คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 313

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนกลางเรียกค่าไถ่: การกระทำความผิดและข้อยกเว้นลดโทษ
คนร้ายปล้นรถโดยสารของ ล.ไป และจับ ล.ไปกักขังไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ จำเลยที่ 3 ได้นำจดหมายคนร้ายมาให้ภรรยาของ ล.เรียกค่าไถ่ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่ได้ร่วมกระทำการกับคนร้ายในการจับตัว ล.ไป หรือร่วมในการกักขัง ล. ทั้งไม่ได้สนับสนุนการกระทำดังกล่าว ปรากฏเพียงว่าจำเลยที่ 3 ได้นำจดหมายคนร้ายมาแสดงต่อภรรยา ล.ดังกล่าวแล้วและเจรจาต่อรองค่าไถ่ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นบุตรของจำเลยที่ 3 ได้พูดกับภรรยา ล. หลังจากที่ ล.ถูกจับตัวไปว่าไม่ต้องร้อนใจ หาเงินมาไถ่ก็แล้วกัน และเมื่อภรรยา ล.จ่ายเงินให้จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 ก็เป็นผู้ขี่จักรยานยนต์ไปกับจำเลยที่ 3 ไปรับล.มา เช่นนี้ จำเลยที่ 2และที่ 3 จึงมีความผิดฐานกระทำการเป็นคนกลางเรียกทรัพย์สินที่มิควรได้ จากผู้ที่จะให้ค่าไถ่อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 315 แม้โจทก์จะมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรานี้ แต่การเรียกค่าไถ่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำตามที่โจทก์กล่าวหาจำเลยมาในฟ้องแล้วนั่นเอง ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดหรือบทมาตราที่ถูกต้องที่ได้ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ได้
จำเลยที่ 2 ที่ 3 กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 315 แต่ได้จัดให้ผู้ถูกคนร้ายเอาตัวไปได้รับเสรีภาพ ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาโดยมิได้รับอันตรายสาหัสหรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต จึงชอบที่จะได้รับการลดโทษให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 316

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3204/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดฐานร่วมกันพยายามข่มขืนและฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือเอง แต่การกระทำเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 กับพวกอีก 5 คนร่วมกันจับเอาตัวผู้ตายไป เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ ระหว่างผู้ตายถูกพวกของจำเลยควบคุมตัวไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่นั้น พวกของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้ฆ่าผู้ตายเพราะเหตุที่ผู้ตายไม่ยอมเขียนจดหมาย เพื่อให้บุตรผู้ตายนำเงินมาไถ่ตัว แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้รู้เห็นในการฆ่าด้วย ก็ต้องถือว่าเนื่องด้วยการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 นั้นเองเป็นเหตุให้ ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3204/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาของผู้ร่วมกระทำผิดฐานพรากตัวเรียกค่าไถ่ แม้ไม่ได้ร่วมในการฆ่า แต่การกระทำเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 กับพวกอีก 5 คนร่วมกันจับเอาตัวผู้ตายไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ ระหว่างผู้ตายถูกพวกของจำเลยควบคุมตัวไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่นั้น พวกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้ฆ่าผู้ตายเพระาเหตุที่ผู้ตายไม่ยอมเขียนจดหมายเพื่อให้บุตรผู้ตายนำเงินมาไถ่ตัว แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้รู้เห็นในการฆ่าด้วย ก็ต้องถือว่าเนื่องด้วยการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 นั้นเองเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2209/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน่วงเหนี่ยวเพื่อเรียกค่าไถ่ - การกระทำโดยทรมาน - การปล่อยตัวก่อนพิพากษา - มาตรา 316
การที่จำเลยเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่ แล้วเอาโซ่ล่ามขาใส่กุญแจไว้อยู่ในขนำ 10 วัน และอยู่ในป่าอีก 4 วัน 4 คืน ดังนี้ เป็นการกระทำโดยทรมานแล้ว แต่ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคแรก ไม่ผิดตามวรรค 2
