พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,225 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยผู้ใช้อำนาจปกครองเด็ก ต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อน จึงมีผลผูกพัน
ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้แบ่งทรัพย์มรดกแก่ทายาทคนละครึ่งหากแบ่งไม่ตกลงให้ประมูลหรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน นั้น ย่อมหมายความว่า มรดกทุกชิ้นนั้นถ้าเป็นทรัพย์แบ่งได้ ก็ให้เอามาแบ่งกันคนละครึ่งเป็นชิ้นๆไป ถ้าตกลงในการแบ่งเช่นนี้ไม่ได้ ก็ให้ประมูลระหว่างกัน หรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกัน หากทายาททั้งสองตกลงแบ่งทรัพย์มรดกกันนอกศาลเป็นอย่างอื่น ก็ถือว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะเป็นการยอมผ่อนผันให้แก่กันเพื่อระงับข้อพิพาท
ผู้ใช้อำนาจปกครองเด็กจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความนอกศาลโดยมิได้ ขออนุญาตศาลก่อน หาได้ไม่
ผู้ใช้อำนาจปกครองเด็กจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความนอกศาลโดยมิได้ ขออนุญาตศาลก่อน หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักการใช้กฎหมายเก่าเมื่อกฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย และอำนาจสั่งทำลายสิ่งของผิดกฎหมาย
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรค 1 ได้วางหลักให้พิจารณาความผิดและลงโทษจำเลยตามกฎหมายในขณะที่จำเลยกระทำการอันถูกกล่าวหานั้น แม้ถึงว่าได้มีการยกเลิกกฎหมายนั้นแล้ก็ตาม มาตรา 2 วรรค 2 และมาตรา 3 ก็ให้พิจารณาใช้กฎหมายใหม่เฉพาะแต่เมื่อเป็นคุณแก่จำเลยเท่านั้น ถ้ากฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย ก็ยังให้ใช้กฎหมายเก่าบังคับคดี
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกโดยมได้รับอนุญาต และขอให้บังคับเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ คำว่าขอเช่นว่านี้ เป็นคำขอทางอาญาหาใช่คำขอทางแพ่งไม่
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกโดยมได้รับอนุญาต และขอให้บังคับเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ คำว่าขอเช่นว่านี้ เป็นคำขอทางอาญาหาใช่คำขอทางแพ่งไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักการใช้กฎหมายเก่าเมื่อกฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย และอำนาจศาลสั่งทำลายต้นยางพร้อมบังคับค่าใช้จ่าย
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง ได้วางหลักให้พิจารณาความผิดและลงโทษจำเลยตามกฎหมายในขณะที่จำเลยกระทำการอันถูกกล่าวหานั้น แม้ถึงว่าได้มีการยกเลิกกฎหมายนั้นแล้วก็ตาม มาตรา 2 วรรคสอง และมาตรา 3 ก็ให้พิจารณาใช้กฎหมายใหม่เฉพาะแต่เมื่อเป็นคุณแก่จำเลยเท่านั้น ถ้ากฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย ก็ยังให้ใช้กฎหมายเก่าบังคับคดี
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกโดยมิได้รับอนุญาตและขอให้บังคับเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญาหาใช่คำขอทางแพ่งไม่
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกโดยมิได้รับอนุญาตและขอให้บังคับเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญาหาใช่คำขอทางแพ่งไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีเนื่องจากทนายโจทก์อ้างป่วยโดยไม่มีหลักฐาน และจำเลยคัดค้าน
ในคดีอาญา เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วได้นัดสืบพยานจำเลย ครั้นถึงวันนัดทนายโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าป่วยมีใบรับรองแพทย์มาด้วย จำเลยไม่คัดค้านศาลอนุญาตให้เลื่อนไป ครั้นถึงวันนัด ทนายโจทก์อ้างลอย ๆ ว่าป่วยอีก โดยไม่มีหลักฐานอันใดกำกับมาและขอเลื่อนในวันนัดนั้นเอง เมื่อพยานจำเลยก็มาศาลพร้อมที่จะสื่อ และจำเลยก็คัดค้านการขอเลื่อนดังนี้ ที่ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนจึงชอบด้วยเหตุผล และไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใด
การสั่งให้เจ้าพนักงานพร้อมด้วยแพทย์ไปตรวจคู่ความหรือบุคคลที่อ้างว่าป่วยนั้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของศาลที่จะสั่งไปเองโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดขอร้อง
