พบผลลัพธ์ทั้งหมด 176 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของสัญญาประนีประนอมต่อสิทธิในทรัพย์สินของบุตร: สัญญาไม่ผูกพันส่วนของบุตร ทำให้จำเลยมีสิทธิชำระราคาเฉพาะส่วนของโจทก์
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกันในศาลว่าจำเลยยอมซื้อที่ดินพิพาททั้งแปลงเป็นเงิน 23,000 บาท ต่อมาฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่าที่พิพาทมีชื่อบุตรโจทก์เป็นเจ้าของอยู่ด้วย ขอให้ศาลสั่งว่าสัญญาประนีประนอมดังกล่าวไม่ผูกพันทรัพย์ส่วนของบุตร ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์จำเลย ไม่ผูกพันส่วนของเด็ก ฝ่ายจำเลยจึงขอชำระราคาที่ดินเพียง 11,500 บาทครึ่งราคาทั้งหมด ดังนี้ ฝ่ายโจทก์จะให้จำเลยชำระราคาที่ดินเต็ม 23,000 บาท ย่อมไม่ได้เพราะตนยอมขายที่ดินให้จำเลยเพียงครึ่งเดียว ซึ่งฝ่ายจำเลยจะไม่ซื้อเสียทั้งหมดก็ย่อมทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมซื้อขายที่ดิน: สิทธิของเด็กและเจตนาซื้อขายทั้งแปลง
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกันในศาลว่า จำเลยยอมซื้อที่ดินพิพาททั้งแปลงเป็นเงิน 23,000 บาท ต่อมาฝ่ายโจทก์ยืนคำร้องต่อศาลว่า ที่พิพาทมีชื่อบุตรโจทก์เป็นเจ้าของอยู่ด้วย ขอให้ศาลสั่งว่าสัญญาประนีประนอมดังกล่าวไม่ผูกพันทรัพย์ส่วนของบุตร ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์จำเลย ไม่ผูกพันส่วนของเด็ก ฝ่ายจำเลยจึงขอชำระราคาที่ดินเพียง 11,500 บาทครึ่งราคาทั้งหมดดังนี้ ฝ่ายโจทก์จะให้จำเลยชำระราคาที่ดินเต็ม 23,000 บาท ย่อมไม่ได้ เพราะตนยอมขายที่ดินให้จำเลยเพียงครึ่งเดียว ซึ่งฝ่ายจำเลยจะไม่ซื้อเสียทั้งหมดก็ย่อมทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการแบ่งผลประโยชน์จากเจ้าของร่วมและการพิสูจน์ข้อตกลงสัญญา การฟ้องร้องต้องระบุประเด็นชัดเจน
โจทก์ฟ้องเป็นใจความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน มีข้อตกลงเป็นสัญญาต่อกันว่าจำเลยจะแบ่งผลประโยชน์คือค่าเช่าให้โจทก์จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีข้อตกลงหรือสัญญา อย่างใดเลย ดังนี้ข้อที่ว่าโจทก์จำเลยมีข้อตกลงหรือสัญญาต่อกันหรือไม่ จึงเป็นประเด็นฉะนั้นการที่โจทก์ฎีกาขอแบ่งผลประโยชน์เนื่องจากการเป็นเจ้าของร่วมจึงเป็นนอกฟ้องนอก ประเด็นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วนดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่งอขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วนดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่งอขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการฟ้องแบ่งทรัพย์สินจากการเป็นเจ้าของร่วม และข้อพิพาทเรื่องสัญญาผลประโยชน์
โจทก์ฟ้องเป็นใจความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน มีข้อตกลงเป็นสัญญาต่อกันว่า จำเลยจะแบ่งผลประโยชน์คือค่าเช่าให้โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีข้อตกลงหรือสัญญาอย่างใดเลย ดังนี้ ข้อที่ว่า โจทก์จำเลยมีข้อตกลงหรือสัญญาต่อกันหรือไม่ จึงเป็นประเด็นฉะนั้นการที่โจทก์ฎีกาขอแบ่งผลประโยชน์เนื่องจากการเป็นเจ้าของร่วมจึงเป็นนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิ์ร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วน ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่องขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิ์ร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วน ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่องขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความที่ไม่ผูกพันทายาทอื่น: สิทธิในการแบ่งมรดกยังคงมีอยู่
