พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,028 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ปลดจำนอง สิทธิบังคับจำนองยังคงอยู่
เจ้าหนี้ฟ้องบังคับจำนอง ต่อมาเจ้าหนี้ลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยลูกหนี้ยอมชำระเงินให้เจ้าหนี้ ศาลพิพากษาตามยอม แม้สัญญายอมจะระบุให้คดีเป็นอันเลิกกันก็ตาม ก็หมายความได้แต่เพียงว่ายังไม่ขอบังคับตามสัญญาจำนองเท่านั้น หาใช่เป็นการปลดจำนองไม่ ฉะนั้น เมื่อลูกหนี้ผิดสัญญายอม มีการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ เจ้าหนี้อื่นย่อมไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ปลดจำนอง สิทธิบังคับจำนองยังคงอยู่
เจ้าหนี้ฟ้องบังคับจำนอง ต่อมาเจ้าหนี้ลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยลูกหนี้ยอมชำระเงินให้เจ้าหนี้ศาลพิพากษาตามยอม แม้สัญญายอมจะระบุให้คดีเป็นอันเลิกกันก็ตาม ก็หมายความได้แต่เพียงว่ายังไม่ขอบังคับตามสัญญาจำนองเท่านั้น หาใช่เป็นการปลดจำนองไม่ ฉะนั้นเมื่อลูกหนี้ผิดสัญญายอม มีการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ เจ้าหนี้อื่นย่อมไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำสัญญาประนีประนอมยอมความและการอุทธรณ์ฎีกาเมื่อมีข้อกล่าวอ้างฉ้อฉล สิทธิทางอุทธรณ์มิใช่นำคดีฟ้องใหม่
โจทก์ผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนด ย่อมมีสิทธิทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยได้ และเมื่อศาลพิพากษาตามยอมแล้วว่าที่ดินตามโฉนดนั้นเป็นของโจทก์ หากบุคคลภายนอกผู้ใดเห็นว่าตนมีสิทธิในที่ดินนั้นดีกว่าโจทก์ ก็ชอบที่จะว่ากล่าวเอากับโจทก์ จะมาฟ้องจำเลยหาได้ไม่
เมื่อโจทก์จำเลยประนีประนอมยอมความกัน และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยฉ้อฉล โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา มิใช่นำคดีมาฟ้องใหม่
เดิม โจทก์ฟ้องจำเลยให้โอนโฉนดแลกเปลี่ยนกัน ที่สุดศาลพิพากษาตามยอมว่า ที่ดินโฉนดที่ 480 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของจำเลย ต่อมาโจทก์มาฟ้องใหม่ ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คำพิพากษาตามยอมเป็นอันไม่ใช้บังคับเพราะเหตุจำเลยฉ้อฉล ขอให้แสดงว่าที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 477 เป็นของจำเลย กรณีเช่นนี้หาเป็นฟ้องซ้ำไม่.
เมื่อโจทก์จำเลยประนีประนอมยอมความกัน และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยฉ้อฉล โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา มิใช่นำคดีมาฟ้องใหม่
เดิม โจทก์ฟ้องจำเลยให้โอนโฉนดแลกเปลี่ยนกัน ที่สุดศาลพิพากษาตามยอมว่า ที่ดินโฉนดที่ 480 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของจำเลย ต่อมาโจทก์มาฟ้องใหม่ ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คำพิพากษาตามยอมเป็นอันไม่ใช้บังคับเพราะเหตุจำเลยฉ้อฉล ขอให้แสดงว่าที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 477 เป็นของจำเลย กรณีเช่นนี้หาเป็นฟ้องซ้ำไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความและการใช้สิทธิทางฎีกา กรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน
โจทก์ผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนด ย่อมมีสิทธิทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยได้ และเมื่อศาลพิพากษาตามยอมแล้วว่าที่ดินตามโฉนดนั้นเป็นของโจทก์ หากบุคคลภายนอกผู้ใดเห็นว่าตนมีสิทธิในที่ดินนั้นดีกว่าโจทก์ ก็ชอบที่จะว่ากล่าวเอากับโจทก์ จะมาฟ้องจำเลยหาได้ไม่
เมื่อโจทก์จำเลยประนีประนอมยอมความกัน และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยฉ้อฉล โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา มิใช่นำคดีมาฟ้องใหม่
เดิม โจทก์ฟ้องจำเลยให้โอนโฉนดแลกเปลี่ยนกัน ที่สุดศาลพิพากษาตามยอมว่าที่ดินโฉนดที่ 480 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของจำเลย ต่อมาโจทก์มาฟ้องใหม่ ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คำพิพากษาตามยอมเป็นอันไม่ใช้บังคับเพราะเหตุจำเลยฉ้อฉล ขอให้แสดงว่าที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 477 เป็นของจำเลย กรณีเช่นนี้หาเป็นฟ้องซ้ำไม่
เมื่อโจทก์จำเลยประนีประนอมยอมความกัน และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยฉ้อฉล โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา มิใช่นำคดีมาฟ้องใหม่
