พบผลลัพธ์ทั้งหมด 64 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3081/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทมารดาถือเป็นการประพฤติเนรคุณ โจทก์มีสิทธิเรียกคืนทรัพย์สินที่ยกให้ได้
โจทก์ยกที่ดินให้จำเลย และให้จำเลยยืมเงินอีกจำนวนหนึ่ง ต่อมาโจทก์ไปทวงเงินคืนจากจำเลย จำเลยไม่ยอมคืนกลับด่าโจทก์ผู้เป็นมารดาว่า "อีสำเพ็ง อีหัวหงอก กูไม่ให้อยากจะได้ให้ไปฟ้องร้องเอา" การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง ตามความหมายของ ป.พ.พ. มาตรา 531 (2) อันเป็นการประพฤติเนรคุณ โจทก์เรียกถอนคืนการให้ที่ดินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3081/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทมารดาและการเรียกคืนที่ดินที่ยกให้โดยเสน่หา
โจทก์ไปทวงเงิน 2,500 บาท คืนจากจำเลย จำเลยด่าโจทก์ซึ่งเป็นมารดาว่า "อีสำเพ็ง อีหัวหงอก กูไม่ให้ อยากได้ให้ไปฟ้องร้องเอา" การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามความหมายของ ป.พ.พ. มาตรา 531(2) อันเป็นการประพฤติเนรคุณโจทก์ชอบที่จะเรียกถอนคืนการให้ที่ดินที่โจทก์ยกให้จำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้บุตรแล้วบุตรพูดถึงสิทธิในที่ดิน ไม่ถือเป็นการประพฤติเนรคุณ
จำเลยซึ่งเป็นบุตรโจทก์ได้พูดกับโจทก์ว่า "แม่จะไปอยู่ที่ไหนก็ตามใจแม่เถอะ เพราะที่นี่เป็นสิทธิขาดของผมแล้ว" เป็นเพียงคำพูดยืนยันว่าที่ดินที่โจทก์ยกให้นั้นเป็นของจำเลยแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิในที่ดิน โจทก์พอใจจะอยู่หรือจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่พูดขับไล่โจทก์ออกไปจากที่ดินของจำเลยไม่ถือว่าเป็นการประพฤติเนรคุณโดยการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 531(2) เพียงแต่เป็นคำพูดที่บุตรไม่ควรพูดกับมารดาซึ่งมีพระคุณของตนเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้ที่ดินและบ้านแก่หลาน เนื่องจากความไม่สมเหตุสมผล และการกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อบุพการี
โจทก์เอาที่ดินที่ยกให้จำเลยไปขายแก่ผู้อื่น จำเลยจึงพูดจากับโจทก์ด้วยถ้อยคำว่า เฒ่า หัวหงอกหัวขาวนานตาย และไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโจทก์ขายที่ดินที่ยกให้จำเลยแก่ผู้อื่น เนื้อหาตลอดจนความหมายแห่งถ้อยคำดังกล่าวมิใช่คำด่า เป็นเพียงคำ พูดจากระทบกระเทือนที่จำเลยไม่สมควรใช้กับโจทก์ซึ่งเป็นบุพการีเท่านั้นการแจ้งความและการใช้ถ้อยคำดังกล่าวกับโจทก์ไม่ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง อันจะเป็นเหตุขอเพิกถอนการให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5452/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดกระทบกระเทียบด้วยความน้อยใจ ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง
จำเลยกล่าวแก่โจทก์ซึ่งเป็นมารดาว่า จำเลยไม่เคยได้อะไรจากโจทก์เลยได้มาแต่หี คำพูดดังกล่าวไม่ได้เน้น ให้ เห็นว่าจำเลยมีเจตนาจะก้าวร้าวหรือด่าว่าโจทก์ หากแต่เป็นการพูดลอย ๆ เพื่อกระทบกระเทียบเปรียบเปรยด้วยความน้อยใจที่น้องสาวพาโจทก์มาขอเงินจำเลยเสียมากกว่า ไม่เป็นหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3847/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากประพฤติเนรคุณ: การด่าทอหยาบคายและประพฤติไม่เคารพผู้ให้
