พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,028 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3359/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ การกำหนดวันชำระหนี้ที่ยืดหยุ่น
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยมีข้อความว่า จำเลยสัญญาว่าจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น 30,000 บาท โดยจะผ่อนชำระให้เป็นรายเดือนเดือนละ 500 บาท เริ่มเดือนแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน2524 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น เป็นการกำหนดให้จำเลยชำระเงินเป็นรายเดือนโดยมิได้ระบุวันที่แน่นอน คงระบุเฉพาะเดือนแรกเท่านั้น ฉะนั้น ในเดือนถัดไปจำเลยจะชำระในวันใดก็ได้ เพียงแต่ให้อยู่ในกำหนดของแต่ละเดือน. การที่จำเลยส่งเงินทางธนาณัติเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์เดือนที่สามคือเดือนมกราคม 2525 โดยส่งในวันที่ 21 นั้น ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ตรงตามสัญญาแล้วมิได้ผิดนัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำระหว่างคู่ความในคดี
บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่คู่ความในคดี จะเข้ามาเป็นคู่ความได้ก็แต่ด้วยการร้องสอดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกคดี ไม่มีสิทธิร้องขอเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่คู่ความในคดี จะเข้ามาเป็นคู่ความได้ก็แต่ด้วยการร้องสอดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้ากันในคดีแพ่ง: ผลผูกพันตามคำเบิกความของพยาน และการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเป็นข้อแพ้ชนะ
ข้อตกลงของโจทก์จำเลยต่อหน้าศาลที่มีความว่า หากเจ้าพนักงานที่ดินเบิกความว่าจำเลยชำระตัวเงิน 100,000 บาท ให้แก่ บ. ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่สำนักงานที่ดินเพื่อไถ่ถอนจำนอง โจทก์จะยอมแพ้คดี แต่หากเจ้าพนักงานที่ดินเบิกความว่า ไม่มีการชำระเงิน 100,000 บาทนั้น จำเลยยอมแพ้คดีให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากคำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดิน นั้น เป็นข้อตกลงให้ศาลชั้นต้นสืบพยานที่เป็นเจ้าพนักงานที่ดินในประเด็นข้อเดียวว่า จำเลยได้ชำระตัวเงิน 100,000 บาทให้แก่ บ. เพื่อไถ่ถอนจำนองต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือไม่ แล้วให้วินิจฉัยข้อเท็จจริงนี้นำมาเป็นข้อแพ้ชนะ ข้อตกลงดังนี้จึงเป็นคำท้าของคู่ความ
คำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดินปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดเห็นการชำระเงินตามคำท้า จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่ บ. ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน และสมประสงค์ข้างฝ่ายโจทก์ จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดินปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดเห็นการชำระเงินตามคำท้า จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่ บ. ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน และสมประสงค์ข้างฝ่ายโจทก์ จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าทายต่อหน้าศาล: การสืบพยานเพื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริงเป็นข้อแพ้ชนะ ถือเป็นคำท้าที่ผูกพัน
ข้อตกลงของโจทก์จำเลยต่อหน้าศาลที่มีความว่า หาก เจ้าพนักงานที่ดินเบิกความว่าจำเลยชำระตัวเงิน 100,000บาท ให้แก่ บ.ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่สำนักงานที่ดินเพื่อไถ่ถอนจำนองโจทก์จะยอมแพ้คดี แต่หากเจ้าพนักงานที่ดินเบิกความว่าไม่มีการชำระเงิน 100,000 บาทนั้น จำเลยยอมแพ้คดีให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากคำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดิน นั้นเป็นข้อตกลงให้ศาลชั้นต้นสืบพยานที่เป็นเจ้าพนักงานที่ดินในประเด็นข้อเดียวว่า จำเลยได้ชำระตัวเงิน 100,000 บาท ให้แก่ บ.เพื่อไถ่ถอนจำนองต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือไม่แล้วให้วินิจฉัยข้อเท็จจริงนี้นำมาเป็นข้อแพ้ชนะ ข้อตกลงดังนี้จึงเป็นคำท้าของคู่ความ
คำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดินปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดเห็นการชำระเงินตามคำท้า จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่บ.ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน และสมประสงค์ข้างฝ่ายโจทก์จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำเบิกความของเจ้าพนักงานที่ดินปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดเห็นการชำระเงินตามคำท้า จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่บ.ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน และสมประสงค์ข้างฝ่ายโจทก์จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ค่าธรรมเนียมถอนอายัดเป็นพับ ผู้รับประโยชน์ต้องชำระ
