คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 143

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินสมรส สินบริคณห์ การโอนขายโดยไม่ได้รับอนุญาต โมฆียะ อายุความบอกล้าง
เมื่อการให้มิได้มีข้อความจดทะเบียนระบุไว้ว่าให้เป็นสินส่วนตัวของคู่สมรส ฝ่ายที่รับให้ การให้นั้นก็ต้องถือว่าเป็นการให้ตามธรรมดา ทรัพย์สินที่ให้กันจึงเป็นสินสมรส อันเป็นสินบริคณห์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1462
ภรรยานำที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ตนได้รับให้ไปทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนขายให้แก่ผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากสามี การโอนขายนั้นย่อมเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 38 สามีจะบอกล้างเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 วรรค 2 แต่ต้องบอกล้างเสียภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่อาจจะให้สัตยาบันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 143

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่เกิดจากการปลอมแปลงเอกสารและไม่มีอำนาจ การฟ้องติดตามทรัพย์คืนไม่ขาดอายุความ
มีผู้อื่นเอาที่ดินไปขายฝากโดยปลอมลายมือชื่อของเจ้าของที่ดินลงในใบมอบอำนาจว่าเจ้าของที่ดินมอบอำนาจให้เอาที่ดินไปขายฝากได้แม้ผู้รับซื้อฝากจะซื้อไว้โดยสุจริตเจ้าของที่ดินก็ย่อมมีสิทธิ์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากได้ เพราะเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ขายนิติกรรมการขายฝากระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ซื้อจึงไม่มีต่อกัน(อ้างฎีกาที่2049/92,1866/94) และกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821,223,1329,1332 ทั้งไม่ใช่เรื่องบอกล้างโมฆียะกรรมตาม มาตรา143 ด้วย
อายุความฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่มีผู้เอาไปโอนโดยไม่มีอำนาจ จะใช้อายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา51 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่ทำโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ แม้ผู้ซื้อสุจริต ก็มีสิทธิ์เรียกร้องคืนได้
มีผู้อื่นเอาที่ดินไปขายฝากโดยปลอมลายมือชื่อของเจ้าของที่ดินลงในใบมอบอำนาจว่าเจ้าของที่ดินมอบอำนาจให้เอาที่ดินไปขายฝากได้ แม้ผู้รับซื้อฝากจะซื้อไว้โดยสุจริต เจ้าของที่ดินก็ย่อมมีสิทธิ์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากได้ เพราะเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ขาย นิติกรรมการขายฝากระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ซื้อจึงไม่มีต่อกัน (อ้างฎีกาที่ 2049/92,1866/94) และกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 821,223,1329,1332 ทั้งไม่ใช่เรื่องบอกล้างโมฆียะกรรมตาม ม. 143 ด้วย
อายุความฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่มีผู้เอาไปโอนโดยไม่มีอำนาจ จะใช้อายุความตามป.วิ.อาญา มาตรา 51 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โมฆียะกรรมสัญญาซื้อขายที่ดิน, อายุความ, ฟ้องไม่ชัดเจน, ไม่มีอำนาจฟ้อง
ฟ้องว่า จำเลยใช้กลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ให้เข้าทำสัญญาขายที่ดินของโจทก์ให้จำเลยโดยที่โจทก์ไม่ได้ตกลงขายนั้น เป็นเรื่องโมฆียะกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 121 ต้องฟ้องเสียภายใน 10 ปี นับแต่วันทำนิติกรรม ซึ่งโจทก์หมดสิทธิบอกล้างแล้วตามมาตรา 143 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ที่กล่าวความขัดกันเองเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่แน่นอนไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ เป็นฟ้องที่ไม่ควรรับไว้พิจารณาชอบที่ศาลจะยกฟ้องเสียได้ แม้รับไว้พิจารณาหากเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลก็พิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุไม่มีอำนาจฟ้องเสียทีเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซื้อขายที่ดินเกิน 10 ปี และฟ้องไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้องตามอายุความและลักษณะฟ้อง
ฟ้องว่า จำเลยใช้กลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ให้เข้าทำสัญญาขายที่ดินของโจทก์ให้จำเลยโดยที่โจทก์ไม่ได้ตกลงขายนั้น เป็นเรื่องโมฆียะกรรมตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 121 ต้องฟ้องเสียภายใน 10 ปี นับแต่วันทำนิติกรรม
ฟ้องที่ถือว่าเคลือบคลุมไม่ควรรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่ดินเกินกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย
ที่ดินมีชื่อภรรยาผู้เดียวภรรยาได้เอาที่ดินนั้นไปจำนองต่อบุคคลอื่นหลายครั้งหลายหนตลอดจนโอนหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง แล้วขอซื้อกลับคืนมาและขายให้แก่ผู้มีชื่อไป ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ซื้อขายกันแล้ว ภรรยาได้เช่าที่ดินบ้านเรือนรายพิพาทอยู่ร่วมกับสามีนานถึง 5 ปี สามีจึงเพิ่งบอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทนี้ ดังนี้ เป็นการบอกล้างเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่ง นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้จึงต้องห้ามมิให้บอกล้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 143