จำเลยที่ 2 ด่าโจทก์ซึ่งเป็นมารดาว่า "เจ้าหยังมาหน้าเข่งแท่ อีหน้าบ่อมีสกุล หน้าบ่อมีสกุลลูกเฒ่าใสมึงอยากเกือกเลือดตี" คำว่า "อีหน้าบ่อมีสกุล" มีความหมายในตัวเป็นที่ทราบได้โดยทั่วไปว่าคนที่ถูกด่าหมายถึงคนนั้นตระกูลเลวทรามหรือคนเกิดมาไม่มีตระกูล และด่าโจทก์อีกว่า"อีหมอความใหญ่ มึงมีเงินพอกระสอบบ่อ ไปซื้อขี้ให้หมากินดีกว่า" เป็นถ้อยคำที่กล่าวไปถึงสัตว์เดรัจฉาน ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาดูหมิ่นโจทก์ผู้เป็นบุพการี หามีความเคารพยำเกรงตามวิสัยของบุตรทั่วไปไม่ เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์มารดาอย่างร้ายแรง เป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) โจทก์เรียกทรัพย์ที่ให้จำเลยที่ 2 โดยเสน่หาคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3031/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประพฤติเนรคุณด้วยคำพูดดูหมิ่นและหมิ่นประมาท ถือเป็นเหตุให้ผู้ให้ถอนคืนการให้ได้
ที่จำเลยด่าโจทก์ว่า "อี หัวอ่อน มึงทำไปเถอะเดี๋ยว มึงก็ตายมึงขโมยวัดที่ดินกู กูจะสู้มึง ถึงไม่ได้สักหน่อยกูก็จะเอา กูไม่นับถือมึงหรอก" นั้น จำเลยใช้คำพูดขึ้นมึงกูกับโจทก์ซึ่งเป็นมารดาของตนเอง แสดงว่าสิ้นความเคารพนับถือยำเกรงอยู่แล้วทั้งยังกล่าวถ้อยคำหาว่าโจทก์ขโมยวัดที่ดินของจำเลย ถือได้ว่าเป็นการกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง และทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง อันเป็นการประพฤติเนรคุณตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 531(2)โจทก์จึงถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3031/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เนรคุณและการถอนคืนการให้: การใช้คำพูดดูหมิ่นและหมิ่นประมาทมารดาถือเป็นเนรคุณ
ที่จำเลยด่าโจทก์ว่า "อี หัวอ่อน มึงทำไปเถอะ เดี๋ยวมึงก็ตาย มึงขโมยวัดที่ดินกู กูจะสู้มึง ถึงไม่ได้สักหน่อยกูก็จะเอา กูไม่นับถือมึงหรอก" นั้น จำเลยใช้คำพูดขึ้นมึงกูกับโจทก์ซึ่งเป็นมารดาของตนเอง แสดงว่าสิ้นความเคารพนับถือยำเกรงอยู่แล้ว ทั้งยังกล่าวถ้อยคำหาว่าโจทก์ขโมยวัดที่ดินของจำเลย ถือได้ว่าเป็นการกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง และทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง อันเป็นการประพฤติเนรคุณตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) โจทก์จึงถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4105/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงของบุตรต่อมารดา เป็นเหตุให้ถอนคืนการให้ได้
โจทก์พูดห้ามปรามมิให้จำเลยขายที่ดินที่โจทก์ยกให้ จำเลยชี้หน้าด่าโจทก์ด้วยเสียงอันดังว่า "อีเฒ่า หน้าด้าน อีเฒ่า หน้าหมาอีเฒ่า หมาแม่ ไม่นับถือว่ามึงเป็นแม่กูหรอกจะไปตายที่ไหนก็ไปกูบ่ เลี้ยงมึงแล้ว กูจะขายมึงอยากได้ให้ไปฟ้องเอา" การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) อันเป็นการประพฤติเนรคุณที่โจทก์จะเรียกถอนคืนการให้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4105/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประพฤติเนรคุณและการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ถอนคืนการให้ได้
โจทก์พูดห้ามปรามมิให้จำเลยขายที่ดินที่โจทก์ยกให้ จำเลยชี้หน้าด่าโจทก์ด้วยเสียงอันดังว่า "อีเฒ่า หน้าด้าน อีเฒ่า หน้าหมาอีเฒ่า หมาแม่ ไม่นับถือว่ามึงเป็นแม่กูหรอกจะไปตายที่ไหนก็ไปกูบ่เลี้ยงมึงแล้ว กูจะขายมึงอยากได้ให้ไปฟ้องเอา" การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) อันเป็นการประพฤติเนรคุณที่โจทก์จะเรียกถอนคืนการให้ได้