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้าศาลว่าจำเลยยินยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งพร้อมค่าเสียหายให้แก่โจทก์โดยให้โจทก์รับเงินของจำเลยที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลได้ทันทีค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับทั้งสองฝ่าย ต่อมาโจทก์อ้างว่าในการรับเงินที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลนั้นโจทก์ได้รับไม่เต็มจำนวน เนื่องจากต้องหักค่าธรรมเนียมถอนการอายัด ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินส่วนที่ขาดแก่โจทก์ ดังนี้ เมื่อโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ ย่อมหมายความว่าค่าธรรมเนียมส่วนนี้เป็นพับด้วย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระแทน อนึ่ง โจทก์เป็นผู้ดำเนินการขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่ศาลสั่งอายัดไว้ให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมส่วนนี้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่702/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความครอบคลุมค่าธรรมเนียมทั้งหมด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระแทน
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้าศาลว่า จำเลยยินยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งพร้อมค่าเสียหายให้แก่โจทก์ โดยให้โจทก์รับเงินของจำเลยที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลได้ทันที ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับทั้งสองฝ่าย ต่อมาโจทก์อ้างว่าในการรับเงินที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลนั้นโจทก์ได้รับไม่เต็มจำนวน เนื่องจากต้องหักค่าธรรมเนียมถอนการอายัด ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินส่วนที่ขาดแก่โจทก์ ดังนี้เมื่อโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ ย่อมหมายความว่าค่าธรรมเนียมส่วนนี้เป็นพับด้วย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระแทน อนึ่ง โจทก์เป็นผู้ดำเนินการขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่ศาลสั่งอายัดไว้ให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมส่วนนี้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่702/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3222/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิบังคับคดี
จำเลยนำเงินมาวางต่อศาลภายหลังวันที่ได้ตกลงกันกำหนดไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ได้ชื่อว่าจำเลยผิดนัดแล้ว สิทธิของจำเลยที่จะชำระเงินให้โจทก์ย่อมหมดสิ้นไป โจทก์มีสิทธิ ยึดบ้านพิพาทขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกันตามส่วนที่ได้ตกลง กำหนดเป็นเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3057/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลไม่อาจบังคับให้มีการสมรส แม้ทั้งสองฝ่ายยินยอมคืนดีหลังจดทะเบียนหย่าแล้ว การสมรสเป็นสิทธิโดยความสมัครใจ
การสมรสเป็นสิทธิเฉพาะตัวโดยความสมัครใจยินยอมของชายและหญิงทั้งสองฝ่าย ในอันที่จะทำการสมรสกันภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายว่าด้วยการนั้น ไม่มีบทกฎหมายใดสนับสนุนให้อำนาจศาลที่จะบังคับให้มีการสมรส ศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้โจทก์จำเลยกลับคืน สู่ฐานะเป็นสามีภรรยากันตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยอันมิชอบด้วยกฎหมายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3057/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสเป็นสิทธิส่วนบุคคล ศาลไม่อาจบังคับให้มีการสมรส แม้มีการตกลงคืนดีหลังหย่า
การสมรสเป็นสิทธิเฉพาะตัวโดยความสมัครใจยินยอมของชายและหญิงทั้งสองฝ่าย ในอันที่จะทำการสมรสกันภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายว่าด้วยการนั้น ไม่มีบทกฎหมายใดสนับสนุนให้อำนาจศาลที่จะบังคับให้มีการสมรส ศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้โจทก์จำเลยกลับคืนสู่ฐานะเป็นสามีภรรยากันตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยอันมิชอบด้วยกฎหมายได้