พบผลลัพธ์ทั้งหมด 125 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5144/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดิน: สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม & หลักฐานสัญญาที่ชัดเจน
แม้จำเลยจะมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ในที่ดินที่เช่าและส่วนของจำเลยกับส่วนของโจทก์ยังไม่ได้แบ่งการครอบครองเป็นส่วนสัดก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ ซึ่งจำเลยรับว่าได้ทำสัญญาเช่าตามที่โจทก์ฟ้องจริงแต่มิได้ผิดสัญญาจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิตามสัญญา สัญญาที่โจทก์ฟ้องเป็นเรื่องที่จำเลยตกลงทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเป็นส่วนตัวแต่ผู้เดียวโดยลำพัง ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจต่างหากนอกจากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดสัญญา จึงฟังได้ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องห้ามจำเลยมิให้เข้าเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาทส่วนที่เป็นของโจทก์ได้
จำเลยได้ทำวังกุ้งอยู่ก่อนแล้ว ได้จ้างผู้อื่นขุดดินทำคันกั้นน้ำ แต่ที่ดินแปลงที่จำเลยทำไม่พอทำวังกุ้งจึงได้มาตกลงเช่าที่ดินในส่วนของโจทก์เพิ่มขึ้น เห็นได้ว่าแม้จำเลยได้ลงทุนในการทำวังกุ้งมากก็ตาม แต่จำเลยได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของตนนั่นเอง สัญญาเช่ามีกำหนด 5 ปี ไม่มีข้อตกลงใด ๆ บันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าจำเลยตกลงเช่าที่ดินโจทก์โดยมีเงื่อนไขและเงื่อนเวลา 10 ปี สัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ไม่ใช่สัญญาเช่าที่เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดามีกำหนด 10 ปี
จำเลยได้ทำวังกุ้งอยู่ก่อนแล้ว ได้จ้างผู้อื่นขุดดินทำคันกั้นน้ำ แต่ที่ดินแปลงที่จำเลยทำไม่พอทำวังกุ้งจึงได้มาตกลงเช่าที่ดินในส่วนของโจทก์เพิ่มขึ้น เห็นได้ว่าแม้จำเลยได้ลงทุนในการทำวังกุ้งมากก็ตาม แต่จำเลยได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของตนนั่นเอง สัญญาเช่ามีกำหนด 5 ปี ไม่มีข้อตกลงใด ๆ บันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าจำเลยตกลงเช่าที่ดินโจทก์โดยมีเงื่อนไขและเงื่อนเวลา 10 ปี สัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ไม่ใช่สัญญาเช่าที่เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดามีกำหนด 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมสิทธิเช่า: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนการโอนสิทธิเช่าระหว่างเจ้าของร่วมด้วยกัน
โจทก์และบุตรโจทก์เป็นเจ้าของร่วมกันในสิทธิการเช่าตึกพิพาทโดยโจทก์ให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือสิทธิดังกล่าวแทน ต่อมาได้มีการโอนเป็นชื่อของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนของ อ. เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ดังกล่าว เพราะทั้งโจทก์และ อ. ต่างเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์สินพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมสิทธิเช่า ไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนการโอนสิทธิระหว่างเจ้าของร่วมด้วยกัน
โจทก์และบุตรโจทก์เป็นเจ้าของร่วมกันในสิทธิการเช่าตึกพิพาทโดยโจทก์ให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือสิทธิดังกล่าวแทน ต่อมาได้มีการโอนเป็นชื่อของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนของ อ. เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ดังกล่าว เพราะทั้งโจทก์และ อ. ต่างเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์สินพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่จำกัดเมื่อจำเลยอาศัยอยู่ในทรัพย์สินโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม
โจทก์ บุตรโจทก์และ น. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านและที่ดินพิพาทจำเลยอาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทกับ น. โดย จำเลยอาศัยสิทธิของ น. ดังนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านและที่ดินพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องขับไล่จำกัดเมื่อจำเลยอาศัยอยู่ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม
จำเลยอาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาท โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมคนหนึ่ง โจทก์ในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมอีกคนหนึ่งจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย การที่โจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินพิพาทอยู่แล้ว โจทก์จะมีสิทธิจดทะเบียนนิติกรรมได้ก่อนหรือไม่ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์เพราะโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งอยู่โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านและที่ดินพิพาทนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3278/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการบังคับคดีและการส่งมอบโฉนดที่ดิน แม้มีคดีอื่นเกี่ยวข้อง ศาลมีอำนาจสั่งให้ส่งมอบโฉนดเพื่อบังคับคดีได้
