พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,225 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการถอนผู้ปกครองและการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เยาว์
เมื่อผู้ใดร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ไม่มีผู้ใดคัดค้านศาลได้ไต่สวนและสั่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้ปกครองดังนี้จะเรียกว่าคดีถึงที่สุดอุทธรณ์ฎีกาต่อไปไม่ได้ก็เฉพาะเรื่องการตั้งผู้ปกครอง
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม มาตรา1552,1574,1575และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม มาตรา1552,1574,1575และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการถอนผู้ปกครองเด็ก: คดีเดิมยังดำเนินการได้ ไม่ต้องฟ้องใหม่
เมื่อผู้ใดร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ไม่มีผู้ใดคัดค้านศาลได้ไต่สวนและสั่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้ปกครองดังนี้จะเรียกว่าคดีถึงที่สุด อุทธรณ์ฎีกาต่อไปไม่ได้ก็เฉพาะเรื่องการตั้งผู้ปกครอง
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม ม.1552, 1574, 1575 และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม.
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม ม.1552, 1574, 1575 และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อป้องกันการละเมิดทางเพศ
การที่หญิงมีสามีอายุ 28 ปีถูกชายอายุ 24 ปีฉุดกอดปล้ำต่อหน้าผู้คนโดยหญิงไม่ยินยอมโดยได้พยายามดิ้นรนขัดขวางและร้องห้ามชายนั้นก็ยังขืนกอดและฉุดอยู่อีกเมื่อหญิงดิ้นสบัดหลุดจึงใช้มีดปลอกปากกาหมึกซึมแทงไปเพียงทีเดียวถูกช่องซี่โครงชายนั้นกว้าง 1 ซม.ยาว 2ซม.และไปถูกอวัยวะสำคัญทำให้ชายนั้นถึงตายดังนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุตาม มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองและป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงจากการถูกละเมิดทางกายภาพ
การที่หญิงมีสามีอายุ 28 ปี ถูกชายอายุ 24 ปี ฉุดกอดปล้ำต่อหน้าผู้คนโดยหญิงไม่ยินยอมโดยได้พยายามดิ้นรนขัดขวางและร้องห้าม ชายนั้นก็ยังขืนกอดและฉุดอยู่อีกเมื่อหญิงดิ้นสบัดหลุดจึงใช้มีดปลอกปากกาหมึกซึมแทงไปเพียงทีเดียวถูกช่องซี่โครงชายนั้นกว้าง 1 ซม. ยาว 2 ซม. และไปถูกอวัยวะสำคัญทำให้ชายนั้นถึงตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุ ตาม ม.50.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จในคดีเลือกตั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อสำคัญในคดี ไม่ผิดตามมาตรา 155
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการเลือกตั้งและจำเลยเบิกความในศาลตอนหนึ่งว่า 'ก่อนวันเลือกตั้ง 2,3 วัน นายอุไรผู้สมัครรับเลือกตั้งคนหนึ่งเอานายถวัลย์ปลัดเทศบาลและนายเล็กคนขับรถดับเพลิงไปช่วยหาเสียงและกินเลี้ยงที่บ้านนายบุญปลอดและบ้านนายนิ่มระหว่างกินเลี้ยงทั้ง 2 ครั้งนี้นายถวัลย์พูดโจมตีจำเลยว่านายครอบเป็นเจ้าถ้อยหมอความยื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมให้ระงับการติดไฟในระหว่างเลือกตั้ง' ซึ่งเป็นเท็จ ขอให้ลงโทษตาม มาตรา155 ข้อความเพียงเท่านี้เห็นว่าจำเลยมิได้ให้การว่านายถวัลย์ได้พูดส่งเสริมหรือทับถมให้เลือกหรือไม่ให้เลือกผู้ใดเลยไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอย่างไรถึงนายภวัลย์จะได้พูดเช่นนั้นจริงก็ไม่เป็นเหตุและไม่อาจเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนการเลือกตั้งตามสำนวนที่จำเลยร้องนั้นได้ดังนี้ข้อความที่โจทก์อ้างแม้จำเลยจะเบิกเท็จก็ไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีเรื่องนั้นลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จตามมาตรา 155 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จในคดีคัดค้านการเลือกตั้งที่ไม่กระทบต่อข้อสำคัญของคดี ไม่เป็นความผิด ม.155
