คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 313

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1827/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานจับคนเรียกค่าไถ่ สำเร็จเมื่อลักพาตัวโดยเจตนาเรียกค่าไถ่ แม้ยังไม่ได้เรียก
จับคนไปเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นความผิดสำเร็จเมื่อนำตัวคนไปโดยเจตนาพิเศษเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่ แม้ยังไม่ได้ติดต่อเรียกค่าไถ่ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากตัวเด็กเรียกค่าไถ่: เจตนาเพื่อหากำไรเป็นสำคัญ
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงเอาตัวผู้เสียหายไป แล้วมาหามารดาของผู้เสียหายเรียกเอาเงินค่าไถ่ตัวผู้เสียหาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคแรก เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาเพื่อหากำไรด้วย จึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 319อีกบทหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากเด็กเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยไม่มีเจตนาหาผลกำไร ทำให้ความผิดตามมาตรา 319 ไม่สำเร็จ
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงเอาตัวผู้เสียหายไป แล้วมาหามารดาของผู้เสียหายเรียกเอาเงินค่าไถ่ตัวผู้เสียหาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคแรก เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาเพื่อหากำไรด้วย จึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 319 อีกบทหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2043/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล่อยตัวผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวก่อนศาลตัดสินและผลกระทบต่อการลงโทษตามมาตรา 316
จำเลยกับพวกจับ ก. ใส่กุญแจมือพาตัวไป มารดาของ ก. ตามไปทันจำเลย ขอตัว ก. คืน จำเลยเรียกเงินค่าไถ่ 2,000 บาท พวกผู้เสียหายมอบเงิน 2,000 บาทให้จำเลยเพื่อเป็นค่าไถ่ตามที่จำเลยเรียกร้อง แล้วจำเลยจึงได้จัดการปล่อยตัว ก. โดยไม่ปรากฏว่า ก. ได้รับอันตรายสาหัส หรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือผู้ถูกกักขังได้รับเสรีภาพก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา โดยผู้นั้นมิได้รับอันตรายสาหัส หรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งมาตรา 316 ให้ลงโทษน้อยกว่าที่กำหนดไว้ แต่ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778-1779/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานจับคนเรียกค่าไถ่: พฤติการณ์สำคัญกว่ากรรโชกธรรมดา
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คนร้าย 7 คนไปที่บ้านผู้เสียหาย 2 คน อยู่ข้างล่าง 5 คน ซึ่งมีจำเลยทั้งสองอยู่ด้วยขึ้นไปบนเรือน พวกจำเลยคนหนึ่งเรียกเอาเงิน 2,000 บาท ครั้นผู้เสียหายว่าไม่มี พวกจำเลยคนนั้นจึงใช้ปืนจี้พาผู้เสียหายลงเรือนไป โดยบอกภรรยาผู้เสียหายว่าถ้าต้องการสามีคืนให้หาเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ เมื่อคนร้ายไปแล้ว มีผู้ช่วยพาภรรยาผู้เสียหายติดตามไปนำเงิน 100 บาท ไปด้วยเพื่อไถ่ตัวผู้เสียหาย เมื่อไปพบจำเลยกับพวกนั่งอยู่กลางทุ่งนา ภรรยาผู้เสียหายเอาเงินจำนวนนั้นมอบให้แก่พวกจำเลยคนที่เป็นผู้เรียกเงิน แต่พวกจำเลยไม่ยอมปล่อยตัวผู้เสียหายจนกว่าจะได้เงินครบตามที่เรียกร้อง ภรรยาผู้เสียหายจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบให้ดำเนินคดีต่อไปพฤติการณ์ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดฐานจับคน(อายุเกิน 13 ปี)ไปเรียกค่าไถ่ หาใช่กรรโชกธรรมดาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778-1779/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมเพื่อเรียกค่าไถ่: ความผิดฐานจับบุคคลอายุเกิน 13 ปี ไม่ใช่กรรโชก
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คนร้าย 7 คนไปที่บ้านผู้เสียหาย 2 คน อยู่ข้างล่าง 5 คน ซึ่งมีจำเลยทั้งสองอยู่ด้วยขึ้นไปบนเรือน. พวกจำเลยคนหนึ่งเรียกเอาเงิน 2,000 บาท ครั้นผู้เสียหายว่าไม่มี พวกจำเลยคนนั้นจึงใช้ปืนจี้พาผู้เสียหายลงเรือนไป โดยบอกภรรยาผู้เสียหายว่าถ้าต้องการสามีคืนให้หาเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ เมื่อคนร้ายไปแล้ว มีผู้ช่วยพาภรรยาผู้เสียหายติดตามไปนำเงิน100 บาท ไปด้วยเพื่อไถ่ตัวผู้เสียหาย เมื่อไปพบจำเลยกับพวกนั่งอยู่กลางทุ่งนา ภรรยาผู้เสียหายเอาเงินจำนวนนั้นมอบให้แก่พวกจำเลยคนที่เป็นผู้เรียกเงิน แต่พวกจำเลยไม่ยอมปล่อยตัวผู้เสียหายจนกว่าจะได้เงินครบตามที่เรียกร้อง ภรรยาผู้เสียหายจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบให้ดำเนินคดีต่อไป พฤติการณ์ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดฐานจับคน (อายุเกิน 13 ปี) ไปเรียกค่าไถ่ หาใช่กรรโชกธรรมดาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778-1779/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จับกุมเรียกค่าไถ่: ความผิดฐานจับบุคคลอายุเกิน 13 ปีเรียกค่าไถ่ ไม่ใช่กรรโชกธรรมดา
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คนร้าย 7 คนไปที่บ้านผู้เสียหาย 2 คน อยู่ข้างล่าง 5 คน ซึ่งมีจำเลยทั้งสองอยู่ด้วยขึ้นไปบนเรือน. พวกจำเลยคนหนึ่งเรียกเอาเงิน 2,000 บาท ครั้นผู้เสียหายว่าไม่มี. พวกจำเลยคนนั้นจึงใช้ปืนจี้พาผู้เสียหายลงเรือนไป โดยบอกภรรยาผู้เสียหายว่าถ้าต้องการสามีคืนให้หาเงินจำนวนดังกล่าวไปให้. เมื่อคนร้ายไปแล้ว มีผู้ช่วยพาภรรยาผู้เสียหายติดตามไปนำเงิน100 บาท ไปด้วยเพื่อไถ่ตัวผู้เสียหาย. เมื่อไปพบจำเลยกับพวกนั่งอยู่กลางทุ่งนา. ภรรยาผู้เสียหายเอาเงินจำนวนนั้นมอบให้แก่พวกจำเลยคนที่เป็นผู้เรียกเงิน. แต่พวกจำเลยไม่ยอมปล่อยตัวผู้เสียหายจนกว่าจะได้เงินครบตามที่เรียกร้อง. ภรรยาผู้เสียหายจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบให้ดำเนินคดีต่อไป. พฤติการณ์ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดฐานจับคน(อายุเกิน 13 ปี)ไปเรียกค่าไถ่ หาใช่กรรโชกธรรมดาไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทวงหนี้ไม่ใช่ค่าไถ่ ไม่เป็นความผิดฐานจับคนเรียกค่าไถ่
จำเลยถูกสลากกินรวบแล้วไปเอาเงินที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้ามือ แต่ผู้เสียหายไม่ให้ จำเลยกับพวกตามไปพบผู้เสียหายแล้วพาผู้เสียหายขึ้นรถไปด้วยกัน จำเลยได้ให้ผู้เสียหายเขียนหนังสือถึงภริยาให้จ่ายเงินแก่ผู้ถือและได้ให้ผู้เสียหายทำสัญญากู้เงินจำเลยตามจำนวนที่ถูกสลากกินรวบไว้แล้วให้ผู้เสียหายกลับไป ดังนี้ เจตนาของจำเลยเป็นเพียงแต่จะทวงเอาเงินซึ่งจำเลยเชื่อว่าควรจะได้ เงินประเภทนี้จึงไม่ใช่สินไถ่หรือค่าไถ่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 การกรทะำของจำเลยขาดเจตนาเพื่อค่าไถ่อันเป็นองค์ความผิดประการสำคัญตามมาตรานี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานจับคนเพื่อค่าไถ่ตามมาตรา 313