ทายาทหลายคนได้ปกครองเป็นเจ้าของทรัพย์มฤดกร่วมกันมาโดยยังไม่ได้แบ่งปันกัน ต่อมาทายาทคนหนึ่งฟ้องขอแบ่งทรัพย์มฤดกนั้น จากทายาทอีกคนหนึ่งเพียงคนเดียวมิได้ฟ้องทายาทอันเป็นเจ้าของร่วมคนอื่นเข้ามาในคดีด้วย ทายาทคนที่ถูกฟ้องยอมความเอาทรัพย์มฤดกที่ทายาทอื่นซึ่งเป็นคนนอกคดีเป็นเจ้าของร่วมด้วยไปแบ่งปันเอาเสียคนเดียว และยอมรับเงินจำนวนหนึ่งตกลงโอนทรัพย์นั้นให้เป็นของทายาทผู้ฟ้องคดีทั้งหมดโดยทายาทคนนอกคดีไม่ได้รู้ เห็นยินยอมด้วยนั้น ย่อมไม่ผูกพันทายาทคนนอกคดีตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1361 วรรค 2
การกระทำของทายาทผู้เป็นโจทก์และทายาทผู้เป็นจำเลย เป็นเหตุให้ทายาทคนนอกคดีเสียสิทธิและเกิดเสียหายแก่ทรัพย์ของทายาทคนนอกคดี คำพิพากษาในคดีก่อนนั้นจึงใช้ยันทายาทคนนอกคดีไม่ได้ ทายาทคนนอกคดีมีสิทธิฟ้องทายาทผู้เป็นโจทก์และจำเลยขอให้ศาลแบ่งทรัพย์นั้นใหม่ได้ไม่จำต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษา
คำว่าสิ่งปลูกสร้างย่อมหมายถึงเรือนด้วย เมื่อโจทก์ฟ้องว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นมฤดก จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธหรือต่อสู้ประการใดจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเรือนโจทก์ไม่ต้องนำสืบ ศาลก็รับฟังได้ว่าเรือนเป็นทรัพย์มฤดกด้วยตายนัยแห่งฎีกาที่ 218/2488
การที่โจทก์ตีราคาทรัพย์มาในคำฟ้องนั้น เป็นการประมาณราคาเพื่อเรียกค่าธรรมเนียมเมื่อไม่มีเหตุที่ศาลควรสงสัยหรือฝ่ายใดโต้แย้ง ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียกค่าขึ้นศาลเพิ่ม
การกระทำของทายาทผู้เป็นโจทก์และทายาทผู้เป็นจำเลย เป็นเหตุให้ทายาทคนนอกคดีเสียสิทธิและเกิดเสียหายแก่ทรัพย์ของทายาทคนนอกคดี คำพิพากษาในคดีก่อนนั้นจึงใช้ยันทายาทคนนอกคดีไม่ได้ ทายาทคนนอกคดีมีสิทธิฟ้องทายาทผู้เป็นโจทก์และจำเลยขอให้ศาลแบ่งทรัพย์นั้นใหม่ได้ไม่จำต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษา
คำว่าสิ่งปลูกสร้างย่อมหมายถึงเรือนด้วย เมื่อโจทก์ฟ้องว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นมฤดก จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธหรือต่อสู้ประการใดจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเรือนโจทก์ไม่ต้องนำสืบ ศาลก็รับฟังได้ว่าเรือนเป็นทรัพย์มฤดกด้วยตายนัยแห่งฎีกาที่ 218/2488
การที่โจทก์ตีราคาทรัพย์มาในคำฟ้องนั้น เป็นการประมาณราคาเพื่อเรียกค่าธรรมเนียมเมื่อไม่มีเหตุที่ศาลควรสงสัยหรือฝ่ายใดโต้แย้ง ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียกค่าขึ้นศาลเพิ่ม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงแบ่งมรดกที่ไม่ผูกพันทายาทอื่น เจ้าของร่วมมีสิทธิฟ้องแบ่งมรดกใหม่ได้
ทายาทหลายคนได้ปกครองเป็นเจ้าของทรัพย์มรดกร่วมกันมาโดยยังไม่ได้แบ่งปันกัน ต่อมาทายาทคนหนึ่งฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกนั้น จากทายาทอีกคนหนึ่งเพียงคนเดียว มิได้ฟ้องทายาทอันเป็นเจ้าของร่วมคนอื่นเข้ามาในคดีด้วยทายาทคนที่ถูกฟ้องยอมความเอาทรัพย์มรดกที่ทายาทอื่นซึ่งเป็นคนนอกคดีเป็นเจ้าของร่วมด้วยไปแบ่งปันเอาเสียคนเดียวและยอมรับเงินจำนวนหนึ่ง ตกลงโอนทรัพย์นั้นให้เป็นของทายาทผู้ฟ้องคดีทั้งหมดโดยทายาทคนนอกคดีไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วยนั้น ย่อมไม่ผูกพันทายาทคนนอกคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1361 วรรคสอง
