คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 138

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,028 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2939/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อไม่สามารถยืนยันได้ ศาลต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
เมื่อผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อในเช็คพิพาทตามคำท้าของโจทก์จำเลยแล้วไม่อาจลงความเห็นยืนยันให้เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดได้ศาลก็ไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะหรือแพ้คดีตามคำท้าต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแม้ตามรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลชั้นต้นจดบันทึกคำท้าของโจทก์จำเลยไว้จะมีข้อความว่าคู่ความไม่ติดใจสืบพยานก็มีความหมายว่าหากผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งตามคำท้าแล้วคู่ความจะไม่ติดใจสืบพยานจะถือว่าในกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญไม่ลงความเห็นคู่ความก็ไม่ติดใจสืบพยานด้วยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2939/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลการตรวจลายมือชื่อไม่ชัดเจน ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติม แม้คู่ความตกลงไม่สืบพยาน
เมื่อผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อในเช็คพิพาทตามคำท้าของโจทก์จำเลยแล้ว ไม่อาจลงความเห็นยืนยันให้เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดได้ศาลก็ไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะหรือแพ้คดีตามคำท้า ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แม้ตามรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลชั้นต้นจดบันทึกคำท้าของโจทก์จำเลยไว้จะมีข้อความว่า คู่ความไม่ติดใจสืบพยาน ก็มีความหมายว่าหากผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งตามคำท้าแล้ว คู่ความจะไม่ติดใจสืบพยาน จะถือว่าในกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญไม่ลงความเห็น คู่ความก็ไม่ติดใจสืบพยานด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2939/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อ ผู้เชี่ยวชาญไม่อาจยืนยันผล ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานอื่นต่อไป
โจทก์จำเลยตกลงท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อที่เซ็นกำกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเช็คผลจากการพิสูจน์ปรากฏว่าผู้เชี่ยวชาญไม่อาจลงความเห็นยืนยันให้เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดตามคำท้าได้ศาลก็ไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะหรือแพ้คดีจึงชอบที่จะรับฟังพยานหลักฐานอื่นของโจทก์จำเลยต่อไป แม้ตามรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลชั้นต้นจดบันทึกคำท้าจะมีข้อความว่าคู่ความไม่ติดใจสืบพยานก็มีความหมายว่าหากผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งตามคำท้าแล้วคู่ความจะไม่ติดใจสืบพยานจะถือว่าในกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญไม่ลงความเห็นคู่ความก็ไม่ติดใจสืบพยานหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังประนีประนอมยอมความ: สิทธิในการจดทะเบียน vs. กรรมสิทธิ์
โจทก์กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้น ดังนี้ โจทก์ได้แต่สิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสองไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิติดตามเอาคืนโฉนดสำหรับที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่ 3 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังประนีประนอม: สิทธิในการจดทะเบียนไม่ใช่กรรมสิทธิ์
โจทก์กับจำเลยที่1ที่2ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นดังนี้โจทก์ได้แต่สิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1300หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1299วรรคสองไม่โจทก์จึงไม่มีสิทธิติดตามเอาคืนโฉนดสำหรับที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่3ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสาบานต่อหน้าศาล: การปฏิบัติตามคำท้าและผลผูกพันทางกฎหมาย