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทวงหนี้ไม่ใช่ค่าไถ่ แม้มีลักษณะรุนแรง ไม่เข้าข่ายความผิดฐานจับคนเพื่อค่าไถ่
จำเลยถูกสลากกินรวบแล้วไปเอาเงินที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้ามือ แต่ผู้เสียหายไม่ให้ จำเลยกับพวกตามไปพบผู้เสียหายแล้วพาผู้เสียหายขึ้นรถไปด้วยกัน จำเลยได้ให้ผู้เสียหายเขียนหนังสือถึงภริยาให้จ่ายเงินแก่ผู้ถือและได้ให้ผู้เสียหายทำสัญญากู้เงินจำเลยเท่าจำนวนที่ถูกสลากกินรวบไว้แล้วให้ผู้เสียหายกลับไป ดังนี้ เจตนาของจำเลยเป็นเพียงแต่จะทวงเอาเงินซึ่งจำเลยเชื่อว่าควรจะได้เงินประเภทนี้จึงไม่ใช่สินไถ่หรือค่าไถ่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 การกระทำของจำเลยขาดเจตนาเพื่อค่าไถ่อันเป็นองค์ความผิดประการสำคัญตามมาตรานี้จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานจับคนเพื่อค่าไถ่ตามมาตรา 313

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานทางอ้อมพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์ และการขาดการร้องทุกข์ในความผิดฐานฉ้อโกง
ที่จะมีความผิดฐานลักทรัพย์นั้นแม้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้ายเข้าไปลักกระบือแต่ได้ความว่ากระบือหายเวลาค่อนแจ้ง กำนันจับจำเลยได้ขณะขี่กระบือในวันรุ่งขึ้นเวลาบ่าย จำเลยก็รับว่าไม่รู้จักเจ้าทรัพย์แม้บ้านก็ไม่รู้จัก ครั้นจำเลยได้ประกันตัวไปจากอำเภอเพื่อนำหลักฐานมาแสดง จำเลยก็ตรงไปหาเจ้าทรัพย์ถูก ซ้ำยังหลอกลวงว่าจะไปไถ่กระบือคืนให้ ๆ เจ้าทรัพย์มอบตั๋วพิมพ์รูปพรรณไปพฤติการณ์ดังนี้เป็นเหตุแวดล้อมให้เห็นว่าจำเลยนั่นเองเป็นผู้เข้าไปลักกระบือรายนี้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฎว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน ขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานี้เลย ทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฎฉนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้
of 5