คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 138

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,028 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงให้ศาลวินิจฉัยสิทธิปกครองบุตรและค่าอุปการะเลี้ยงดูหลังหย่า คำพิพากษาถือเป็นที่สุด
การที่โจทก์จำเลยตกลงกันให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยประเด็นที่ว่าโจทก์หรือจำเลยสมควรเป็นผู้ปกครองบุตรทั้งสองกับประเด็นเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดู โดยไม่ต้องมีการสืบพยานกันต่อไป โดยโจทก์จำเลยแถลงเรื่องฐานะและรายได้ต่อศาลเพื่อประกอบการวินิจฉัยดังนี้ เท่ากับคู่ความตกลงกันให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดในประเด็นที่กล่าวมาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดไปตามประเด็นที่ตกลงกันโดยพิจารณาตามเหตุผลที่เห็นว่าสมควรและเหมาะสม และไม่ปรากฏว่าคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อเหตุผลอย่างไรแล้ว ก็ต้องบังคับคดีไปตามคำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าว จำเลยจะโต้เถียงว่าตนเป็นผู้สมควรจะปกครองบุตรมากกว่าโจทก์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงให้ศาลวินิจฉัยสิทธิปกครองบุตรและค่าอุปการะเลี้ยงดู ย่อมผูกพันคู่ความ
การที่โจทก์จำเลยตกลงกันให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยประเด็นที่ว่าโจทก์หรือจำเลยสมควรเป็นผู้ปกครองบุตรทั้งสองกับประเด็นเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูโดยไม่ต้องมีการสืบพยานกันต่อไปโดยโจทก์จำเลยแถลงเรื่องฐานะและรายได้ต่อศาลเพื่อประกอบการวินิจฉัยนั้น เท่ากับคู่ความตกลงกันให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดในประเด็นที่กล่าวหา เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดไปตามประเด็นที่ตกลงกันโดยพิจารณาตามเหตุผลที่เห็นว่าสมควรและเหมาะสม และไม่ปรากฏว่าคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อเหตุผลอย่างไรแล้วก็ต้องบังคับคดีไปตามคำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าว จำเลยจะโต้เถียงว่าตนเป็นผู้สมควรจะปกครองบุตรมากกว่าโจทก์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาททั้งหมด รวมทั้งฟ้องแย้ง ถือเป็นอันเสร็จเด็ดขาด
โจทก์ฟ้องและจำเลยฟ้องแย้งเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งชำระเงินแก่ตน คดีเสร็จเด็ดขาดไปโดยคู่ความได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้มีคำพิพากษาตามยอม สัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 2ได้ระบุไว้ว่า โจทก์จำเลยต่างไม่ติดใจเรียกร้องอื่นใดกันอีกซึ่งหมายความว่า จำเลยได้สละข้อเรียกร้องของตนตามฟ้องแย้งแล้วถือว่าข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยได้ระงับสิ้นไปด้วยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852และคำพิพากษาตามยอมของศาลแรงงานกลางได้พิพากษารวมถึงข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยด้วยแล้ว ศาลแรงงานกลางไม่จำต้องมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความครอบคลุมฟ้องแย้ง ยุติข้อเรียกร้องทั้งหมด
โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยฟ้องเรียกเงินจากจำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง และฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินแก่จำเลยในวันนัดสืบพยานคู่ความตกลงกันได้โดยขอให้ศาลทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 1ระบุว่า จำเลยยอมใช้เงินแก่โจทก์ ส่วน ข้อ 2 ระบุว่า โจทก์จำเลยต่างไม่ติดใจเรียกร้องอื่นใดอีก ดังนี้ ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยได้สละข้อเรียกร้องของตนตามฟ้องแย้งแล้ว ข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยได้ระงับสิ้นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 852 และคำพิพากษาตามยอมของศาลแรงงานกลางก็เป็นการพิพากษารวมถึงข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยด้วยแล้ว จำเลยจะขอให้ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษา หรือคำสั่งในส่วนเกี่ยวกับ ฟ้องแย้งของจำเลย ต่อไปมิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความครอบคลุมฟ้องแย้ง สละสิทธิเรียกร้อง
โจทก์ฟ้องและจำเลยฟ้องแย้งเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งชำระเงินแก่ตน ครั้นถึงวันนัดสืบพยาน คู่ความยอมตกลงกันตามที่ศาลแรงงานกลางไกล่เกลี่ย ศาลแรงงานกลางจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความและได้มีคำพิพากษาตามยอม ในวันนั้นตามข้อ 2 แห่งสัญญาประนีประนอมยอมความได้ระบุไว้ว่า โจทก์จำเลยต่างไม่ติดใจเรียกร้องอื่นใดกันอีก ซึ่งหมายความว่า จำเลยได้สละข้อเรียกร้องของตนตามฟ้องแย้งแล้ว ถือว่าข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยได้ระงับสิ้นไปด้วยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 และคำพิพากษาตามยอมของศาลแรงงานกลาง ได้พิพากษารวมถึงข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยด้วยแล้ว ศาลแรงงานกลางจึงไม่จำต้องมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลผูกพันระงับข้อเรียกร้องทั้งหมด
