คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.รัษฎากร ม. 118

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 824 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: อายุความ, หนังสือมอบอำนาจ, และการละเมิดสิทธิ
โจทก์ฟ้องจำเลยเพราะเหตุจำเลยละเมิดสิทธิครอบครองของโจทก์
ไม่ใช่เรื่องโจทก์ฟ้องเรียกมรดก จึงไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าบิดาโจทก์ตายเมื่อใด และใครเป็นทายาทบ้าง
หนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้อง (ให้จัดการทรัพย์สินและให้ฟ้องร้องได้)เป็นเอกสารแสดงการมอบอำนาจให้ทำการแทนในกิจการมากกว่าครั้งเดียวแต่มิได้กระทำในลักษณะเป็นรูปตราสารสัญญาหากเป็นเพียงเอกสารที่ทำแต่ลำพังผู้มอบอำนาจฝ่ายเดียวจึงต้องเสียอากรแสตมป์ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 7 ข. อันกำหนดไว้ 5 บาท หาใช่การมอบอำนาจทั่วไปในเรื่องตัวแทนตามข้อ 21 ข. ซึ่งกำหนดให้ปิด 10 บาท นั้นไม่เมื่อได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนถูกต้องดังนี้แล้ว ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานในศาลได้
โจทก์เพิ่งทราบพฤติการณ์ของจำเลยเมื่อจำเลยที่ 3 ได้เข้ามารบกวนและบังอาจบุกรุกสิทธิการครอบครองของโจทก์อายุความจึงต้องนับตั้งแต่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและนับแต่วันนั้นมาจนถึงวันฟ้องยังไม่เกิน1 ปี ฟ้องของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารหลักฐานการชำระหนี้ต้องถูกต้องตามกฎหมายภาษีอากรและกฎหมายแพ่ง จึงใช้เป็นพยานหลักฐานได้
เอกสารใดมีลักษณะเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากรแล้วจะต้องปิดอากรแสตมป์ มิฉะนั้นใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
จำเลยอ้างว่าชำระเงินกู้ให้โจทก์แล้วตามเอกสารที่ส่งศาลแต่เอกสารดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตาม กฎหมาย จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารรับเงินต้องปิดอากรแสตมป์ จึงใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งได้ การชำระหนี้ไม่สมบูรณ์ใช้เป็นพยานไม่ได้
เอกสารใดมีลักษณะเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากรแล้วจะต้องปิดอากรแสตมป์ มิฉนั้นใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
จำเลยอ้างว่าชำระเงินกู้ให้โจทก์แล้วตามเอกสารที่ส่งศาลแต่เอกสารดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตาม ก.ม. จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารรับเงินไม่ติดอากรแสตมป์ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
เอกสารใดมีลักษณะเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากรแล้วจะต้องปิดอากรแสตมป์ มิฉะนั้นใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
จำเลยอ้างว่าชำระเงินกู้ให้โจทก์แล้วตามเอกสารที่ส่งศาลแต่เอกสารดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตาม กฎหมาย จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำด้วยพยานหลักฐานเดิมที่เคยถูกห้ามไม่รับฟัง
ในคดีก่อนศาลชี้ขาดแล้วว่า เอกสารกู้ที่ฟ้อง ไม่ปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้อง ไม่รับฟังเป็นพยานหลักฐาน จึงพิพากษายกฟ้อง โจทก์ได้เอาเอกสารสัญญากู้นั้นไปจัดการปิดอากรแสตมป์ถูกต้องแล้วมาฟ้องเรียกเงินกู้นี้จากจำเลยใหม่ โดยอ้างว่าเอกสารสัญญากู้ซึ่งมีแสตมป์ครบนั้นเป็นหลักฐานในการฟ้องใหม่ เช่นนี้ เป็นการที่โจทก์เอาพยานหลักฐานซึ่งครั้งหนึ่ง ต้องห้ามไม่รับฟังแล้วนั้นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ขอให้รับฟังและขอให้กลับใช้พยานหลักฐานนั้นชี้ขาดว่า มีการกู้ จึงเป็นการฟ้องซ้ำ(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารที่ยังมิได้ปิดอากรแสตมป์แต่ได้เสียอากรภายหลัง สามารถใช้เป็นพยานได้ หากสลักหลังเป็นเพียงการยืนยันการเสียอากร
