พบผลลัพธ์ทั้งหมด 169 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาอื่น หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาทำร้ายร่างกาย หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคน โดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้ การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาเนื่องจากถูกยั่วยุ การพิจารณาถึงเหตุจากความโกรธ
จำเลยนั่งถือมีดตัดเล็บอยู่ ผู้ตายตรงเข้าไปที่จำเลยกล่าวหาว่าจำเลยลักเสื้อของสามีผู้ตาย จำเลยปฏิเสธ ผู้ตายยังกล่าวหาว่าจำเลยลัก ผู้ตายกล่าวหาซ้ำๆ ด้วยเสียงดัง จำเลยจึงลงเรือนตรงเข้าเอามีดตัดเล็บแทงเข้าที่ท้องผู้ตาย ผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดเพราะถูกยั่วโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาเนื่องจากถูกยั่วโทสะ การพิจารณาโทษ
จำเลยนั่งถือมีดตัดเล็บอยู่ ผู้ตายตรงเข้าไปที่จำเลยกล่าวหาว่าจำเลยลักเสื้อของสามีผู้ตาย จำเลยปฏิเสธ ผู้ตายยังกล่าวหาว่าจำเลยลัก ผู้ตายกล่าวหาซ้ำ ๆ ด้วยเสียงดัง จำเลยจึงลงเรือนตรงเข้าเอามีดตัดเล็บแทงเข้าที่ท้องผู้ตาย ๆ ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดเพราะถูกยั่วโทษะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย
ผู้ตายถือพลั่วเหล็กไล่ทำร้ายจำเลย ๆ วิ่งหนี ผู้ตายไล่ทันเอาพลั่วตีศีรษะจำเลย แล้วยังแทงซ้ำอีก 2 ที จำเลยจึงฉวยมีดที่ข้างฝามาใช้ป้องกันตัว ผู้ตายแข้าแย่งมีดจากจำเลยอีก จำเลยจึงเอามีดนั้นแทงผู้ตาย 1 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ แม้ขณะที่แทงผู้ตายจะได้ทิ้งพลั่วแล้วก็ดี แต่เป็นเวลาที่จำเลยถูกตีศีรษะและแทงแล้วยังถูกผู้ตายกอดปล้ำแย่งมีด ถ้าผู้ตายแย่งมีดได้ก็อาจแทงจำเลยตาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุ อันควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้มีดป้องกันการทำร้ายด้วยอาวุธอื่น
ผู้ตายถือพลั่วเหล็กไล่ทำร้ายจำเลย จำเลยวิ่งหนีผู้ตายไล่ทันเอาพลั่วตีศีรษะจำเลยแล้วยังแทงซ้ำอีก 2 ที
จำเลยจึงฉวยมีดที่ข้างฝามาใช้ป้องกันตัว ผู้ตายเข้าแย่งมีดจากจำเลยอีก จำเลยจึงเอามีดนั้นแทงผู้ตาย 1ที ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ แม้ขณะที่แทงผู้ตายจะได้ทิ้งพลั่วแล้วก็ดี แต่เป็นเวลาที่จำเลยถูกตีและแทงแล้วยังถูกผู้ตายกอดปล้ำแย่งมีด ถ้าผู้ตายแย่งมีดได้ก็อาจแทงจำเลยตาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุ อันควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50
จำเลยจึงฉวยมีดที่ข้างฝามาใช้ป้องกันตัว ผู้ตายเข้าแย่งมีดจากจำเลยอีก จำเลยจึงเอามีดนั้นแทงผู้ตาย 1ที ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ แม้ขณะที่แทงผู้ตายจะได้ทิ้งพลั่วแล้วก็ดี แต่เป็นเวลาที่จำเลยถูกตีและแทงแล้วยังถูกผู้ตายกอดปล้ำแย่งมีด ถ้าผู้ตายแย่งมีดได้ก็อาจแทงจำเลยตาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุ อันควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเหตุบรรดาลโทษะ แม้จำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นต้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249, 335(13) ก.ม.ลักษณะอาญา จำเลยให้การต่อสู้ว่าทำโดยป้องกันตัว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 251 จำเลยอุทธรณ์ว่าทำโดยป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาชี้ขาดว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันตัวตามกฎหมาย แต่จำเลยกระทำโดยบรรดาลโทษะให้ลงโทษจำเลยเพียงกึ่งหนึ่งตาม มาตรา 55 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นลดหย่อนผ่อนโทษ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นต้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249,335(13) กฎหมายลักษณะอาญา จำเลยให้การต่อสู้ว่าทำโดยป้องกันตัวศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 251 จำเลยอุทธรณ์ว่าทำโดยป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาชี้ขาดว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันตัวตามกฎหมาย แต่จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะให้ลงโทษจำเลยเพียงกึ่งหนึ่งตามมาตรา 55 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีฆ่าคนตายโดยไม่มีศพชันสูตร: การใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาเดิม
เมื่อไม่ได้มีการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย เพราะบิดาผู้ตายได้จัดการเผาศพไปก่อนแล้ว โจทก์ก็ย่อมฟ้องจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและลักษณะฉกรรจ์
ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ตอน 2 นั้นจะต้องได้ความว่า มีลักษณะฉกรรจ์ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังที่กล่าวในมาตรา 250