คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประมูล สุวรรณศร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,225 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนาย: ศาลกำหนดตามความเหมาะสม หากไม่มีข้อตกลง ชดใช้แทนกันได้ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
อัตราค่าทนายความท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นอัตราสำหรับศาลจะพิพากษาให้คู่ความชดใช้แทนกันเท่านั้น ส่วนการกำหนดจำนวนค่าจ้างว่าความย่อมเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และในกรณีที่ไม่ปรากฎการตกลงค่าจ้างกันโดยชัดแจ้ง ศาลก็กำหนดให้ตามที่เห็นสมควร แล้วแต่งานที่ทำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราค่าทนายความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และการตกลงค่าจ้างทนายความ
อัตราค่าทนายความท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นอัตราสำหรับศาลจะพิพากษาให้คู่ความชดใช้แทนกันเท่านั้นส่วนการกำหนดจำนวนค่าจ้างว่าความย่อมเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และในกรณีที่ไม่ปรากฏการตกลงค่าจ้างกันโดยชัดแจ้งศาลก็กำหนดให้ตามที่เห็นสมควรแล้วแต่งานที่ทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934-936/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วงตัดไม้เผาถ่าน: การบอกเลิกสัญญาเนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายและการดำเนินการที่ไม่ได้รับอนุญาต
การที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ตัดไม้เผาถ่านได้แล้วไปทำสัญญาให้จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตเข้าดำเนินการตัดไม้เผาถ่านอีกทอดหนึ่งแล้วต่อมาโจทก์ถูกทางราชการสั่งห้ามมิให้เช่าช่วงและได้ทำทัณฑ์บนไว้ว่าจะไม่ฝ่าฝืนโจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับจำเลยก่อนกำหนดเวลาในสัญญาที่ทำไว้ดังนี้ จำเลยจะเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาจากโจทก์ไม่ได้เพราะการได้รับอนุญาตทำไม้นั้นเป็นการเฉพาะตัวซึ่งจำเลยก็รู้อยู่แล้ว แต่ได้เข้าทำสัญญาโดยเสี่ยงต่ออุปสรรคที่จะเกิดขึ้น(ประชุมใหญ่ ครั้งที่15/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934-936/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วงตัดไม้ผิดกฎหมาย: โจทก์บอกเลิกสัญญาได้โดยไม่ต้องรับผิดค่าเสียหาย
การที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ตัดไม้เผาถ่านได้แล้วไปทำสัญญาให้จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตเข้าดำเนินการตัดไม้เผาถ่านอีกทอดหนึ่ง แล้วต่อมาโจทก์ถูกทางราชการสั่งห้ามมิให้เช่าช่วงและได้ทำทัณฑ์บนไว้ว่าจะไม่ฝ่าฝืน โจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับจำเลยก่อนกำหนดเวลาในสัญญาที่ทำไว้ ดังนี้ จำเลยจะเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาจากโจทก์ไม่ได้ เพราะการได้รับอนุญาตทำไม้นั้นเป็นการเฉพาะตัวซึ่งจำเลยก็รู้อยู่แล้ว แต่ได้เข้าทำสัญญาโดยเสี่ยงต่ออุปสรรคที่จะเกิดขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กฎหมายเก่าบังคับคดีเมื่อกฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย และคำขอให้ทำลายต้นยางเป็นคำขอทางอาญา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรค 1 วางหลักให้พิจารณาความผิดของจำเลยและลงโทษตามกฎหมายในขณะที่จำเลยกระทำการอันถูกกล่าวหานั้นและแม้ว่าได้มีการยกเลิกกฎหมายนั้นเสียแล้วมาตรา 2 วรรค 2 และมาตรา 3 ก็ให้พิจารณาใช้กฎหมายใหม่เฉพาะแต่เมื่อเป็นคุณแก่จำเลยเท่านั้น ถ้ากฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย ก็ยังใช้กฎหมายเก่าบังคับคดี
