พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,225 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินยังไม่ระงับ แม้รื้อสร้างใหม่ หากที่ดินยังคงเป็นวัตถุแห่งการเช่า
ทำสัญญาเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย แม้ผู้เช่าจะรื้อเรือนเดิมแล้วปลูกขึ้นใหม่ก็ตาม สัญญาเช่าก็ไม่ระงับเพราะที่ดินอันเป็นวัตถุแห่งการเช่ายังคงมีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ายังไม่ระงับ แม้ปลูกสร้างใหม่บนที่ดินเดิม
ทำสัญญาเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย แม้ผู้เช่าจะรื้อเรือนเดิมแล้วปลูกขึ้นใหม่ก็ตาม สัญญาเช่าก็ไม่ระงับ เพราะที่ดินอันเป็นวัตถุแห่งการเช่ายังคงมีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการนำสืบของโจทก์เมื่อจำเลยขาดนัด และสิทธิในการเพิ่มเติมคำให้การของจำเลย
ในกรณีที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโจทก์ก็ยังมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมฟ้อง เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ในประเด็นเกี่ยวกับข้อนำสืบของโจทก์นั้นได้
ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์มาศาลจำเลยมิได้มา โจทก์แถลงรับหน้าที่นำสืบก่อน ศาลชั้นต้นจึงกำหนดวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ดังนี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 ไม่ เพราะมิได้มีการแถลงในข้อพิพาทกันประการใด จำเลยมีสิทธิขอเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันสืบพยาน
ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์มาศาลจำเลยมิได้มา โจทก์แถลงรับหน้าที่นำสืบก่อน ศาลชั้นต้นจึงกำหนดวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ดังนี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 ไม่ เพราะมิได้มีการแถลงในข้อพิพาทกันประการใด จำเลยมีสิทธิขอเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่อาจทำได้เมื่อทุนทรัพย์พิพาทลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด แม้ฟ้องเดิมจะเกินเกณฑ์
ทุนทรัพย์ตามฟ้องเดิม แม้จะเกินห้าพันบาทแต่คู่ความได้สละข้อหาบางข้อเสียตั้งแต่ในศาลชั้นต้น คงเหลือทุนทรัพย์พิพาทกันต่อมาราคาเพียงสามพันบาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากาาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อยในการบังคับจำเลยเช่นนี้ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: คดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท หลังสละข้อหาบางส่วน
ทุนทรัพย์ตามฟ้องเดิมแม้จะเกินห้าพันบาท แต่คู่ความได้สละข้อหาบางข้อเสียตั้งแต่ในศาลชั้นต้น คงเหลือทุนทรัพย์พิพาทกันต่อมาราคาเพียงสามพันบาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อยในการบังคับจำเลยเช่นนี้ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงเพิกถอนหนี้จากการบันทึกข้อมูลการขายฝากโดยบุตรเจ้าหนี้
ลูกหนี้ไปทำนิติกรรมขายฝากทรัพย์ให้แก่เจ้าหนี้ เงินค่าขายฝากนี้ตกลงกันให้หักใช้หนี้เงินกู้บางส่วน เจ้าหนี้เอาสัญญากู้ให้บุตรชายบันทึกไว้ว่า ลูกหนี้ให้เงินมาเท่าใด คงเหลือเท่าใด และบุตรชายเจ้าหนี้เซ็นชื่อกำกับไว้ ดังนี้ เป็นการที่บุตรชายเจ้าหนี้กระทำแทนเจ้าหนี้ ถือได้ว่าเป็นการแทงเพิกถอนในเอกสารกู้เงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงเพิกถอนในเอกสารกู้เงิน: การกระทำแทนเจ้าหนี้โดยบุตร
ลูกหนี้ไปทำนิติกรรมขายฝากทรัพย์ให้แก่เจ้าหนี้ เงินค่าขายฝากนี้ตกลงกันให้หักใช้หนี้เงินกู้บางส่วน เจ้าหนี้เอาสัญญากู้ให้บุตรชายบันทึกไว้ว่าลูกหนี้ให้เงินมาเท่าใด คงเหลือเท่าใด และบุตรชายเจ้าหนี้เซ็นชื่อกำกับไว้ ดังนี้ เป็นการที่บุตรชายเจ้าหนี้กระทำแทนเจ้าหนี้ ถือได้ว่าเป็นการแทงเพิกถอนในเอกสารกู้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน แม้มีข้อผิดพลาดในการทำสัญญา จำเลยต้องอุทธรณ์ทันที
โจทก์จำเลยทำยอมความยอมแบ่งที่พิพาทกัน และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว เมื่อจำเลยอ้างว่าทำยอมไปโดยความสำคัญผิด ทำให้จำเลยเสียเปรียบ และจำเลยได้เนื้อที่น้อยไปจากแผนที่จำลองท้ายยอมที่ศาลขีดไว้ ส่วนโจทก์กลับได้ที่ดินมากขึ้น ขอให้ศาลเรียกโจทก์มาสอบถามเพื่อสั่งให้โจทก์จำเลยได้ที่ดินตรงตามเหตุผลและตรงตามแผนที่ท้ายยอม ดังนี้ จำเลยชอบทีจะใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 138 แต่ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวก็ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จำเลยจะอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: เจตนาจริงสำคัญกว่าเอกสาร
นิติกรรมอำพรางนั้น หมายถึงบุคคลสองฝ่ายตกลงทำนิติกรรมอันหนึ่ง แต่ไม่แสดงเจตนาออกมาเช่นนั้น แสร้งทำเป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่งเพื่ออำพรางนิติกรรมที่เขาแสดงเจตนาอันแท้จริง ผูกนิติสัมพันธ์กันขึ้นนั้นกฎหมายจึงให้บังคับตามเจตนาอันแท้จริงนั้นได้
กรณีที่จำเลยได้แสดงเจตนาตกลงกับโจทก์ และจดทะเบียนแสดงเจตนานั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของจำเลยไปให้โจทก์เป็นการขายฝากแล้วนั้น จำเลยจะขอสืบพยานว่าพฤติการณ์เป็นจำนอง โดยไม่มีสัญญาจำนองอันแท้จริงอีกอันหนึ่ง หาได้ไม่ เพราะเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
กรณีที่จำเลยได้แสดงเจตนาตกลงกับโจทก์ และจดทะเบียนแสดงเจตนานั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของจำเลยไปให้โจทก์เป็นการขายฝากแล้วนั้น จำเลยจะขอสืบพยานว่าพฤติการณ์เป็นจำนอง โดยไม่มีสัญญาจำนองอันแท้จริงอีกอันหนึ่ง หาได้ไม่ เพราะเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางต้องมีนิติกรรมที่ใช้บังคับได้ทั้งสองอัน การอ้างนิติกรรมต่างจากที่จดทะเบียนเป็นข้อเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคแรก หมายถึงบุคคลสองฝ่ายมิได้มีเจตนาที่จะผูกพิติสัมพันธ์กันอย่างไรเลย หากแต่แสร้งทำเป็นนิติกรรมขึ้นเพื่อลวงบุคคลภายนอก กฎหมายจึงยอมให้บุคคลทั้งสองฝ่ายน้นอ้างอิงความไม่สมบูรณืของนิติกรรมนั้น เพื่อแสดงว่าเป็นโมฆะได้ ส่วนวรรคสองหมายถึงบุคคลสองฝ่ายตกลงกันทำนิติกรรมอันหนึ่ง แต่ไม่แสดงเจตนาออกเช่นนั้น แสร้งทำเป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่ง เพื่ออำพรางนิติกรรมที่เขาแสดงเจตนาอันแท้จริงผูกนิติสัมพันธ์กันขึ้นนั้น กฎหมายจึงให้บังคับตามเจตนาอันแท้จริงที่เขาผูกนิติสัมพันธ์กันนั้นได้
ในกรณีที่จำเลยได้แสดงเจตนาตกลงกับโจทก์และจดทะเบียนแสดงเจตนานั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของจำเลยไปให้โจทก์เป็นการขายฝากแล้วนั้น จำเลยจะขอสืบพยานว่าพฤติการณ์เป็นจำนองโดยไม่มีสัญญาจำนองอันแท้จริงอีกอันหนึ่งเลยหาได้ไม่ เพราะเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2505)
ในกรณีที่จำเลยได้แสดงเจตนาตกลงกับโจทก์และจดทะเบียนแสดงเจตนานั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของจำเลยไปให้โจทก์เป็นการขายฝากแล้วนั้น จำเลยจะขอสืบพยานว่าพฤติการณ์เป็นจำนองโดยไม่มีสัญญาจำนองอันแท้จริงอีกอันหนึ่งเลยหาได้ไม่ เพราะเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2505)