแรกโดยไม่มีพยานโดยตรงหรือพฤติการณ์อื่นประกอบด้วยแล้วจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษอาญาต้องอาศัยพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงจำเลยกับความผิด พยานคำรับสารภาพอย่างเดียวไม่พอ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่ตามทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับฝิ่นของกลางอย่างไร แม้กรณีจะเป็นประการใดก็ตาม คดีที่มีโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเช่นนี้คดีนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยเพียงแต่ฟังคำรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานหรือชั้นสอบสวนหรือจะหยิบยกคำรับสารภาพของจำเลยต่อศาลในชั้นแรกโดยไม่มีพยานโดยตรงหรือพฤติการณ์อื่นประกอบด้วยแล้วจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณค่าปรับในคดีมูลฝิ่นตาม พ.ร.บ.ฝิ่น ต้องใช้ราคามูลฝิ่น ไม่ใช่ราคาฝิ่น
พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 53 ซึ่งได้แก้ไขใหม่ โดย พ.ร.บ.ฝิ่น ( ฉบับที่ 4 ) 2481 มาตรา 6 หาได้ประสงค์จะให้ถือเอา " ราคาฝิ่น " มาตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับในคดีเรื่อง " มูลผิ่น " เหมือนมาตรา 51 ไม่เพราะความตอนท้าย 2 วรรคที่บัญญัติในเรื่อง " ราคาฝิ่น " และ " ราคามูลฝิ่น " อันจะตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับนั้น วรรคหลังบัญญัติว่า " ราคามูลฝิ่น..." ให้ถือเอา " ราคาฝิ่น " ตามวรรคก่อนแต่ " ราคาฝิ่น " ตามวรรคก่อนนั้นให้ถือเอา " ราคาฝิ่น " หรือ " ราคามูลฝิ่น " แล้วแต่กรณี ฉะนั้นเมื่อกรณีเป็นเรื่อง " มูลฝิ่น " ก็ตต้องถือเอาราคามูลฝิ่นตั้งเป็นเกณฑ์ค่าปรับ เมื่อรัฐบาลมิได้ขาย " มูลผิ่น " จึงไม่มีราคามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายมาตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับ ก็ต้องปรับตามคั่น+ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณค่าปรับในคดีฝิ่น: เกณฑ์ราคามูลฝิ่นเมื่อรัฐไม่ได้ขาย
พระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 มาตรา 53ซึ่งได้แก้ไขใหม่ โดยพระราชบัญญัติฝิ่น (ฉบับที่ 4)2481 มาตรา 6 หาได้ประสงค์จะให้ถือเอา 'ราคาฝิ่น' มาตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับในคดีเรื่อง'มูลฝิ่น' เหมือนมาตรา 51 ไม่ เพราะความตอนท้าย2 วรรคที่บัญญัติในเรื่อง 'ราคาฝิ่น' และ'ราคามูลฝิ่น'อันจะตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับนั้น วรรคหลังบัญญัติว่า'ราคามูลฝิ่น' ให้ถือเอา 'ราคาฝิ่น' ตามวรรคก่อนแต่ 'ราคาฝิ่น' ตามวรรคก่อนนั้นให้ถือเอา'ราคาฝิ่น'หรือ 'ราคามูลฝิ่น' แล้วแต่กรณีฉะนั้นเมื่อกรณีเป็นเรื่อง'มูลฝิ่น' ก็ต้องถือเอาราคามูลฝิ่นตั้งเป็นเกณฑ์ค่าปรับเมื่อรัฐบาลมิได้ขาย 'มูลฝิ่น'จึงไม่มีราคามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายมาตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับก็ต้องปรับตามขั้นต่ำตามที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองฝิ่น: ผู้ทำบัญชีซื้อฝิ่นเองถือเป็นผู้ 'มี' ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของกิจการรับเหมา
จำเลยเป็นผู้ทำบัญชีในสถานที่รวบรวมฝิ่นย่อยของบริษัทซึ่งรับเหมาส่งฝิ่นดิบแก่กรมสรรพสามิต ได้ควบคุมฝิ่นดิบของบริษัทโดยมีใบคุ้มครองกำกับมา แต่มีฝิ่นสุกซึ่งไม่ได้รับอนุญาตมาด้วย 11300 กรัม เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ทำบัญชีได้เป็นผู้ไปซื้อฝิ่นนี้มาจากบนดอย และนำมาบรรจุหีบที่สถานที่รวมฝิ่นย่อยและได้เป็นผู้ควบคุมมาจนถูกจับ ดังนี้ย่อมเรียกได้ว่า จำเลยเป็นผู้'มี'ตามความหมายแห่ง พระราชบัญญัติฝิ่นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองฝิ่น: ผู้ซื้อและควบคุมฝิ่นสุก แม้เป็นผู้รับเหมาส่งฝิ่นดิบ ก็ถือเป็นผู้ “มี” ฝิ่นตาม พ.ร.บ.ฝิ่น
จำเลยเป็นผู้ทำบัญชีในสถานที่รวบรวมฝิ่นย่อยของบริษัทซึ่งรับเหมาส่งฝิ่นดิบแก่กรมสรรพสามิตต์ ได้ควบคุมฝิ่นดิบของบริษัทโดยมีใบคุ้มครองกำกับมา แต่มีฝิ่นสุกซึ่งไม่ได้รับอนุญาตมาด้วย 11300 กรัม เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่าผู้ทำบัญชีได้เป็นผู้ไปซื้อฝิ่นนี้มาจากบนดอย และนำมาบรรจุหีบที่สถานที่รวมฝิ่นย่อยและได้เป็นผู้ควบคุมมาจนถูกจับ ดังนี้ย่อมเรียกได้ว่า จำเลยเป็นผู้ "มี" ตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ฝิ่นแล้ว