พบผลลัพธ์ทั้งหมด 643 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62-63/2505
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การบรรยายฟ้องผิดจังหวัดไม่ทำให้ฟ้องเสีย และการนับโทษต่อจากคดีอื่น
                        
                        ในการกระทำผิดเรื่องปล้นทรัพย์รายเดียวกัน โจทก์ฟ้องจำเลย 2 คนเป็นสำนวนหนึ่ง โดยกล่าวว่าเหตุเกิดที่ตำบลคลองชักพระ อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดพระนคร (ซึ่งที่ถูกเป็นจังหวัดธนบุรี) แล้วฟ้องจำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยเป็นอีกสำนวนหนึ่งสำนวนนี้บรรยายฟ้องถูกต้องว่าเหตุเกิดที่จังหวัดธนบุรี ปรากฏว่าจำเลย 2 คนแรกนั้นมีบ้านเรือนอยู่ในอำเภอตลิ่งชันที่เกิดเหตุ ย่อมจะทราบได้ดีว่าที่เกิดเหตุอยู่ในจังหวัดธนบุรีทั้งสถานที่อยู่ที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นต่อสู้และนำสืบก็ว่าอยู่ที่บ้านจำเลยซึ่งอยู่ในอำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรีนั่นเองการที่โจทก์บรรยายฟ้องผิดจังหวัดไปไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในเชิงคดี การผิดพลาดเพียงเท่านี้ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียไป
การที่จำเลยถูกคุมขังและฝากขังในคดีนี้ก่อนหรือหลังคดีอื่นนั้นไม่เป็นข้อสำคัญเมื่อศาลพิพากษาคดีนี้ภายหลังที่พิพากษาคดีอื่นไปแล้ว ก็ย่อมนับโทษต่อจากคดีที่พิพากษาไปแล้วนั้นได้
                                    การที่จำเลยถูกคุมขังและฝากขังในคดีนี้ก่อนหรือหลังคดีอื่นนั้นไม่เป็นข้อสำคัญเมื่อศาลพิพากษาคดีนี้ภายหลังที่พิพากษาคดีอื่นไปแล้ว ก็ย่อมนับโทษต่อจากคดีที่พิพากษาไปแล้วนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62-63/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การฟ้องผิดจังหวัดไม่ทำให้ฟ้องเสีย และการนับโทษต่อเมื่อศาลพิพากษาภายหลัง
                        
                        ในการกระทำผิดเรื่องปล้นทรัพย์รายเดียวกัน โจทก์ฟ้องจำเลย 2 คน เป็นสำนวนหนึ่งโดยกล่าวว่า เหตุเกิดที่ตำบลคลองชักพระ อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดพระนคร (ซึ่งที่ถูกเป็นจังหวัดธนบุรี) แล้วฟ้องจำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยเป็นอีกสำนวนหนึ่ง สำนวนนี้บรรยายฟ้องถูกต้องว่าเหตุเกิดที่จังหวัดธนบุรี ปรากฏว่าจำเลย 2 คนแรกนั้นมีบ้านเรือนอยู่ในอำเภอตลิ่งชันที่เกิดเหตุ ย่อมจะทราบได้ดีกว่าที่เกิดเหตุอยู่จังหวัดธนบุรี ทั้งสถานที่อยู่ที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นต่อสู้และนำสืบก็ว่า อยู่ที่บ้านจำเลยซึ่งอยู่ในอำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี นั่นเอง การที่โจทก์บรรยาย ฟ้องผิดจังหวัดไปไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในเชิงคดี การผิดพลาดเพียงเท่านี้ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียไป
การที่จำเลยถูกคุมขังและฝากขังในคดีนี้ก่อนหรือหลังคดีอื่นนั้ไม่เป็นข้อสำคัญ เมื่อศาลพิพากษาคดีนี้ภายหลังที่พิพากษาคดีอื่นไปแล้ ก็ย่อมนับโทษต่อจากคดีที่พิพากษาไปแล้วนั้นได้
                                    การที่จำเลยถูกคุมขังและฝากขังในคดีนี้ก่อนหรือหลังคดีอื่นนั้ไม่เป็นข้อสำคัญ เมื่อศาลพิพากษาคดีนี้ภายหลังที่พิพากษาคดีอื่นไปแล้ ก็ย่อมนับโทษต่อจากคดีที่พิพากษาไปแล้วนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การหักวันต้องขังจากกรณีควบคุมตัวตามประกาศคณะปฏิวัติไม่เกี่ยวเนื่องกับคดีปัจจุบัน
                        