เมื่อจำเลยถูกจับกุมและรับสารภาพ ก็ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาตัวผู้เสียหายคืนมาโดยสมัครใจ มิใช่ว่าไปติดตามได้เอง และไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสหรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้ผู้เสียหายผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว หรือผู้ถูกกักขัง ได้รับเสรีภาพก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา กรณีต้องด้วยมาตรา 316 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2209/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่และการกระทำโดยทรมาร ศาลพิจารณาความร้ายแรงและเหตุผลในการปล่อยตัวผู้ถูกกระทำ
การที่จำเลยเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่แล้วเอาโซ่ล่ามขาใส่กุญแจไว้อยู่ในขนำ 10 วัน และอยู่ในป่าอีก 4 วัน 4 คืน ดังนี้ เป็นการกระทำโดยทรมานแล้ว แต่ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 313 วรรคแรก ไม่ผิดตามวรรค 2
เมื่อจำเลยถูกจับกุมและรับสารภาพ ก็ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาตัวผู้เสียหายคืนมาโดยสมัครใจ มิใช่ว่าไปติดตามได้เองและไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสหรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้ผู้เสียหายผู้ถูกเอาตัวไปผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว หรือผู้ถูกกักขัง ได้รับเสรีภาพก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา กรณีต้องด้วยมาตรา 316 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการหน่วงเหนี่ยวกักขัง: การแจ้งข้อมูลตำรวจให้คนร้ายเข้าใจผิด ไม่ถือเป็นความช่วยเหลือ
จำเลยมิได้ทำหน้าที่สอดส่องความเคลื่อนไหวของเจ้าพนักงานตำรวจแล้วแจ้งให้คนร้ายทราบ แต่ในระหว่างที่พวกคนร้ายจับตัวผู้เสียหายไปกักขังไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ เจ้าพนักงานตำรวจได้ติดตามไปช่วยเหลือผู้เสียหายและจับกุมคนร้าย ขณะที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกำลังค้นหาตัวผู้เสียหายอยู่นั้น จำเลยได้ขี่รถจักรยานไปที่บ้านร้างแล้วตะโกนบอกตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งว่ามีตำรวจมา 2 คันรถ เพราะจำเลยเข้าใจว่าตำรวจคนนั้นเป็นคนร้ายนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนร้าย กระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่ อันจะเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากผู้เยาว์เพื่อเรียกค่าไถ่ ความผิดตามมาตรา 313, 316, และ 317 ไม่เป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยกับพวกร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุ 4 ปี ไปจากมารดาผู้ปกครอง และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เยาว์ไว้เพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่เป็นความผิดหลายบท คือตามมาตรา 313 ประกอบด้วยมาตรา 316 บทหนึ่ง และตามมาตรา 317 อีกบทหนึ่ง มิใช่เป็นความผิดหลายกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพรากผู้เยาว์ หน่วงเหนี่ยวเพื่อเรียกค่าไถ่ และความผิดหลายบท
จำเลยกับพวกร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุ 4 ปี ไปจากมารดาผู้ปกครอง และ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เยาว์ไว้เพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่เป็นความผิดหลายบท คือตามมาตรา 313 ประกอบด้วยมาตรา 316 บทหนึ่งและตามมาตรา 317 อีกบทหนึ่ง มิใช่เป็นความผิดหลายกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2025/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพาตัวเด็กเรียกค่าไถ่เป็นความผิดสำเร็จ แม้ยังไม่ได้เรียกหรือได้ค่าไถ่
ความผิดฐานพาเอาตัวเด็กไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่นั้น ไม่จำต้องมีการได้มาซึ่งค่าไถ่หรือได้มีการเรียกค่าไถ่ เพียงแต่จำเลยมีเจตนากระทำผิดและมีเจตนาเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ในการพาเอาตัวเด็กไปก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2025/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพาตัวเด็กเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นความผิดสำเร็จ แม้ยังไม่ได้เรียกหรือได้ค่าไถ่
ความผิดฐานพาเอาตัวเด็กไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่นั้น ไม่จำต้องมีการได้มาซึ่งค่าไถ่หรือได้มีการเรียกค่าไถ่ เพียงแต่จำเลยมีเจตนากระทำผิดและมีเจตนาเพื่อให้ได้มา ซึ่งค่าไถ่ในการพาเอาตัวเด็กไปก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว
of 5