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างนิติกรรมซื้อขายสินสมรสที่ภรรยาทำไปโดยโจทก์ทราบภายหลังและปล่อยเวลาผ่านไปนาน จึงขาดสิทธิ
ที่ดินมีชื่อภรรยาผู้เดียวภรรยาได้เอาที่ดินนั้นไปจำนองต่อบุคคลอื่นหลายครั้งหลายหนตลอดจนโอนหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง แล้วขอซื้อกลับคืนมาและขายให้แก่ผู้มีชื่อไปผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ซื้อขายกันแล้ว ภรรยาได้เช่าที่ดินบ้านเรือนรายพิพาทอยู่ร่วมกับสามีนานถึง 5 ปี สามีจึงเพิ่งบอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทนี้ดังนี้ เป็นการบอกล้างเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่ง นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้จึงต้องห้ามมิให้บอกล้างตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 143

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างโมฆียะกรรมต้องทำภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้เหตุ หากเกินกำหนด สิทธิขาดอายุความ
การขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น จะต้องกระทำภายในกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้
โจทก์รู้การโอน อันเป็นโมฆียะกรรมมากว่า 1 ปี แต่โจทก์ไม่กล่าวในฟ้องหรือนำสืบให้ชัดว่า โจทก์เพิ่งทราบเหตุการหลอกลวงภายหลังใน 1 ปีก่อนบอกล้างดังนี้สันนิษฐานว่าโจทก์รู้เหตุบอกล้าง ตั้งแต่วันที่ทราบถึงการโอน โจทก์บอกล้างไม่ได้เพราะเกิน 1 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรมและการสันนิษฐานถึงความรู้เหตุ
การขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น จะต้องกระทำภายในกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้
โจทก์รู้การโอน อันเป็นโมฆียะกรรมมากว่า 1 ปี แต่โจทก์ไม่กล่าวในฟ้องหรือนำสืบให้ชัดว่า โจทก์เพิ่งทราบเหตุการหลอกลวงภายหลังใน 1 ปีก่อนบอกล้าง ดังนี้สันนิษฐานว่าโจทก์รู้เหตุบอกล้างตั้งแต่วันที่ทราบถึงการโอนโจทก์บอกล้างไม่ได้เพราะเกิน 1 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการต่อสู้คดีจำกัดเฉพาะการฉ้อฉล ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่จำเลยต่อสู้เท่านั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฉ้อฉลหลอกลวงให้ถอนชื่อโจทก์และสามีออกจากโฉนดแล้วลงชื่อจำเลย จึงขอให้ศาลถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดคืนที่ดินแก่โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่มีกลฉ้อฉลเท่านั้น จึงไม่มีประเด็นเรื่องการบอกล้างโมฆียะกรรมหรือไม่ และการบอกล้างโมฆียะกรรมหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนดังมาตรา 142(5)ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งอนุญาตให้ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรม ไม่ใช่อายุความฟ้องร้อง
of 5