                        การที่จำเลยถูกควบคุมในข้อหาประพฤติตนเป็นคนอันธพาลตามประกาศหัวหน้าคณะปฏิวัติ แต่ไม่ถูกควบคุมในคดีที่ศาลพิจารณาพิพากษานั้น จะเอาวันต้องถูกควบคุมฐานเป็นอันธพาลมาหักไม่ได้ เพราะกรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2504
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การหักวันต้องขังจากกรณีถูกควบคุมตัวในข้อหาอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ศาลพิจารณา
                        
                        การที่จำเลยถูกควบคุมในข้อหาประพฤติตนเป็นคนอันธพาลตามประกาศหัวหน้าคณะปฏิวัติ แต่ไม่ถูกควบคุมในคดีที่ศาลพิจารณาพิพากษานั้น  จะเอาวันต้องถูกควบคุมฐานเป็นอันธพาลมาหักไม่ได้ เพราะกรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2503
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การนับโทษต่อ จำเป็นต้องมีการสอบถามจำเลยและรับรองว่าเป็นคนเดียวกัน
                        
                        การสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีก่อนนั้น จะกระทำได้ต่อเมื่อความปรากฏว่าจำเลยเป็นคนๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีก่อนซึ่งศาลลงโทษไปแล้วการที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธความผิด ไม่ได้พูดถึงเรื่องโจทก์ขอให้นับโทษต่อกันแต่ก็มิได้มีการสอบถามจดบันทึกในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อไว้แต่ประการใดเช่นนี้ ยังไม่มีทางนับโทษต่อให้ได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การนับโทษต่อ: จำเลยต้องยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับในคดีก่อน ศาลต้องสอบถามและจดบันทึกไว้
                        
                        การสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีก่อนนั้น จะกระทำได้ต่อเมื่อความปรากฏว่าเป็นคน ๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีก่อน ซึ่งศาลลงโทษไปแล้ว การที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธความผิด ไม่ได้พูดถึงเรื่องโจทก์ขอให้นับโทษต่อกัน แต่ก็มิได้มีการสอบถามจดบันทึกในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อไว้แต่ประการใด เช่นนี้ ยังไม่มีทางนับโทษต่อให้ได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การนับโทษจำคุกต้องรอคดีความที่ยังไม่สิ้นสุด
                        
                        ศาลจะสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาได้หาไม่
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2503
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การนับโทษจำคุกต้องรอให้คดีที่อ้างอิงถึงสิ้นสุดการพิจารณา
                        
                        ศาลจะสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาหาได้ไม่
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 329(4) และอำนาจศาลในการนับโทษ
                        
                        ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา329 (4) บัญญัติถึงกรณีที่ว่า ได้มีการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุมแล้วได้มีการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมในเรื่องนั้น ๆ
จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะจำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้น ผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่ง ๆ เริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้
                                    จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะจำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้น ผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่ง ๆ เริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2503
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4) และอำนาจศาลในการนับโทษ
                        
                        ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4) บัญญัติถึงกรณีที่ว่าได้มีการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม แล้วได้มีการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมในเรื่องนั้นๆ
จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะ จำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้นผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่งๆเริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้
                                    จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะ จำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้นผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่งๆเริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้