พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,225 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม แม้จำเลยไม่ได้ลงมือปลอมเอง แต่ร่วมกระทำความผิดโดยจัดให้ผู้อื่นปลอม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ จ้าง วานผู้อื่นให้ปลอมเอกสารแล้วจำเลยได้นำเอกสารปลอมนั้นไปใช้ ขอให้ลงโทษ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมิได้ปลอมเอกสารด้วยมือจำเลยเอง แต่ก็ได้ร่วมกระทำโดยจัดให้ผู้อื่นกับพวกปลอมเอกสารขึ้น แล้วจำเลยนำเอกสารนั้นไปใช้ ดังนี้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ถึงกับจะต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาความผิดฐานครอบครองกระสุนปืนเฉพาะสงคราม ต้องอาศัยหลักฐานชัดเจนว่ากระสุนนั้นเข้าข่ายตามกฎหมาย
ฟ้องว่าจำเลยมีกระสุนปืนสปิงฟิลต์อันเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แล้วโจทก์จะมาอธิบายในชั้นฎีกาว่าลูกกระสุนปืนดังกล่าวนั้น คือ ลูกกระสุนปืนซึ่งใช้กับปืนเล็กยาวแบบ 66 ขนาด 8 มม. อันระบุไว้ในกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ 7(พ.ศ.2501)ฯ ข้อ (3)ฌ. เพื่อขอให้ศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55,78 ตามที่ถูกแก้ไขดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดความผิดฐานครอบครองเครื่องกระสุนปืนสงคราม: การพิสูจน์ชนิดกระสุนต้องชัดเจนในชั้นศาล
ฟ้องว่าจำเลยมีกระสุนปืนสปิงฟิลต์อันเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แล้วโจทก์จะมาอธิบายในชั้นฎีกาว่าลูกกระสุนปืนดังกล่าวนั้น คือลูกกะสุนปืนซึ่งใช้กับปืนเล็กยาวแนบ 66 ขนาด 8 มม. อันระบุไว้ในกระทรวงมหาดไทยฉบับ ที่ 7 (พ.ศ.2501) ฯ ข้อ (3) ณ.เพื่อขอให้ศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55,78 ตามที่ถูกแก้ไข ดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม ทางพิพาท การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่น ระยะเวลา 10 ปี
การผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1353 แม้จะเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น ก็ทำให้ผู้ที่มิใช่เจ้าของซึ่งผ่านหรือเข้าไปพ้นจากการเป็นผู้ทำละเมิด แต่เจ้าของที่ดินห้ามได้เสมอ เมื่อห้ามแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องตกเป็นผู้ละเมิด ถ้าไม่ห้ามและการผ่านหรือเข้าไปในที่ดินดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจของผู้ผ่านหรือเข้าไปเอง และถ้าเป็นเวลา 10 ปีหรือกว่า 10 ปีขึ้นไป ที่ดินที่ถูกผ่านหรือเข้าไปก็ต้องตกเป็นภาระจำยอม
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอก ฤดุทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมให้ฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอก โจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอก เพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอก ฤดุทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมให้ฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอก โจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอก เพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม ทางพิพาท การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่น การห้าม และการครอบครองปรปักษ์
การผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1353 แม้จะเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าของซึ่งผ่านหรือเข้าไปพ้นจากการเป็นผู้ทำละเมิด แต่เจ้าของที่ดินห้ามได้เสมอ เมื่อห้ามแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องตกเป็นผู้ละเมิด ถ้าไม่ห้ามและการผ่านหรือเข้าไปในที่ดินดังกล่าวโดยอาศัยอำนาจของตนเอง ถ้าเป็นเวลา 10 ปีหรือกว่า 10 ปีขึ้นไปที่ดินนั้นก็ต้องตกอยู่ในภาระจำยอม
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอกฤดูทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมในฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอกโจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอกเพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอกฤดูทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมในฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอกโจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอกเพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขับรถแซงและการใช้ความระมัดระวัง การกระทำไม่เข้าข่ายประมาท
จำเลยขับรถยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเมื่อถนนยังมีช่องว่างพอที่จะขับแซงได้สะดวกและก่อนแซงก็ได้ให้แตรสัญญาณขอทาง เมื่อรถข้างหน้าเปิดทางให้แล้วจึงแซง ทั้งจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วธรรมดา การที่ผู้ตายเดินเซเข้าหารถจำเลยจึงถูกรถจำเลยชน ทั้งๆ ที่จำเลยได้หักรถหลบไปโดนรถคันอื่นแล้วยังไม่พ้นเช่นนี้ จะถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขับรถแซงที่ปลอดภัย: ผู้ตายเดินข้ามถนนผิดกฎหมาย จำเลยไม่ได้ประมาท
จำเลยขับรถยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเมื่อถนนยังมีช่องว่างพอที่จะขับแซงได้สะดวก และก่อนแซงก็ได้ให้แตรสัญญาณขอทาง เมื่อรถข้างหน้าเปิดทางให้แล้วจึงแซง ทั้งจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วธรรมดา การที่ผู้ตายเดินเข้าหารถจำเลยจึงถูกรถจำเลยชน ทั้ง ๆ ที่จำเลยได้หักรถหลบไปโดนรถคันอื่นแล้วยังไม่พ้นเช่นนี้ จะถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องหลังจำเลยให้การ และเงื่อนไขการถอนฟ้องที่ไม่ใช่การประนีประนอม
คดีแพ่ง เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว โจทก์ยื่นคำขอเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องนั้น อำนาจศาลมีอยู่เสมอที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาต หรืออนุญาตภายในเงื่อนไขที่เห็นสมควร ข้อจำกัดมีอยู่แต่เพียงว่า ถ้าศาลอนุญาตจะต้องฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอดถ้าหากมีก่อนเท่านั้น
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับ มาตรา 175(2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับ มาตรา 175(2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องคดีแพ่ง แม้จำเลยไม่คัดค้าน แต่มีเงื่อนไข
คดีแพ่ง เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้วโจทก์ยื่นคำขอเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องนั้น อำนาจศาลมีอยู่เสมอที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตหรืออนุญาตภายในเงื่อนไขที่เห็นสมควรข้อจำกัดมีอยู่แต่เพียงว่า ถ้าศาลอนุญาตจะต้องฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอดถ้าหากมีก่อนเท่านั้น
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับมาตรา 175 (2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับมาตรา 175 (2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจดำเนินคดีของผู้เยาว์: การแก้ไขความบกพร่องด้านความสามารถตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตดำเนินคดีด้วยตนเองเพราะไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม เมื่อศาลได้พิจารณาพฤติการณ์ต่างๆ โดยตลอดแล้ว เห็นว่าโจทก์สามารถดำเนินคดีโดยตนเองได้ จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีได้ตามที่ต้องการ ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 วรรคสุดท้ายนั้น ต้องถือว่าความบกพร่องในเรื่องความสามารถของโจทก์ได้บริบูรณ์แล้ว โจทก์มีอำนาจดำเนินโดยตนเองได้ และคำสั่งของศาลนี้มิใช่กรณีให้โจทก์ดำเนินคดีต่อไปก่อนชั่วคราวในระหว่างแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถตามความในมาตรา 56 วรรคสาม ด้วย