จำเลยอ้างใบรับเงินเป็นพยานและได้คัดสำเนาให้ฝ่ายโจทก์แล้วแต่ปรากฏว่าใบรับเงินนี้มิได้ปิดอากรแสตมป์ ต่อมาภายหลังจำเลยจึงนำใบรับเงินนั้นยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอเสียอากร พนักงานเจ้าหน้าที่จึงสลักหลังให้ในใบรับเงินนั้นจำเลยจึงยื่นคำร้องขออ้างสลักหลังนี้เป็นพยานเพิ่มเติมในตอนจวนเสร็จการสืบพยานโจทก์โดยมิได้คัดสำเนาสลักหลังส่งให้โจทก์ล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ดังนี้ ศาลก็ย่อมรับฟังเอกสารใบรับเงินนั้นเป็นพยานหลักฐานได้เพราะข้อความสลักหลังเป็นเพียงข้อความของเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ว่า ใบรับเงินนั้นได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้แล้วเท่านั้น จึงมิใช่เป็นเอกสารพยานหลักฐานที่ฝ่ายจำเลยอ้างอิงเพื่อสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สัญญากู้เป็นหลักฐาน แม้ปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนแต่ภายหลังได้ดำเนินการให้ถูกต้อง
ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 118 บังคับแต่เพียงจะใช้ตราสารเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้จนกว่าจะได้ปิดอากรแสดมป์บริบูรณ์และขีดฆ่าแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นที่เห็นได้ชัดว่าตราสารที่มิได้อากรแสตมป์บริบูรณ์มาแต่เดิมก็ดีถ้าได้มีการปิดอากรแสตมป์ขึ้นแล้วในภาย หลัง ก็ย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ทันที มิได้มีอะไรสูญเสียไป
โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยตามเอกสารสัญญากู้แต่ปรากฎว่า สัญญากู้ปิดอากรแสตมป์ยังไมครบถ้วนเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วสืบพยานจำเลยได้ 1 ปากโจทก์ยื่นคำร้องขอปิดอากรแสตมป์ให้ครบ จำเลยคัดค้านเมื่อสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว ศาลยอมให้โจทก์นำสัญญากู้ไปปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนบริบูรณ์ ดังนี้ศาลย่อมรับฟังสัญญากู้เป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สัญญากู้เป็นพยานหลักฐานหลังปิดอากรแสตมป์ครบถ้วน แม้จะมิได้ปิดอากรแสตมป์มาแต่เดิม
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 บังคับแต่เพียงจะใช้ตราสารเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้จนกว่าจะได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์และขีดฆ่าแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นที่เห็นได้ชัดว่าตราสารที่มิได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์มาแต่เดิมก็ดี ถ้าได้มีการปิดอากรแสตมป์ขึ้นแล้วในภายหลัง ก็ย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ทันที มิได้มีอะไรสูญเสียไป
โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยตามเอกสารสัญญากู้ แต่ปรากฏว่า สัญญากู้ปิดอากรแสตมป์ยังไม่ครบถ้วน เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วสืบพยานจำเลยได้ 1 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอปิดอากรแสตมป์ให้ครบ จำเลยคัดค้านเมื่อสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว ศาลยอมให้โจทก์นำสัญญากู้ไปปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนบริบูรณ์ ดังนี้ ศาลย่อมรับฟังสัญญากู้เป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเดิมสูญหาย ฟ้องโดยใช้สัญญาใหม่เฉพาะผู้ลงชื่อรับผิด
โจทก์ฟ้องลูกหนี้สองคนโดยกล่าวว่า เดิมจำเลยทั้งสองได้กู้เงินโจทก์ไป ต่อมาสัญญาหายโดยถูกคนร้ายปล้น โจทก์จึงให้จำเลยทำสัญญาให้ใหม่และเพิ่มหนี้ขึ้นอีก โดยลูกหนี้คนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้ ลูกหนี้อีกคนหนึ่ง ไม่ยอมลงชื่อเป็นผู้กู้ ดังนี้ถือว่า โจทก์ฟ้องโดยอาศัยสัญญาฉบับหลังเท่านั้น ส่วนสัญญาฉบับเดิมนั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวเป็นสิทธิฟ้องร้องโจทก์เพียงแต่กล่าวท้าวถึงมูลหนี้เดิมว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น ลูกหนี้ที่ไม่ได้ลงชื่อในสัญญาฉบับหลังไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาหายและสัญญาใหม่: ความรับผิดของลูกหนี้ที่ไม่ลงชื่อ
โจทก์ฟ้องลูกหนี้สองคนโดยกล่าวว่า เดิมจำเลยทั้งสองได้กู้เงินโจทก์ไป ต่อมาสัญญาหายโดยถูกคนร้ายปล้น โจทก์จึงให้จำเลยทำสัญญาให้ใหม่และเพิ่มหนี้ขึ้นอีก โดยลูกหนี้คนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้ ลูกหนี้อีกคนหนึ่งไม่ยอมลงชื่อเป็นผู้กู้ ดังนี้ถือว่า โจทก์ฟ้องโดยอาศัยสัญญาฉบับหลังเท่านั้น ส่วนสัญญาฉบับเดิมนั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวเป็นสิทธิฟ้องร้องโจทก์เพียงแต่กล่าวท้าวถึงมูลหนี้เดิมว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น ลูกหนี้ที่ไม่ได้ลงชื่อในสัญญาฉะบับหลังไม่ต้องรับผิด.
of 83