โจทก์ฟ้องและจำเลยฟ้องแย้งเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งชำระเงินแก่ตน ครั้นถึงวันนัดสืบพยาน คู่ความยอมตกลงกันตามที่ศาลแรงงานกลางไกล่เกลี่ย ศาลแรงงานกลางจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความและได้มีคำพิพากษาตามยอม ในวันนั้นตามข้อ 2 แห่งสัญญาประนีประนอมยอมความได้ระบุไว้ว่า โจทก์จำเลยต่างไม่ติดใจเรียกร้องอื่นใดกันอีก ซึ่งหมายความว่า จำเลยได้สละข้อเรียกร้องของตนตามฟ้องแย้งแล้ว ถือว่าข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยได้ระงับสิ้นไปด้วยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 และคำพิพากษาตามยอมของศาลแรงงานกลาง ได้พิพากษารวมถึงข้อเรียกร้องตามฟ้องแย้งของจำเลยด้วยแล้ว ศาลแรงงานกลางจึงไม่จำต้องมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยอีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4434/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความที่เกิดจากการถูกฉ้อฉล ศาลเพิกถอนได้
การที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลเพราะถูกโจทก์หลอกว่าเป็นการทำเรื่องถอนฟ้อง โดยโจทก์จะเอาเงินจากจำเลยเพียง 140,000 บาท แต่ความจริงเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยชำระหนี้โจทก์เป็นเงินกว่า 270,000 บาท เป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความเพราะถูกโจทก์ฉ้อฉล จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลเพิกถอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4356/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงใหม่ระหว่างคู่ความหลังทำสัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันและใช้บังคับได้
โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้ดำเนินการตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลสั่งให้นัดพร้อมในวันนัดพร้อม โจทก์ จำเลย ทนายโจทก์ ทนายจำเลยมาศาล โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยในศาลมีข้อความว่า โจทก์จำเลยไม่อาจบังคับตามข้อ 2 ของสัญญาประนีประนอมยอมความจึงให้บังคับตามข้อ 1 แทน ศาลได้บันทึกข้อความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้ว ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าข้อตกลงกันใหม่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ และจำเลยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงกันใหม่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4356/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงใหม่ระหว่างคู่ความย่อมมีผลผูกพัน หากทำโดยใช้ดุลพินิจและสมัครใจ แม้จะเปลี่ยนแปลงสัญญาเดิม
โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้ดำเนินการตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลสั่งให้นัดพร้อม ในวันนัดพร้อมโจทก์ จำเลย ทนายโจทก์ ทนายจำเลยมาศาล โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยในศาลมีข้อความว่า โจทก์จำเลยไม่อาจบังคับตามข้อ 2 ของสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้บังคับตามข้อ 1 แทน ศาลได้บันทึกข้อความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้ว ดังนี้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลยที่จะตกลงกันเองตามความสมัครใจว่าจะบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเพียงใดหรือไม่ โจทก์กับจำเลยอาจตกลงกันเป็นอย่างอื่นได้โดยไม่ถือว่าเป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยจะอ้างว่าข้อตกลงกันใหม่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ และไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงใหม่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4356/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงใหม่แทนที่สัญญาเดิมได้ หากทำโดยความสมัครใจและมีอำนาจใช้ดุลพินิจ
โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้ดำเนินการตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลสั่งให้นัดพร้อมในวันนัดพร้อม โจทก์ จำเลย ทนายโจทก์ ทนายจำเลยมาศาล โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยในศาลมีข้อความว่า โจทก์จำเลยไม่อาจบังคับตามข้อ 2ของสัญญาประนีประนอมยอมความจึงให้บังคับตามข้อ 1 แทน ศาลได้บันทึกข้อความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้ว ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าข้อตกลงกันใหม่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ และจำเลยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงกันใหม่หาได้ไม่.
of 103