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกใหม่โดยมิได้รับอนุญาตและขอให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ.2481 มาตรา 15 คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญา หาใช่คำขอทางแพ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาลงโทษอาญาตามกฎหมายเก่าหรือใหม่ และอำนาจศาลสั่งทำลายต้นยางพร้อมเรียกค่าใช้จ่าย
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรค 1 วางหลังให้พิจารณาควาาผิดของจำเลยและลงโทษตามกฎหมายในขณะที่จำเลยกระทำการอันถูกล่าวหานั้น และแม้ว่าได้มีการยกเลิกกฎหมายนั้นเสียแล้วมาตรา 2 วรรค 2 และมาตรา 3 ก็ให้พิจารณาใช้กฎหมายใหม่เฉพาะแต่เมื่อเป็นคุณแก่จำเลยเท่านั้นถ้ากฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย ก็ยังใช้กฎหมายเก่าบังคับคดี
อัยการมีอำจาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกใหม่ โดยมิได้รับอนุญาต และขอให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. 2481 มาตรา 15 คำขอเช่นว่านี้เป็น คำขอทางอาญา หาใช่คำขอทางแพ่งไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งริบของกลางที่สูญหาย: ศาลไม่อาจริบหากทรัพย์สินไม่อยู่ในสภาพที่จะตกเป็นของแผ่นดินได้
อาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองผิดกฎหมาย แต่จำเลยได้ขว้างทิ้งลงแม่น้ำก่อนได้ตัวจำเลยมาสอบสวน ศาลย่อมไม่สั่งริบตามที่โจทก์ขอให้ริบและกรณีเช่นนี้โจทก์ก็จะขอบังคับให้จำเลยส่งปืนของกลางภายในกำหนดหรือให้จำเลยชำระราคาปืนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 37 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางที่สูญหาย: ศาลไม่อาจสั่งริบทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในสภาพที่แผ่นดินจะยึดถือเป็นเจ้าของได้
อาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองผิดกฎหมาย แต่จำเลยได้ขว้างทิ้งลงแม่น้ำก่อนได้ตัวจำเลยมาสอบสวนศาลย่อมไม่สั่งริบตามที่โจทก์ขอให้ริบ และกรณ๊เช่นนี้โจทก์ก็จะขอบังคับให้จำเลยส่งปืนของกลางภายในกำหนดหรือให้จำเลยชำระราคาปืนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 37 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้และการมีเจตนาฆ่า พิจารณาจากพฤติการณ์ก่อนและหลังการกระทำ
ก.การที่จำเลยโดดลงจากเรือนพูดว่า แน่รืแล้วต่างก็เข้าต่อสู้กับผู้ตาย ภายหลังที่ผู้ตายร้องท้าจำเลยนั้น เป็นการสมัครใจเข้าต่อสู้ มิใช่เป็นการป้องกันตัว
ข.การที่จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 แขน กระโดดลงจากเรือนไปต่อสู้กับผู้ตายและฟันผู้ตายถึง 3 แห่ง แผลที่สำคัญถูกที่คอเกือบขาดนั้น แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา มาตรา 288 ปรมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้และเจตนาฆ่า: การพิเคราะห์การป้องกันตัวและการใช้กำลังเกินเหตุในคดีฆ่าคนตาย
ก. การที่จำเลยโดดลงจากเรือพูดว่าแน่รึ แล้วต่างก็เข้าต่อสู้กับผู้ตาย ภายหลังที่ผู้ตายร้องท้าจำเลยนั้นเป็นการสมัครใจเข้าต่อสู้ มิใช่เป็นการป้องกันตัว
ข. การที่จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 แขนกระโดดลงจากเรือนไปต่อสู้กับผู้ตายและฟันผู้ตายถึง 3 แห่ง แผลที่สำคัญถูกที่คอเกือบขาดนั้นแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา มาตรา 288 ประมวลกฎหมายอาญา
(ข้อ ข.ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2505)
of 323