การสั่งให้เจ้าพนักงานพร้อมด้วยแพทย์ไปตรวจคู่ความหรือบุคคลที่อ้างว่าป่วยนั้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของศาลที่จะสั่งไปเองโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดขอร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการแพปลาที่กระทำผิดกฎหมาย: โจทก์ฟ้องเรียกค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการที่ไม่ขออนุญาตได้หรือไม่
จำเลยประกอบกิจการแพปลาโดยมิได้รับอนุญาตและเสียค่าธรรมเนียม ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบกิจการแพปลา พ.ศ. 2496 มาตรา 29, 38 ซึ่งเป็นบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนทางอาญาอยู่แล้ว ฉะนั้น กรมประมงจะฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายหรือค่าธรรมเนียมประกอบกิจการแพปลาตามที่กฎหมายกำหนดอัตราไว้จากจำเลยโดยอ้างว่าจำเลยประกอบกิจการแพปลาโดยมิได้รับอนุญาต และไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมทำให้กรมประมงเสียหายขาดรายได้ ซึ่งควรจะได้รับจากค่าธรรมเนียมตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดอัตราไว้ หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการแพปลาที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยอ้างความเสียหายจากค่าธรรมเนียมที่ควรจะได้ ศาลพิจารณาว่าเป็นการดำเนินการทางอาญา
จำเลยประกอบกิจการแพปลาโดยมิได้รับอนุญาตและเสียค่าธรรมเนียม ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบกิจการแพปลา พ.ศ.2496 มาตรา 29,38 ซึ่งเป็นบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนทางอาญาอยู่แล้ว ฉะนั้น กรมประมงจะฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายหรือค่าธรรมเนียมประกอบกิจการแพปลาตามที่กฎหมายกำหนดอัตราไว้จากจำเลยโดยอ้างว่าจำเลยประกอบกิจการแพปลาโดยมิได้รับอนุญาต และไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมทำให้กรมประมงเสียหายขาดรายได้ซึ่งควรจะได้รับจากค่าธรรมเนียมตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดอัตราไว้ หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเลยใช้สิทธิไถ่ถอนตามสัญญาขายฝาก และผลกระทบต่อการฟ้องขอไถ่ถอนเมื่อพ้นกำหนด
โจทก์ทำสัญญาขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยมีกำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี และมีข้อตกลงกันโดยจำเลยยินยอมให้โจทก์ต่อสัญญาขายฝากใหม่และจะเพิ่มเงินให้ด้วย แต่ที่ยังไม่ไปทำสัญญากันใหม่เพราะจำเลยป่วย เช่นนี้ โจทก์จะมาฟ้องขอไถ่เมื่อพ้นกำหนด 1 ปีโดยถือว่าจำเลย โดยถือว่าจำเลยผิดสัญญาหรือใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขอทางจำเป็นสงวนไว้สำหรับเจ้าของที่ดินเท่านั้น ผู้เช่าหรือผู้อาศัยไม่มีสิทธิฟ้อง
ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดินที่ตกอยู่ในที่ล้อม ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349
โจทก์ปลูกเรือนอยู่ในที่ดินของผู้อื่นโดยเป็นเพียงผู้อาศัย (แม้จะอ้างว่าโจทก์ต้องใช้ทางเดินสายที่ผ่านเข้าไปในที่ดินของจำเลยมาราว 50 ปีแล้ว) แต่โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินอันเป็นสามายทรัพย์ จะมาฟ้องขอให้เปิดทางซึ่งเป็นภารจำยอมเองไม่ได้
โจทก์ปลูกเรือนอยู่ในที่ดินของผู้อื่นโดยเป็นเพียงผู้อาศัย (แม้จะอ้างว่าโจทก์ต้องใช้ทางเดินสายที่ผ่านเข้าไปในที่ดินของจำเลยมาราว 50 ปีแล้ว) แต่โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินอันเป็นสามายทรัพย์ จะมาฟ้องขอให้เปิดทางซึ่งเป็นภารจำยอมเองไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกคดีใหม่หลังหลบหนีคดีเดิม ห้ามหักวันต้องขังซ้ำซ้อน
จำเลยหลบหนีการคุมขังตามคำพิพากษาคดีเดิม และถูกจับมาฟ้องฐานหลบหนีการควบคุมเป็นคดีใหม่ การที่ศาลให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีเดิมนั้น จะให้หักวันต้องขังระหว่างคดีออกจากระยะเวลาจำคุกไม่ได้ เพราะเป็นการหักวันต้องขังซ้อนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกคดีหลบหนีการควบคุม: ห้ามหักวันต้องขังซ้อนกัน
จำเลยหลบหนีการคุมขังตามคำพิพากษาคดีเดิมและถูกจับมาฟ้องฐานหลบหนีการควบคุมเป็นคดีใหม่ การที่ศาลให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีเดิมนั้น จะให้หักวันต้องขังระหว่างคดีออกจากระยะเวลาจำคุกไม่ได้ เพราะเป็นการหักวันต้องขังซ้อนกัน