การกระทำของทายาทผู้เป็นโจทก์และทายาทผู้เป็นจำเลยเป็นเหตุให้ทายาทคนนอกคดีเสียสิทธิและเกิดเสียหายแก่ทรัพย์ของทายาทคนนอกคดี คำพิพากษาในคดีก่อนนั้นจึงใช้ยันทายาทคนนอกคดีไม่ได้ ทายาทคนนอกคดีมีสิทธิฟ้องทายาทผู้เป็นโจทก์และจำเลยขอให้ศาลแบ่งทรัพย์นั้นใหม่ได้ไม่จำต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษา
คำว่าสิ่งปลูกสร้างย่อมหมายถึงเรือนด้วย เมื่อโจทก์ฟ้องว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นมรดก จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธหรือต่อสู้ประการใดจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเรือนโจทก์ไม่ต้องนำสืบ ศาลก็รับฟังได้ว่า เรือนเป็นทรัพย์มรดกด้วยตามนัยแห่งฎีกาที่ 218/2488
การที่โจทก์ตีราคาทรัพย์มาในคำฟ้องนั้น เป็นการประมาณราคาเพื่อเรียกค่าธรรมเนียม เมื่อไม่มีเหตุที่ศาลควร สงสัยหรือฝ่ายใดโต้แย้ง ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียกค่าขึ้นศาลเพิ่ม
การกระทำของทายาทผู้เป็นโจทก์และทายาทผู้เป็นจำเลยเป็นเหตุให้ทายาทคนนอกคดีเสียสิทธิและเกิดเสียหายแก่ทรัพย์ของทายาทคนนอกคดี คำพิพากษาในคดีก่อนนั้นจึงใช้ยันทายาทคนนอกคดีไม่ได้ ทายาทคนนอกคดีมีสิทธิฟ้องทายาทผู้เป็นโจทก์และจำเลยขอให้ศาลแบ่งทรัพย์นั้นใหม่ได้ไม่จำต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษา
คำว่าสิ่งปลูกสร้างย่อมหมายถึงเรือนด้วย เมื่อโจทก์ฟ้องว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นมรดก จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธหรือต่อสู้ประการใดจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเรือนโจทก์ไม่ต้องนำสืบ ศาลก็รับฟังได้ว่า เรือนเป็นทรัพย์มรดกด้วยตามนัยแห่งฎีกาที่ 218/2488
การที่โจทก์ตีราคาทรัพย์มาในคำฟ้องนั้น เป็นการประมาณราคาเพื่อเรียกค่าธรรมเนียม เมื่อไม่มีเหตุที่ศาลควร สงสัยหรือฝ่ายใดโต้แย้ง ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียกค่าขึ้นศาลเพิ่ม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมจำนองเฉพาะส่วนได้ โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วมคนอื่น
ผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิในโฉนดที่ดินร่วมกับผู้อื่น มีสิทธิจำนองฉะเพาะส่วนของตนได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วมคนอื่น ๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนองเฉพาะส่วนของเจ้าของร่วมในที่ดิน ไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วมคนอื่น
ผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินร่วมกับผู้อื่น มีสิทธิจำนองเฉพาะส่วนของตนได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วมคนอื่นๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนขายทรัพย์สินและครอบครองปรปักษ์ โจทก์ได้กรรมสิทธิ์เหนือที่ดิน
จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมือเปล่าร่วมกับ อ. จำเลยได้เชิดอ. เป็นตัวแทนให้ฟ้องคดีและขายนารายนี้ให้แก่โจทก์ และจำเลยปล่อยให้โจทก์ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินร่วม: จำเลยโอนขายลำพังไม่ได้หากเจ้าของร่วมไม่ยินยอม
จำเลยได้ทำสัญญาแบ่งขายที่ดินซึ่งจำเลยมีกรรมสิทธร่วมอยู่กับผู้อื่นอีกคนหนึ่ง ให้แก่โจทก์เป็นจำนวนเนื้อที่ 15 ไร่ โดยเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งนั้น มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ดังนี้ โจทก์จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์ตามสัญญาไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 294/2472)
(อ้างฎีกาที่ 294/2472)