คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 301

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 129 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามปล้นทรัพย์ด้วยการขู่เข็ญและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
จำเลยกับพวกรวมกันกว่า 3 คน มีศาตราวุธมาเรียกผู้เสียหายในเวลาดึก เพื่อทำการชิงทรัพย์ แต่หากผู้เสียหายรู้ทันไม่ยอมเปิด และเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับเสียก่อน ทั้งพวกจำเลยยังได้ใช้ปืนยิงต่อสู้เจ้าพนักงานเพื่อให้หลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาอีก ดังนี้ ย่อมเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามปล้นทรัพย์และการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
จำเลยกับพวกรวมกันกว่า 3 คน มีสาตราวุธมาเรียกผู้เสียหายในเวลาดึก เพื่อทำการชิงทรัพย์ แต่หากผู้เสียหายรู้ทันไม่ยอมเปิด และเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับเสียก่อน ทั้งพวกจำเลยยังได้ใช้ปืนยิงต่อสู้เจ้าพนักงาน เพื่อให้หลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาอีก ดังนี้ ย่อมเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์และการสมคบกันกระทำความผิด โดยการใช้ปืนขู่และยิงจริง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงขู่ การใช้ปืนยิงขู่ก็เป็นการขู่เข็ญว่าจะทำร้าย และทางพิจารณาก็ได้ความว่าจำเลยได้ใช้ปืน ทั้งยิงขู่และยิงจริง เข้าลักษณะปล้นสมฟ้องแล้ว
จำเลยกับพวกได้มาร่วมมือกันใช้ปืนทั้งยิงขู่และยิงจริงโดยจำเลยมิได้แก้ตัวว่าได้เจตนากระทำเพื่ออะไร และทางพิจารณาก็ไม่ได้ความว่าเพื่อเหตุอื่นใด จึงต้องฟังตามกรรมของจำเลยว่าได้สมคบกันมาปล้น แม้ในเบื้องต้นมิได้มีเจตนาสมคบกันมาปล้น แต่ในภายหลังได้ร่วมมือกันทำการปล้นแล้ว ก็ต้องมีความผิดฐานปล้น
คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยได้ทำให้คนตายในการปล้น แต่ได้แยกการฆ่านั้นไว้อีกกะทงหนึ่งต่างหากต่างกรรม ต่างวาระกันทำให้คนตาย ให้ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในชั้นฎีกา ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยเพียงฐานปล้นทรัพย์ตามมาตรา 301 ตอนต้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนขู่และยิงจริง รวมถึงการสมคบกันกระทำผิด แม้ไม่มีเจตนาตั้งแต่แรก
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงขู่ การใช้ปืนยิงขู่ก็เป็นการขู่เข็ญว่าจะทำร้าย และทางพิจารณาก็ได้ความว่าจำเลยได้ใช้ปืน ทั้งยิงขู่และยิงจริง เข้าลักษณะปล้นสมฟ้องแล้ว
จำเลยกับพวกได้มาร่วมมือกันใช้ปืนทั้งยิงขู่และยิงจริงโดยจำเลยมิได้แก้ตัวว่าได้เจตนากระทำเพื่ออะไร และทางพิจารณาก็ไม่ได้ความว่าเพื่อเหตุอื่นใด จึงต้องฟังตามกรรมของจำเลยว่าได้สมคบกันมาปล้นแม้ในเบื้องต้นมิได้มีเจตนาสมคบกันมาปล้นแต่ในภายหลังได้ร่วมมือกันทำการปล้นแล้ว ก็ต้องมีความผิดฐานปล้น
คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยได้ทำให้คนตายในการปล้น แต่ได้แยกการฆ่านั้นไว้อีกกระทงหนึ่งต่างหากต่างกรรมต่างวาระกันในชั้นฎีกาศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยเพียงฐานปล้นทรัพย์ตามมาตรา 301 ตอนต้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถานพร้อมอาวุธและการขู่เข็ญ ถือเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยและพวกรวม 6 คน มีมีดเป็นศาตราวุธบุกรุกขึ้นเรือนเจ้าทรัพย์อย่างโครมครามในเวลาดึกประมาณ23.00น.และตีฝาปึงปังจนเพื่อนบ้านก็ได้ยิน ภริยาเจ้าทรัพย์กลัวต้องหนีไป การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย จำเลยย่อมมีความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถานพร้อมอาวุธและการขู่เข็ญ ถือเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยและพวกรวม 6 คน มีมีดเป็นสาตราวุธบุกรุกขึ้นเรือนเจ้าทรัพย์อย่างโครมครามในเวลาดึก ประมาณ 23.00 น.และตีฝาปึงปัง จนเพื่อนบ้าน ก็ได้ยิน ภริยาเจ้าทรัพย์กลัวต้องหนีไป การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย จำเลยย่อมมีความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนใจเอาทรัพย์โดยอ้างอำนาจซ่องโจร มิใช่ปล้นทรัพย์
จำเลยได้ส่งซองจดหมายอักษรจีนให้ผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อความว่า 'กองทัพที่ 8 ขาดเสบียง จึงมาขอเรี่ยไรเงิน' และจำเลยได้พูดให้ผู้เสียหายออกเงินแล้วจะรักษาความปลอดภัยให้ ถ้าไม่ให้เงินจะเป็นอันตรายดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการข่มขืนใจให้ผู้เสียหายส่งทรัพย์ให้จำเลยโดยจำเลยเอาอำนาจกองทัพที่ 8 อันเป็นซ่องโจรมาขู่ผู้เสียหาย ความผิดของจำเลยต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 268 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเพียงพอของฟ้องคดีปล้นทรัพย์ ไม่ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์ เป็นที่เข้าใจว่าในบ้านเจ้าทรัพย์ย่อมมีทรัพย์หลายสิ่งหลายอย่าง ถ้าระบุก็มากมายเกินความจำเป็นจำเลยย่อมเข้าใจฟ้องได้ดี ไม่จำต้องระบุว่าเป็นทรัพย์อะไรราคาเท่าใด ฟ้องของโจทก์ย่อมถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเพียงพอของฟ้องคดีปล้นทรัพย์ - ไม่จำต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์ เป็นที่เข้าใจว่าในบ้านเจ้าทรัพย์ย่อมมีทรัพย์หลายสิ่งหลายอย่าง ถ้าระบุก็มากมายเกินความจำเป็น จำเลยย่อมเข้าใจฟ้องได้ดี ไม่จำต้องระบุว่าเป็นทรัพย์อะไรราคาเท่าใด ฟ้องของโจทก์ย่อมถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตแก้ฟ้องระหว่างพิจารณาคดี: แก้ไขสถานที่เกิดเหตุไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาเรียกได้ว่าอยู่ในระหว่างพิจารณา อาจสืบพยานของศาลเพิ่มเติมได้
โจทก์ยื่นคำขอแก้ฟ้อง เมื่อเสร็จการสืบพยานและถึงวันนัดพิพากษา ดังนี้เรียกว่า ขอแก้ไขระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดที่ตำบลบางแค อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดพระนคร เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว นัดฟังคำพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เกิดเหตุที่ ตำบลบางแค อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ดังนี้จำเลยย่อมรู้และเข้าใจได้ เพราะจำเลยรู้จักสถานที่ ไม่มีเหตุที่จะสงสัยว่าจำเลยเข้าใจผิดหรือหลงข้อต่อสู้ในเรื่องดำบลที่เกิดเหตุ หรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ชอบที่จะอนุญาตให้แก้ฟ้องได้
of 13