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการเลือกตั้งและจำเลยเบิกความในศาลตอนหนึ่งว่า "ก่อนวันเลือกตั้ง 2,3 วัน รายอุไรผู้สมัครรับเลือกตั้งคนหนึ่งเอานายถวัลย์ปลัดเทศบาลและนายเล็กคนขับรถดังเพลิงไปช่วยหาเสียงและกินเลี้ยงที่บ้านนายบุญปลอดและบ้านนายนิ่ม ระหว่างกินเลี้ยงทั้ง 2 ครั้งนี้นายถวัลย์พูดโจมตีจำเลยว่านายครอบเป็นเจ้าถ้อยหมอความยื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมให้ระงับการติดไฟในระหว่างเลือกตั้ง" ซึ่งเป็นเท็จ ขอให้ลงโทษตาม ม.155 ข้อความเพียงเท่าที่เห็นว่าจำเลยมิได้ให้การว่านายถวัลย์ได้พูดส่งเสริมหรือทับถมให้เลือกหรือไม่ให้เลือกผู้ใดเลยไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอย่างไร ถึงนายถวัลย์จะได้พูดเช่นนั้นจริงก็ไม่เป็นเหตุและไม่อาจเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนการเลือกตั้งตามสำนวนที่จำเลยร้องนั้นได้ ดังนี้ข้อความที่โจทก์อ้างแม้จำเลยจะเบิกเท็จก็ไม่ใช่ข้อสำคัญในดคีเรื่องนั้น ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จตาม ม.155 ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กฎหมายกักกันผู้กระทำผิดซ้ำเพื่อเพิ่มโทษจำคุก ไม่ขัดต่อกฎหมายอาญาและรัฐธรรมนูญ
พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็น กฎหมายพิเศษใช้กับผู้กระทำผิดทางอาญาถูกจำคุกหลายครั้งไม่เข็ดหลาบหาขัดกับกฎหมายอาญา มาตรา 25 ไม่ ศาลย่อมยกขึ้นใช้ปรับบทแก่จำเลยในกรณีเช่นนี้ได้ ทั้งไม่ขัดต่อ กฎหมายรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายกับผู้กระทำผิดซ้ำ ไม่ขัดต่อกฎหมายอาญาและรัฐธรรมนูญ
พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย เป็น ก.ม.พิเศษใช้กับผู้กระทำผิดทางอาญาถูกจำคุกหลายครั้งไม่เข็ดหลาบหาขัดกับ ก.ม.อาญา ม.25 ไม่ ศาลย่อมยกขึ้นใช้ปรับบทแก่จำเลยในกรณีเช่นนี้ได้ ทั้งไม่ขัดต่อ ก.ม.รัฐธรรมนูญแต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญาต้องอาศัยพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงจำเลยกับความผิด ไม่สามารถลงโทษจากคำรับสารภาพเพียงอย่างเดียว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตแต่ตามทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับฝิ่นของกลางอย่างไรแม้กรณีจะเป็นประการใดก็ตาม คดีที่มีโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเช่นคดีนี้ศาลจะลงโทษจำเลยเพียงแต่ฟังคำรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานหรือชั้นสอบสวนหรือจะหยิบยกคำรับสารภาพของจำเลยต่อศาลในชั้นแรกโดยไม่มีพยานโดยตรงหรือพฤติการณ์อื่นประกอบด้วยแล้วจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษอาญาต้องอาศัยพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงจำเลยกับความผิด พยานคำรับสารภาพอย่างเดียวไม่พอ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่ตามทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับฝิ่นของกลางอย่างไร แม้กรณีจะเป็นประการใดก็ตาม คดีที่มีโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเช่นนี้คดีนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยเพียงแต่ฟังคำรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานหรือชั้นสอบสวนหรือจะหยิบยกคำรับสารภาพของจำเลยต่อศาลในชั้นแรกโดยไม่มีพยานโดยตรงหรือพฤติการณ์อื่นประกอบด้วยแล้วจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา.