คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 63

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 173 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการนำสืบพยานในคดีอาญา: การสมคบคิดกับผู้รับสารภาพและความเชื่อมโยงกับความผิดตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดอาญา จำเลยคนหนึ่งรับสารภาพ แต่อีกคนหนึ่งปฏิเสธโจทก์จะขอสืบพะยานว่าจำเลยคนที่ปฏิเสธได้สมคบกับจำเลยที่รับสารภาพกระทำความผิดอาญานั้นก็ได้ ฉะเพาะในความหมายของการสมคบในนัยที่ว่า จำเลยนั้นได้ลงมือกระทำผิดตามฟ้องนั้นเอง เพราะคำว่าสมคบนั้นเป็นคำที่มีความหมายกว้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การสมคบร่วมกัน, การขู่เข็ญด้วยอาวุธ, และการกระทำสำเร็จความผิด
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งเข้าทำการชิงทรัพย์นอกจากนี้แล้วยังมีพรรคพวกซึ่งมาด้วยกันแล้วหลบหนีไปด้วยกันอีก บรรดาพรรคพวกนั้นยืนคุมเชิงอยู่ในลักษณะเตรียมร่วมมือด้วย นับได้ว่าจำเลยได้สมคบกับพวกมีจำนวนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป จึงเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
พวกของจำเลยคนหนึ่งเข้าไปขอเงินเจ้าทรัพย์ เจ้าทรัพย์ให้น้อย พวกจำเลยจึงหยิบเงินเอาเอง พวกเจ้าทรัพย์เข้าแย่งเงินหล่นลงที่พื้น จำเลยง้างมีดทำท่าจะแทงถือได้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมปล้นทรัพย์: การร่วมรู้ถึงการใช้ความรุนแรงก่อนลงมือ
คนร้าย 4 คนเข้าทำการปล้นทรัพย์ โดยจำเลยทั้งสองขึ้นบนเรือน คนร้ายอีก 2 คนอยู่ข้างล่าง ได้มีการยิงปืนถึง 2 นัดก่อนแล้ว นัดที่ 3 จึงถูกภรรยาเจ้าทรัพย์แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง แต่จำเลยได้ร่วมรู้ในการยิงแต่ต้น ดังนี้ นับว่าจำเลยเป็นตัวการต้องรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมปล้นทรัพย์: การร่วมรู้ตั้งแต่ก่อนลงมือ ถือเป็นตัวการต้องรับผิด
คนร้าย 4 คนเข้าทำการปล้นทรัพย์ โดยจำเลยทั้งสองขึ้นบนเรือน คนร้ายอีก 2 คนอยู่ข้างล่าง ได้มีการยิงปืนถึง 2 นัดก่อนแล้ว นัดที่ 3 จึงถูกภรรยาเจ้าทรัพย์ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง แต่ได้ร่วมรู้ในการยิงแต่ต้นดังนี้ นับว่าจำเลยเป็นตัวการ ต้องรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมคบกันวิ่งราวทรัพย์: การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดและบทลงโทษในชั้นอุทธรณ์และการยืนตามคำพิพากษาเดิมในชั้นฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยสมคบกันวิ่งราวทรัพย์ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 297,63 จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยผิดเพียงฐานสมรู้และแก้โทษเป็นจำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นการแก้บทและแก้กำหนดโทษ จึงเป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ยินยอมให้ผู้อื่นขับรถประมาท ไม่ต้องรับผิดฐานขับรถประมาท
จำเลยยินยอมให้ผู้อื่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ขับรถยนต์คันที่จำเลยขับ โดยจำเลยนั่งไปด้วย แล้วผู้นั้นขับโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกับรถคันอื่น มีคนบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ จะเอาผิดแก่จำเลยฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ขับและจะปรับเอาผิดฐานสมคบหรือสมรู้ในฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้ เพราะความผิดในฐานที่ทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทเป็นการกระทำอีกครั้งหนึ่งต่างหากซึ่งเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้ขับเอง จะถือว่าเป็นการสมคบหรือสมรู้กันกระทำมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถ: ความรับผิดทางอาญาและ พ.ร.บ.รถยนต์
จำเลยยินยอมให้ผู้อื่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ขับรถยนต์คันที่จำเลยขับ โดยจำเลยนั่งไปด้วยแล้วผู้นั้นขับโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกับรถคันอื่น มีคนบาดเจ็บสาหัส ดังนี้
จะเอาผิดแก่จำเลยฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ขับ และจะปรับเอาผิดฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้ เพราะความผิดในฐานที่ทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทเป็นการกระทำอีกคั่นหนึ่งต่างหาก ซึ่งเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้รับเอง จะถือว่าเป็นการสมคบหรือสมรู้กันกระทำมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบยักยอกทรัพย์: ไม่จำกัดเฉพาะผู้รับมอบหมายทรัพย์
ความผิดฐานสมคบกันกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์นั้น ผู้กระทำผิดทุกคนหาจำเป็นจะต้องได้รับมอบหมายทรัพย์ที่ยักยอกโดยตนเองทุกๆ คนเสมอไปไม่ เมื่อได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ที่ได้รับมอบหมายทรัพย์มาก็อาจเป็นความผิดฐานสมคบกันยักยอกทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายข้อหาที่ชัดเจนเพียงพอให้จำเลยเข้าใจ
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายจ้างวานให้ผู้อื่นตัดฟันไม้สักในป่าโดยมิได้รับอนุญาต มิได้ระบุชื่อผู้ที่จำเลยจ้างวานก็ดี เมื่อฟ้องมีข้อความบรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด และรายละเอียดต่างๆพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเพียงพอกับความประสงค์ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) และจำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา แม้ไม่ระบุตัวผู้ถูกจ้างวาน หากจำเลยเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายจ้างวานให้ผู้อื่นตัดฟันไม้สักในป่าโดยมิได้รับอนุญาต มิได้ระบุชื่อผู้ที่จำเลยจ้างงานก็ดี เมื่อฟ้องมีข้อความบรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดและรายละเอียดต่าง ๆ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเพียงพอกับความประสงค์ ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 (5) และจำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
of 18