คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประมูล สุวรรณศร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,225 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของ ผวจ. และการใช้ข้อเท็จจริงจากคดีอาญาในคดีแพ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะที่เป็นบุคคลธรรมดาโดยตำแหน่งหน้าที่ราชการในขอบเขตแห่งวงหน้าที่ราชการ ย่อมมีอำนาจเป็นคู่ความในศาลได้ เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่าง ปลัดจังหวัดเป็นผู้รักษาการแทนปลัดจังหวัดก็ย่อมเป็นบุคคลที่จะเป็นโจทก์ ฟ้องร้องได้ในฐานเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา มาตรา 47 ที่ว่า คำพิพากษาคดีส่วนแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่ง นั้น ไม่ได้หมายถึงว่า จะไปกลับข้อเท็จจริงที่จำต้องรับฟังคำพิพากษาในคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของข้าราชการ & ผลคดีอาญาที่มีผลผูกพันคดีแพ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะที่เป็นบุคคลธรรมดาโดยตำแหน่งหน้าที่ราชการในขอบเขตแห่งวงหน้าที่ราชการ ย่อมมีอำนาจเป็นคู่ความในศาลได้เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่าง ปลัดจังหวัดเป็นผู้รักษาการแทนปลัดจังหวัดก็ย่อมเป็นบุคคลที่จะเป็นโจทก์ฟ้องร้องได้ในฐานเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 47 ที่ว่าคำพิพากษาคดีส่วนแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่ง นั้นไม่ได้หมายถึงว่าจะไปกลับข้อเท็จจริงที่จะต้องรับฟังตามคำพิพากษาในคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันสุดท้ายอุทธรณ์เป็นวันหยุด-ราชการ ต้องนับวันทำงานใหม่เป็นวันสิ้นสุดอายุอุทธรณ์ การออกหมายแดงชอบแล้ว
เมื่อวันสิ้นหรือวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์ เป็นวันอาทิตย์หรือวันหยุด ต้องนับวันเริ่มทำงานใหม่เป็นวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์
'นักโทษเด็ดขาด'ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2500 ให้หมายความว่า นักโทษเด็ดขาดตาม พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2479 ซึ่งหมายแดงแจ้งโทษเด็ดขาดได้ออกก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันสิ้นสุดอายุอุทธรณ์ตรงกับวันหยุด ต้องนับวันทำงานใหม่เป็นวันสุดท้าย และผลต่อการได้รับพระราชทานอภัยโทษ
เมื่อวันสิ้นหรือวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์ เป็นวันอาทิตย์หรือวันหยุด ต้องนับวันเริ่มทำงานใหม่เป็นเป็นวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์
นักโทษเด็ดขาด ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2500 ให้หมายความว่า นักโทษเด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 ซึ่งหมายแดงแจ้งโทษเด็ดขาดได้ออกก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องจำเลยที่ยังไม่เคยถูกฟ้องในคดีการพนัน แม้จะมีจำเลยอื่นถูกฟ้องไปแล้ว ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ และจำเลยต้องพิสูจน์ตนเอง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับจำเลยในคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้ว เล่นการพนันไพ่ผ่องไทยโดยไม่ได้รับอนุญาติ ดังนี้ ถือว่า จำเลยที่โจทก์ฟ้องนี้ ยังมิได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด ประการใด เพราะจำเลยยังไม่เคยถูกฟ้อง โจกท์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยยังไม่เคยถูกฟ้อง โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยในคดีนี้ได้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
เมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยอยู่ในวงเล่นการพนันแล้ว คดีก็เข้าอยู่ในข้อสันนิษฐาน ของ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 6 เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสือหักล้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีการพนันซ้ำ – สิทธิฟ้องของโจทก์ แม้จำเลยอื่นเคยถูกฟ้องแล้ว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับจำเลยในคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้ว เล่นการพนันไพ่ผ่องไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ถือว่าจำเลยที่โจทก์ฟ้องนี้ยังมิได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดประการใดเพราะจำเลยยังไม่เคยถูกฟ้องโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยในคดีนี้ได้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
เมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยอยู่ในวงเล่นการพนันแล้วคดีก็เข้าอยู่ในข้อสันนิษฐานของ พระราชบัญญัติการพนันพ.ศ.2478 มาตรา 6 เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบหักล้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบและการใช้พยานผู้เชี่ยวชาญ: ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความนำสืบพยานหลักฐานอื่นประกอบ แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมีความเห็นแล้ว
เมื่อคู่ความฝ่ายใดรับจะนำสืบก่อนฝ่ายนั้นก็ต้องนำสืบก่อน โดยไม่ต้องคำนึงว่าตามรูปคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดจะต้องนำสืบก่อน
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นต์ผู้ทำพินัยกรรม แต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้น เป็นเด็ดขาดไม่ได้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอม ลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 126

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบเมื่อรับจะนำสืบก่อน และการใช้ผลตรวจลายมือชื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบคดี
เมื่อคู่ความฝ่ายใดรับจะนำสืบก่อนฝ่ายนั้นก็ต้องนำสืบก่อนโดยไม่ต้องคำนึงว่าตามรูปคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดจะต้องนำสืบก่อน
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้ทำพินัยกรรมแต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้นเป็นเด็ดขาดไม่ได้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอมลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 126

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยเงินจากการขายทอดตลาด: ศาลต้องไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องหนี้สมยอมก่อนพิจารณาคำขอ
เจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษาในคดีอื่น ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินในการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยในคดีหนึ่ง โจทก์คัดค้านว่าหนี้ซึ่งเจ้าหนี้นำมาฟ้องจำเลยนั้นเกิดขึ้นโดยสมยอมกันดังนี้ ศาลจำต้องไต่สวนฟังพยานหลักฐานว่าจำเลยเป็นหนี้จริงหรือไม่ ไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีที่เจ้าหนี้ร้องขอเฉลี่ยเงินเสียก่อน เพราะโจทก์ยืนยันอยู่แล้วว่ามูลหนี้ที่เจ้าหนี้และจำเลยสมยอมกันก่อให้เกิดคำพิพากษาอันไม่มีมูลหนี้ และทำให้โจทก์เสียเปรียบเกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยเงินจากการขายทอดตลาด: ศาลต้องไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องหนี้สมยอมก่อนพิจารณาคำร้อง
เจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษาในคดีอื่น ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินในการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยในคดีหนึ่งโจทก์คัดค้านว่าหนี้ซึ่งเจ้าหนี้นำมาฟ้องจำเลยนั้นเกิดขึ้นโดยสมยอมกันดังนี้ ศาลจำต้องไต่สวนฟังพยานหลักฐานว่าจำเลยเป็นหนี้จริงหรือไม่ไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีที่เจ้าหนี้ร้องขอเฉลี่ยเงินเสียก่อนเพราะโจทก์ยืนยันอยู่แล้วว่ามูลหนี้ที่เจ้าหนี้นำมาฟ้องจำเลยในคดีนั้นไม่มีอยู่จริงเจ้าหนี้และจำเลยสมยอมกันก่อให้เกิดคำพิพากษาอันไม่มีมูลหนี้และทำให้โจทก์เสียเปรียบเกิดขึ้น
of 323