พบผลลัพธ์ทั้งหมด 264 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 754/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเงินของกลางในความผิด พ.ร.บ.เงินตราฯ: ความแตกต่างระหว่างมาตรา 27(1) และ 28
ไนคดีที่จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.เงินตราไนภาวะฉุกเฉิน พ.ส.2485 ม.5 นั้น สาลจะริบเงินเหรียนของกลางตามกดหมายลักสนะอาญา ม.27 (1) ไม่ได้
อ้างดีกาที่ 526/2486
อธิบายความหมายอันต่างกันระหว่างมาตรา 27 (1) กับมาตรา 28.
อ้างดีกาที่ 526/2486
อธิบายความหมายอันต่างกันระหว่างมาตรา 27 (1) กับมาตรา 28.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 754/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์: สิ่งของใช้หรือมีไว้เพื่อกระทำผิด ไม่ใช่ความผิดเอง
การริบทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 27(1) ซึ่งมีความว่าสิ่งของที่บุคคลใช้หรือมีไว้สำหรับกระทำผิดนั้น หมายถึงใช้กระทำผิดหรือมีไว้เพื่อกระทำผิด ไม่ใช่หมายถึงการใช้หรือการมีไว้นั้นเองเป็นความผิด ซึ่งเป็นเรื่องของมาตรา 28 ในคดีที่จำเลย มีความผิด ตามพระราชบัญญัติเงินตราในภาวะฉุกเฉิน พ.ศ.2485 มาตรา 5นั้น จะริบเงินตราของกลางตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 27(1) ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะ 'โรงเรียนประชาบาล' ไม่ถือเป็น 'สถานที่สำหรับใช้ในการราชการ'
จำเลยบุกรุกเข้าไปไนโรงเรียนประชาบาล ครูไหย่โรงเรียนนั้นได้ไล่ไห้จำเลยออกไป จำเลยยังขืนหยู่ ดังนี้จำเลยไม่มีความผิดถานบุกรุกสถานที่สำหรับไช้ไนราชการโรงเรียนประชาบาลไม่ไช่สถานที่สำหรับไช้ไนราชการ.
อ้างดีกาที่ 1199/2482
อ้างดีกาที่ 1199/2482
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โรงเรียนประชาบาลไม่ใช่สถานที่ราชการ จึงไม่ถือว่าเป็นการบุกรุกสถานที่ราชการ
จำเลยบุกรุกเข้าไปในโรงเรียนประชาบาล ครูใหญ่โรงเรียนนั้นได้ไล่ให้จำเลยออกไป จำเลยยังขืนอยู่ ดังนี้จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุกสถานที่สำหรับใช้ในราชการ โรงเรียนประชาบาลไม่ใช่สถานที่สำหรับใช้ในราชการ อ้างฎีกาที่ 1199/2482
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราษฎรสนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริต มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด แม้ฟ้องผิดฐานตัวการ
จำเลยที่เปนราสดรทำการอุดหนุนแก่จำเลยทีเปนเจ้าพนักงานตำหรวดกะทำความผิดตาม ม.136 นั้นย่อมมีความผิดถานเปนผู้สมรู้ด้วยเจ้าพนักงาน
ฟ้องที่กล่าวว่าจำเลยเปนตัวการกะทำผิด แต่ทางพิจารนาได้ความว่าจำเลยเปนผิดแต่เพียงถานสมรู้นั้นสาลลงโทสได้ไม่นอกคำขอ.
ฟ้องที่กล่าวว่าจำเลยเปนตัวการกะทำผิด แต่ทางพิจารนาได้ความว่าจำเลยเปนผิดแต่เพียงถานสมรู้นั้นสาลลงโทสได้ไม่นอกคำขอ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าพนักงาน: ศาลลงโทษได้ตามฐานความผิดที่พิจารณาได้จริง
จำเลยที่เป็นราษฎรทำการอุดหนุนแก่จำเลยที่เป็นเจ้าพนักงานตำรวจกระทำความผิดตาม มาตรา 136 นั้นย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สมรู้ด้วยเจ้าพนักงาน ฟ้องที่กล่าวว่าจำเลยเป็นตัวการกระทำผิด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นผิดแต่เพียงฐานสมรู้นั้นศาลลงโทษได้ไม่นอกคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทจากการยั่วโทสะและการทำร้ายร่างกายในกลุ่มบุคคล
ผู้เสียหายจะเตะคนอื่น แต่เตะผิดไปถูกเอาจำเลย จำเลยจึงฟันผู้เสียหายไปหนึ่งที ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการยั่วโทสะ เกิดทำร้ายชุลมุนกันเป็นหมู่ใหญ่ เมื่อเลิกแล้วปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ฟังไม่ได้ว่าใครทำร้ายใคร ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานวิวาทตามมาตรา 258
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจากการยั่วโทสะและการวิวาท: การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกายและวิวาท
ผู้เสียหายจะเตะคนอื่น แต่เตะผิดไปถูกเอาจำเลยจำเลยจึงฟันผู้เสียหายไปหนึ่งทีดังนี้ ถือได้ว่าเปนการยั่วโทสะ
เกิดทำร้ายชุลมุนอันเปนหมู่ไหย่เมื่อเลิกล้วปรากตว่ามีผู้ได้รับมาดเจ็บสาหัส ฟังไม่ได้ว่าไครทำร้ายไครดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดถานวิวาทตามมาตรา 258
เกิดทำร้ายชุลมุนอันเปนหมู่ไหย่เมื่อเลิกล้วปรากตว่ามีผู้ได้รับมาดเจ็บสาหัส ฟังไม่ได้ว่าไครทำร้ายไครดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดถานวิวาทตามมาตรา 258
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ ศาลมีอำนาจกำหนดค่าปรับได้ตามความเหมาะสม แม้จะต่ำกว่าขั้นต่ำ
การที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์นั้น ศาลจะลงโทษรวมกันก็ได้และจะกำหนดค่าปรับเท่าไรก็ได้เมื่อไม่เกินขั้นสูงที่กฎหมายกำหนดไว้
กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ปรับไม่เกินวันละ 20 บาท นั้นศาลจะปรับต่ำกว่า 1 บาทก็ได้
กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ปรับไม่เกินวันละ 20 บาท นั้นศาลจะปรับต่ำกว่า 1 บาทก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษปรับกรณีความผิดต่อเนื่อง พ.ร.บ.ทะเบียนพานิช สิทธิศาลในการกำหนดค่าปรับ
การที่โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.ทเบียนพานิชนั้น สาลจะลงโทสรวมกันก็ได้ และจะกำหนดค่าปรับเท่าไรก็ได้เมื่อไม่เกินคั่นสูงที่กดหมายกำหนดไว้
กรนีทีกดหมายกำหนดไห้ปรับไม่เกินวันละ 20 บาท นั้น สาลจะปรับต่ำกว่า 1 บาทก็ได้
กรนีทีกดหมายกำหนดไห้ปรับไม่เกินวันละ 20 บาท นั้น สาลจะปรับต่ำกว่า 1 บาทก็ได้