เดิม โจทก์ฟ้องจำเลยให้โอนโฉนดแลกเปลี่ยนกัน ที่สุดศาลพิพากษาตามยอมว่าที่ดินโฉนดที่ 480 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของจำเลย ต่อมาโจทก์มาฟ้องใหม่ ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คำพิพากษาตามยอมเป็นอันไม่ใช้บังคับเพราะเหตุจำเลยฉ้อฉล ขอให้แสดงว่าที่ดินโฉนดที่ 485 เป็นของโจทก์ ที่ดินโฉนดที่ 477 เป็นของจำเลย กรณีเช่นนี้หาเป็นฟ้องซ้ำไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าแพ้ชนะคดีแพ่งอิงคำพิพากษาคดีอาญา ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่ตกลงกันไว้
การที่คู่ความตกลงท้ากันต่อหน้าศาล ขอให้ถือเอาผลคำพิพากษาในคดีอาญาแต่เพียงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนของจำเลยหรือไม่ เป็นข้อแพ้ชนะกันนั้น หาขัดต่อกฎหมายไม่ ฉะนั้นเมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิง จำเลยก็ต้องแพ้คดีตามคำท้านั้น ส่วนคำพิพากษาคดีอาญาที่ฟังต่อไปว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิดนั้น เป็นการนอกเหนือคำท้า จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยถึง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันตามข้อตกลงท้าทายตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อ: คำยืนยันตามหลักวิชาถือเป็นการยอมรับ
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้ค้ำประกันในเอกสารที่โจทกอ้างเทียบเคียงกับลายเซ็นตัวอย่างของจำเลยว่าเป็นลายเซ็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้เชี่ยวชาญยืนยันหรือกล่าวทำนองยืนยันว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันแล้ว จำเลยยอมแพ้ หากปฏิเสธหรือกล่าวทำนองปฏิเสธ โจทก์ยอมแพ้ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า น่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน ดังนี้ถือว่า มีลักษณะเป็นการยืนยันหรือทำนองยืนยัน ตรงตามคำท้าของคู่ความแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันตามคำท้าตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อ: การยอมรับผลจากความเห็นผู้เชี่ยวชาญ
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้ค้ำประกันในเอกสารที่โจทก์อ้างเทียบเคียงกับลายเซ็นตัวอย่างของจำเลยว่าเป็นลายเซ็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้เชี่ยวชาญยืนยันหรือกล่าวทำนองยืนยันว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันแล้ว จำเลยยอมแพ้หากปฏิเสธหรือกล่าวทำนองปฏิเสธโจทก์ยอมแพ้ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า น่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลเดียวกัน ดังนี้ ถือว่า มีลักษณะเป็นการยืนยันหรือทำนองยืนยัน ตรงตามคำท้าของคู่ความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินค่าสมาชิกสมาคมฌาปนกิจที่ไม่จดทะเบียนชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นลาภมิควรได้
การฌาปนกิจสงเคราะห์ที่จำเลยแต่ละคนเป็นกรรมการ แต่มิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมนั้น ถ้าจำเลยรับเงินค่าเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมย่อมเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น จึงถึงได้ว่าเป็นเงินที่จำเลยรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นลาภมิควรได้อย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินค่าสมาชิกสมาคมที่มิได้จดทะเบียนชอบด้วยกฎหมาย เข้าลักษณะลาภมิควรได้
การฌาปนกิจสงเคราะห์ที่จำเลยแต่ละคนเป็นกรรมการ แต่มิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมนั้นถ้าจำเลยรับเงินค่าเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมย่อมเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นจึงถือได้ว่า เป็นเงินที่จำเลยรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นลาภมิควรได้อย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสรีภาพในการทำสัญญาและการยินยอมโดยสมัครใจ คู่สัญญามีสิทธิกำหนดเงื่อนไขและผลประโยชน์ได้เอง
การทำสัญญานั้นจะตกลงให้ได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันอย่างไรแล้วแต่ความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งจะต้องระวังรักษาประโยชน์ของตน
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้วจำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้วจำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่