คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จำรูญ โปษยานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 264 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และผลกระทบต่อการรอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปี ลดตาม กฎหมาย มาตรา 59หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือนแต่ให้รอการลงอาญาไว้ศาลอุทธรณ์แก้กำหนดโทษเป็น 3 ปีลดตาม มาตรา 59 เหลือ 2 ปี เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2486

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์และการพิจารณาของศาลฎีกาเกี่ยวกับความเหมาะสมของโทษ
สาลชั้นต้นลงโทสจำคุก 1 ปี ลดตาม ก. ม.มาตรา 59 หนึ่งไนสามคงจำคุก 8 เดือน แต่ไห้รอการแก้กำหนดโทสเปน 3
ปีลดตาม ม.59 เหลือ 2 ปีเช่นนี้เปนการแก้มาก คู่ความดีกาไนข้อเท็ดจิงได้
ป.ช.ย.ครั้งที่ 17/2485

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้จัดการบริษัทยกเว้นโทษจากการตั้งผู้รักษาเงินใหม่โดยสุจริตเพื่อประโยชน์บริษัท
ผู้จัดการบริษัททำบันทึกเสนอรองประธานกรรมการบริษัทขอตั้งผู้รักษาเงินอีกคนหนึ่งต่างหากจากสมุห์บัญชี โดยกล่าวว่าสมุห์บัญชีเป็นคนไม่สามารถเพราะไม่เต็มเต็งไม่มีภูมิรู้ทางบัญชี ไม่เอาใจใส่ต่อคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี ชอบทะเลาะกับพนักงานของบริษัท ต้องซื้อข้าวแกงรับประทาน ดังนี้ทำโดยสุจริตเพื่อป้องกันประโยชน์ของบริษัท ย่อมได้ยกเว้นโทษตามมาตรา 283
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2487

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถของพนักงานโดยสุจริตเพื่อประโยชน์ของบริษัทได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมาย
ผู้จัดการบริสัททำบันทึกเสนอรองประธานกัมการบริสัทขอตั้งผู้รักสาเงินอีกคนหนึ่งต่างหากจากสมุห์บันชีโดยกล่าวว่าสมุห์บันชีเปนคนไม่สามาถเพราะไม่เต็มเต็งไม่มีภูมิรู้ทางบัญชี ไม่เอาไจไส่ต่อคำแนะนำของนายกรัถมนตรีชอบทุเลาะกับพนักงานของบริสัท ต้องซื้อเข้าแดงรับประทานดังนี้ ทำโดยสุจริตเพื่อป้องกันประโยชน์ของบริสัท ย่อมได้ยกเว้นโทสตามมาตรา 283

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือหย่าโดยความยินยอม ไม่ต้องมีพยานลงชื่อก็สมบูรณ์
หนังสือหย่าที่หย่ากันโดยความยินยอมนั้นหย่าไม่จำเป็นต้องลงชื่อต่อหน้าพยานก็สมบูรณ์
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19/2487

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือหย่าโดยความยินยอม ไม่จำเป็นต้องลงชื่อต่อหน้าพยาน
หนังสือหย่าที่หย่ากันโดยความยินยอมนั้นไม่จำเปนต้องลงชื่อต่อหน้าพยานท์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยคำพูดถือเป็นการละเมิดตามกฎหมายแพ่งและอาญา ผู้ถูกหมิ่นมีสิทธิได้รับค่าเสียหาย
ไนเรื่องหมิ่นประมาทเขาซึ่งหน้า+เปนผิดถามละหุโทสนั้น ถือว่าเปนการทำลเมิดตามประมวนกดหมายแพ่งและพานิชมาตรา 420 ซึ่งสาลคำนวนหาเสียหายไห้ตามควรแก่พรึติการน์ตามมาตรา 438
คำว่าสิทธิหมายถึงประโยช์อันบุคคล+หยู่และบุคคลอื่นต้องเคารพหรือได้รับการรับรองและคุมครองของกดหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทเขาหน้าเป็นละเมิด: ค่าเสียหายตามพฤติการณ์
ในเรื่องหมิ่นประมาทเขาซึ่งหน้าอันเป็นผิดฐานลหุโทษนั้นถือว่าเป็นการทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา420 ซึ่งศาลคำนวณค่าเสียหายให้ตามควรแก่พฤติการณ์ตามมาตรา 438
คำว่าสิทธิหมายถึงประโยชน์อันบุคคลมีอยู่และบุคคลอื่นต้องเคารพหรือได้รับการรับรองและคุ้มครองของกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาญาจากการแจ้งเท็จ, อาฆาตมาดร้าย, และการสมคบกันทำผิด
การแสดงความอาฆาตมาดร้ายตามมาตรา 30 จะต้องเป็นเรื่องแสดงอาฆาตจะก่อการร้ายอันเป็นผิดทางอาญา
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหาเสนอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหาเมื่อเสนอไปแล้วภายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรายงานไว้แต่เดิมก็อาจมีผิดฐานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้เขาถูกจับกุมจะเป็นผิดตามมาตรา 270 หรือไม่นั้น ถ้าเป็นการที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
แสดงเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทก์เข้าเป็นผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทก์เป็นผู้เสียหายในความผิดตามมาตรา 123 และ154
พลเรือนสมคบกับตำรวจทำผิดถ้าไม่ได้ฟ้องตำรวจด้วย ก็ย่อมฟ้องพลเรือนต่อศาลพลเรือนได้ อ้างฎีกาที่ 622/2486

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาท, และความผิดฐานแสดงอาคตมาดร้าย: เงื่อนไขความผิดและการฟ้องร้อง
การสแดงความอาคาตมาดร้ายตามมาตรา 30 จะต้องเปนเรื่องสแดงอาคาตจะก่อการร้ายอันเปนผิดทางอาญา
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหา+ นอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหา เมื่อเสนอไปแล้วพายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อไห้เข้าใจว่า + รายงานไว้แต่เดิมก็อาดมีผิดถานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเปนเหตุไห้ + ถูกจับกุมจะเปนผิดตามมาตา 270 หรือไม่น้น ถ้าเปนการนีที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
สแดงคนสนิชชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทเข้าเปนผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทเปนผู้เสียหายแทนความผิดตามมาตรา 123 และ154 พลเรือนสมคบกับตำหรวดทำ + ถ้าไม่ได้ฟ้องตำหรวดด้วย ก็ผู้ + พลเรือนต่อสาลพลเรือนได้ + ที่ 622/2486
of 27