ตามคำท้าของจำเลยไม่ปรากฏว่าต้องทำพิธีกรรมอย่าง ครบถ้วนแบบโบราณ โดยมีพระภิกษุหรือพราหมณ์มาทำพิธีต่อ หน้าพระแก้วมรกตด้วย อันเป็นการชุมนุมเทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกมาเป็นสักขีพยาน เมื่อเจ้าหน้าที่ธุรการของศาลรายงานว่า ตัวโจทก์ได้กล่าวคำสาบานตามที่คู่ความตกลงกันที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามตามคำท้าแล้วดังนี้โจทก์ได้กล่าวคำสาบานตามคำท้าของจำเลย โดยชอบแล้ว จำเลยต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2375/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการลงนามในสัญญาประนีประนอมยอมความต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัท หากไม่เป็นไปตามข้อบังคับ สัญญาเป็นโมฆะ
ในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยส.กรรมการบริษัทจำเลยเพียงคนเดียวลงชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความแทนจำเลยซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยข้อบังคับของจำเลยที่ต้องมีกรรมการของจำเลยตามที่ระบุชื่อไว้ในข้อบังคับจำนวนสองคนร่วมกันลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมไม่สมบูรณ์ไม่มีผลผูกพันจำเลยการที่โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับส.และศาลแรงงานกลางได้พิพากษาตามยอมนั้นจึงเป็นการกระทำโดยละเมิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา138วรรค2(2)ไม่มีผลบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2375/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความไม่สมบูรณ์ หากผู้ลงนามไม่ใช่ผู้มีอำนาจตามข้อบังคับบริษัท
ในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลย ส. กรรมการบริษัทจำเลยเพียงคนเดียวลงชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความแทนจำเลยซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยข้อบังคับของจำเลยที่ต้องมีกรรมการของจำเลยตามที่ระบุชื่อไว้ในข้อบังคับจำนวนสองคนร่วมกันลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทด้วย สัญญาประนีประนอมยอมความย่อมไม่สมบูรณ์ ไม่มีผลผูกพันจำเลย การที่โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ ส. และศาลแรงงานกลางได้พิพากษาตามยอมนั้น จึงเป็นการกระทำโดยละเมิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 วรรค 2(2) ไม่มีผลบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2375/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจลงนามในสัญญาประนีประนอมยอมความต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัท การลงนามโดยกรรมการคนเดียวไม่ผูกพันบริษัท
ในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยส.กรรมการบริษัทจำเลยเพียงคนเดียวลงชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความแทนจำเลยซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยข้อบังคับของจำเลยที่ต้องมีกรรมการของจำเลยตามที่ระบุชื่อไว้ในข้อบังคับจำนวนสองคนร่วมกันลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมไม่สมบูรณ์ไม่มีผลผูกพันจำเลยการที่โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับส. และศาลแรงงานกลางได้พิพากษาตามยอมนั้นจึงเป็นการกระทำโดยละเมิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามป.วิ.พ.มาตรา138วรรคสอง(2)ไม่มีผลบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตสิทธิเครื่องหมายการค้าตามสัญญาประนีประนอมยอมความและการลวงสาธารณชน
คดีก่อนโจทก์จำเลยพิพาทกันเนื่องจากโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนใช้เครื่องหมายการค้าตราม้าลายสำหรับสินค้าจำพวกที่16จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนใช้เครื่องหมายการค้าตราม้าลายสำหรับสินค้าจำพวกที่16(ด)นายทะเบียนไม่จดทะเบียนให้จำเลยจึงฟ้องโจทก์แล้วโจทก์กับจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าทั้งโจทก์จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าตราม้าลายร่วมกันในสินค้าทุกจำพวกที่ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนไว้ศาลพิพากษาตามยอมดังนี้คำว่า"ทุกจำพวก"จึงหมายถึงสินค้าในจำพวกที่16จำเลยจะอาศัยสิทธิตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีก่อนที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราม้าลายสำหรับสินค้าจำพวกที่13ที่โจทก์จดทะเบียนไว้ก่อนแล้วมิได้ เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปหัวและคอม้าลาย และคำว่าหัวม้าลาย กับอักษรโรมันว่าHEADZEBRAส่วนของจำเลยเป็นรูปม้าลายยืนทั้งตัวอยู่ในวงกลมและคำว่าตราม้าลายและอักษรโรมันว่าZEBRABRANDสาระสำคัญของเครื่องหมายการค้าของโจทก์และจำเลยคือรูปม้าลาย เมื่อใช้กับสินค้าชนิดเดียวกันจะทำให้เกิดสับสนและหลงผิดในแหล่งผลิตได้อันนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนจำเลยไม่มีสิทธิขอจดทะเบียนการค้าสำหรับสินค้าจำพวกที่โจทก์ได้จดทะเบียนไว้แล้ว.
of 103