คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1360

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 125 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินจากการประนีประนอมยอมความ: โจทก์ยังไม่มีกรรมสิทธิ์จนกว่าจะมีการรังวัดและครอบครอง
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์ 4 ไร่ เมื่อแบ่งแยกจำเลยจะลงชื่อโจทก์ในโฉนดโดยจะวัดจากทิศเหนือลงมาทางทิศใต้ ให้ได้จำนวนเนื้อที่ 4ไร่ศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว หากจำเลยไม่ยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์ก็มีแต่เพียงสิทธิที่จะขอให้บังคับจำเลยให้แบ่งให้โจทก์เท่านั้นแม้จะรู้ว่าส่วนที่จะแบ่งให้โจทก์นั้นอยู่ทางทิศไหนเมื่อยังไม่ได้มีการรังวัดแบ่งแยกให้เป็นส่วนสัด ที่ดินส่วนนั้นก็ยังไม่ตกเป็นของโจทก์ ทั้งโจทก์ยังไม่ได้เข้าครอบครองที่ดินโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่ดินยังไม่แบ่งแยก โจทก์ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ จึงไม่มีอำนาจฟ้องรุกป่าน
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์ 4 ไร่ เมื่อแบ่งแยกจำเลยจะลงชื่อโจทก์ในโฉนด โดยจะวัดจากทิศเหนือลงมาทางทิศใต้ ให้ได้จำนวนเนื้อที่ 4ไร่ ศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว หากจำเลยไม่ยอมแบ่งที่ดินให้ โจทก์ก็มีแต่เพียงสิทธิที่จะขอให้บังคับจำเลยให้แบ่งให้โจทก์เท่านั้น แม้จะรู้ว่าส่วนที่จะแบ่งให้โจทก์นั้นอยู่ทางทิศไหน เมื่อยังไม่ได้มีการรังวัดแบ่งแยกให้เป็นส่วนสัด ที่ดินส่วนนั้นก็ยังไม่ตกเป็นของโจทก์ ทั้งโจทก์ยังไม่ได้เข้าครอบครองที่ดิน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2196/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วม ทางจำเป็น และการใช้ทาง: ข้อจำกัดสิทธิการใช้ทางเมื่อไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
เจ้าของรวมใช้ทางเดินผ่านที่ดินกรรมสิทธิ์รวมเป็นการใช้ตามอำนาจกรรมสิทธิ์ จะใช้ทางนั้นมาช้านานเท่าใดก็ไม่ได้ภารจำยอม
ผู้ที่จะได้สิทธิใช้ทางจำเป็นผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ออกไปสู่ทางสาธารณะนั้นต้องเป็นเจ้าของที่ดินซึ่งถูกล้อม หากเป็นเพียงเจ้าของโรงเรือน แม้จะถูกที่ดินอื่นล้อมอยู่ก็หามีสิทธิเรียกร้องทางจำเป็นไม่
ฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีเป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้คู่ความใช้แทนกันหรือให้เป็นพับได้ตามที่เห็นสมควรแก่รูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2196/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วม, ทางจำเป็น, ทางภารจำยอม: การใช้ทางเดินและการขอทางผ่านที่ดิน
เจ้าของรวมใช้ทางเดินผ่านที่ดินกรรมสิทธิ์รวมเป็นการใช้ตามอำนาจกรรมสิทธิ์ จะใช้ทางนั้นมาช้านานเท่าใดก็ไม่ได้ภารจำยอม
ผู้ที่จะได้สิทธิใช้ทางจำเป็นผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ออกไปสู่ทางสาธารณะนั้นต้องเป็นเจ้าของที่ดินซึ่งถูกล้อม หากเป็นเพียงเจ้าของโรงเรือน แม้จะถูกที่ดินอื่นล้อมอยู่ก็หามีสิทธิเรียกร้องทางจำเป็นไม่
ฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีเป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้คู่ความใช้แทนกันหรือให้เป็นพับได้ตามที่เห็นสมควรแก่รูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งที่ดินมรดก เจ้าของร่วม และการหักชดใช้ค่าสิ่งปลูกสร้างที่สุจริต
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินจากจำเลยในฐานะเจ้าของร่วมแต่ได้ความว่า ในที่พิพาทมีเรือนของโจทก์ปลูกไว้โดยสุจริตหนึ่งหลัง ดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์การที่สั่งไว้ในคำพิพากษาด้วยว่า ถ้าตกลงแบ่งกันไม่ได้ ให้ประมูลราคากันระหว่างคู่ความ มิฉะนั้นก็ให้ขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกัน และการประมูลราคากันหรือขายทอดตลาดนี้ ให้รวมทั้งเรือนนั้นด้วย เงินที่ได้ให้จัดสรรชำระค่าเรือนแก่โจทก์ก่อนนำไปแบ่งกัน นั้น ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะที่ดินตามฟ้องย่อมหมายถึงส่วนควบ-ด้วย และการที่โจทก์ได้ปลูกเรือนนี้ในที่พิพาท ก็เป็นการใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์สินร่วม (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) โดยการประมูลหรือขายทอดตลาด และการหักชำระค่าสิ่งปลูกสร้าง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินจากจำเลยในฐานะเจ้าของร่วมแต่ได้ความว่าในที่พิพาทมีเรือนของโจทก์ปลูกไว้โดยสุจริตหนึ่งหลัง ดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์การที่สั่งไว้ในคำพิพากษาด้วยว่าถ้าตกลงแบ่งกันไม่ได้ ให้ประมูลราคากันระหว่างคู่ความ มิฉะนั้นก็ให้ขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกัน และการประมูลราคากันหรือขายทอดตลาดนี้ให้รวมทั้งเรือนนั้นด้วย เงินที่ได้ให้จัดสรรชำระค่าเรือนแก่โจทก์ก่อนนำไปแบ่งกัน นั้น ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะที่ดินตามฟ้องย่อมหมายถึงส่วนควบด้วย และการที่โจทก์ได้ปลูกเรือนนี้ในที่พิพาท ก็เป็นการใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของรวม - การใช้ที่ดินร่วมกัน - ไม่เป็นละเมิด - ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย
ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของโจทก์และจำเลยรวมกันคนละครึ่ง โจทก์ย่อมมีสิทธิจะใช้ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นที่อยู่ในฐานะเจ้าของรวมคนหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 วรรคแรก จำเลยไม่มีสืทธิขับไล่โจทก์ ฉะนั้น แม้โจทก์จะไม่ออกไปจากที่ดินและเรือนพิพาท เมื่อจำเลยบอกกล่าวให้ออกไป จึงไม่เป็นละเมิดต่อจำเลย
จำเลยฟ้องแย้งว่า ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยขอให้โจทก์ออกไปเพื่อจะให้ผู้อื่นเช่า แต่โจทก์ไม่ยอมออก ทำให้จำเลยเสียหายขาดค่าเช่าที่ควรจะได้ ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่า จำเลยมีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์แบ่งดอกผลของที่ดินและเรือนพิพาทที่โจทก์ได้มาให้แก่จำเลยตามส่วนที่จำเลยมีอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของรวม - การใช้ประโยชน์ที่ดิน - ไม่เป็นละเมิด - ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย
ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของโจทก์และจำเลยรวมกันคนละครึ่งโจทก์ย่อมมีสิทธิจะใช้ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นที่อยู่ในฐานะเจ้าของรวมคนหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 วรรคแรกจำเลยไม่มีสิทธิขับไล่โจทก์ ฉะนั้น แม้โจทก์จะไม่ออกไปจากที่ดินและเรือนพิพาท เมื่อจำเลยบอกกล่าวให้ออกไป จึงไม่เป็นละเมิดต่อจำเลย
จำเลยฟ้องแย้งว่า ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยขอให้โจทก์ออกไปเพื่อจะให้ผู้อื่นเช่า แต่โจทก์ไม่ยอมออก ทำให้จำเลยเสียหายขาดค่าเช่าที่ควรจะได้ ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์แบ่งดอกผลของที่ดินและเรือนพิพาทที่โจทก์ได้มาให้แก่จำเลยตามส่วนที่จำเลยมีอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีที่ดินร่วม: ศาลต้องพิสูจน์การแบ่งแยกการครอบครองก่อนขายทอดตลาดเฉพาะส่วน
ศาลชั้นต้นสั่งให้ขายที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลย โดยยังไม่รู้ว่าที่ดินส่วนของจำเลยเป็นดังผู้ร้องอ้างหรือเป็นดังโจทก์และจำเลยอ้าง จึงยังไม่ถูกต้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขายที่ดินทั้งแปลงโดยไม่วินิจฉัยว่าที่ดินแปลงนี้เจ้าของรวมได้แบ่งทรัพย์สินกันแล้วหรือยัง จึงไม่ถูกต้องเพราะถ้าได้แบ่งที่ดินส่วนใดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องเด็ดขาดไปแล้ว จะขายที่ดินรวมถึงส่วนของผู้ร้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการขายที่ดินรวม: ศาลต้องตรวจสอบการแบ่งแยกทรัพย์สินก่อนขายทอดตลาด
ศาลชั้นต้นสั่งให้ขายที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลย โดยยังไม่รู้ว่าที่ดินส่วนของจำเลยเป็นดังผู้ร้องอ้างหรือเป็นดังโจทก์และจำเลยอ้างจึงยังไม่ถูกต้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขายที่ดินทั้งแปลงโดยไม่วินิจฉัยว่าที่ดินแปลงนี้เจ้าของรวมได้แบ่งทรัพย์สินกันแล้วหรือยัง จึงไม่ถูกต้องเพราะถ้าได้แบ่งที่ดินส่วนใดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องเด็ดขาดไปแล้วจะขายที่ดินรวมถึงส่วนของผู้ร้องไม่ได้
of 13