โจทก์มีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้เก็บโฉนดที่ดินพิพาทไว้ส่งมอบโฉนดที่ดินนั้นต่อศาลเพื่อดำเนินการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาได้ คำสั่งของศาลเช่นว่านี้ย่อมไม่ทำให้ผู้เก็บโฉนดที่ดินพิพาทสูญเสียสิทธิในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาท และโฉนดที่ดินพิพาทที่ส่งมอบต่อศาลก็เพื่อไปดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาเท่านั้น มิใช่เอาไปเสียจากการยึดถือครอบครองของผู้เก็บโฉนดที่ดิน การที่ผู้เก็บโฉนดที่ดินพิพาทฟ้องจำเลยให้โอนที่ดินพิพาทแก่ตนก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ และฟ้องโจทก์จำเลยคดีนี้ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งนั้น มิใช่เหตุที่ศาลจะงดการบังคับคดีนี้ไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2724/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวมและการครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดิน การแบ่งแยกที่ดินให้เป็นธรรมและคำนึงถึงการอยู่อาศัย
โจทก์ทั้งสามและจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินแปลงพิพาทซึ่งยังไม่ได้ตกลงแบ่งกันเป็นส่วนสัดว่าที่ดินส่วนไหนเป็นของใคร การที่จำเลยเข้าไปปลูกบ้านในที่ดินแปลงพิพาทแต่ผู้เดียวแม้จะได้กั้นรั้วในที่ดินพิพาทแยกครอบครองเป็นส่วนสัด ก็ต้องถือว่าจำเลยครอบครองที่ดินนั้นแทนเจ้าของรวมคนอื่น หาใช่ครอบครองโดยปรปักษ์ไม่ การแบ่งทรัพย์สินกรรมสิทธิ์รวมเป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 จะแบ่งส่วนใดให้เป็นของเจ้าของรวมคนใดโดยไม่ให้ขายทอดตลาดก็ได้ จำเลยปลูกบ้านอยู่อาศัยทางด้านทิศใต้ของที่ดินแปลงพิพาทซึ่งอยู่ติดทางสาธารณประโยชน์มาประมาณ 20 ปีแล้ว หากจะให้เอาที่ดินแปลงพิพาทประมูลหรือขายทอดตลาดแล้วเอาเงินแบ่งโจทก์จำเลยตามส่วนจำเลยก็อาจต้องรื้อบ้านออกไปเป็นการเดือดร้อน ศาลย่อมให้จำเลยได้ส่วนแบ่งในที่ดินพิพาททางด้านทิศใต้โดยให้ที่ดินที่โจทก์ทั้งสามจะได้รับส่วนแบ่งมีทางออกสู่ทางสาธารณประโยชน์ได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1844-1845/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินด้วยหนังสือมอบอำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสิทธิการรับมรดก
เจ้ามรดกยกที่นาพิพาทให้โจทก์โดยทำหนังสือมอบอำนาจให้ไปจดทะเบียนโอนที่อำเภอ หนังสือมอบอำนาจมีลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดก แต่เจ้ามรดกผู้มอบอำนาจมิได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเจ้ามรดกมิได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำนิติกรรม การมอบอำนาจและการทำนิติกรรมโอนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์จึงไม่ชอบ นาพิพาทเป็นทรัพย์ที่ยังไม่ได้แบ่ง โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นทายาทด้วยคนหนึ่งไม่ได้ และจำเลยฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนดังกล่าวเสียได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน: การครอบครองไม่ใช่การครอบครองของผู้อื่น
การที่ผู้ร้องได้ร่วมออกเงินกับ ส. คนละครึ่งซื้อที่ดินแปลงหนึ่งนั้น กรณีเป็นเรื่องที่ผู้ร้องครอบครองที่ดินของตนเองมิใช่ครอบครองที่ดินของบุคคลอื่น จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4100/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวม การใช้สิทธิไม่ขัดต่อสิทธิผู้อื่น การรื้อถอนสิ่งกีดขวางทาง
โจทก์จำเลยและพวกรวม 11 คน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งซึ่งใช้เป็นที่ปลูกบ้านอยู่อาศัย ทางทิศตะวันออกของที่ดินมีทางเดินและสะพานลงสู่แม่น้ำได้โจทก์และชาวบ้านละแวกนั้นใช้เป็นท่าน้ำท่าเรือข้ามฟากร่วมกันมานานหลายสิบปี เช่นนี้ การที่จำเลยทำรั้วปิดกั้นทางเดินพิพาท จึงทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมได้รับความเดือดร้อน แม้จำเลยจะมีสิทธิใช้ทรัพย์สินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวมได้ แต่การใช้นั้นจะต้องไม่ขัดสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวผู้หนึ่งด้วย การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วที่จำเลยกั้นไว้แต่โจทก์จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์มีสิทธิรื้อถอนรั้วที่จำเลยทำไว้ออกเสียโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ไม่ได้ โจทก์ชอบที่จะขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิ.
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วที่จำเลยกั้นไว้แต่โจทก์จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์มีสิทธิรื้อถอนรั้วที่จำเลยทำไว้ออกเสียโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ไม่ได้ โจทก์ชอบที่จะขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิ.