พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,028 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินสมรสหลังยึดทรัพย์ชำระหนี้: สิทธิของสามีภริยาและการบอกล้างสัญญาประนีประนอม
ในกรณีที่ภริยาจำเลยร้องขัดทรัพย์แล้วทำยอมความในศาลกับโจทก์ให้ขายทรัพย์ที่ยึดเอาเงินครึ่งหนึ่งให้ผู้ร้องรับไป อีกครึ่งหนึ่งชำระหนี้โจทก์ เหลือก็คืนจำเลยนั้นหากปรากฏว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง ยินยอมให้ขายชำระหนี้โจทก์ได้แล้ว ก็ไม่มีปัญหาเรื่องจำเลยและผู้ร้องจะมีสิทธิในทรัพย์ที่ยึดอย่างไร คงมีปัญหาอยู่ที่ว่า ฝ่ายใดจะมีสิทธิรับทรัพย์ส่วนของผู้ร้องตามยอมคืนไปเท่าใด และฝ่ายใดจะเป็นผู้ดำเนินคดีแก่ฝ่ายใดเท่านั้น จำเลยจะร้องอ้างว่าไม่ได้อนุญาตให้ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์และทำยอม จึงขอบอกล้างเสียนั้นย่อมไม่ได้เพราะไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับกรณีร้องขัดทรัพย์นี้ ชอบที่จำเลยและผู้ร้องจะไปว่ากล่าวเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งเงินมรดก: ผลผูกพันเมื่อเงินไม่มี – ยึดทรัพย์อื่นไม่ได้
สัญญายอมความที่จำเลยตกลงแบ่งเงินของเจ้ามรดกในธนาคารให้โจทก์โดยเฉพาะนั้น เมื่อเงินไม่มีอยู่ในธนาคารโดยไม่ใช่ความผิดของจำเลยแล้ว สัญญาแบ่งเงินนั้นก็ไม่มีผลผูกพันทรัพย์อื่นของจำเลย ฉะนั้นโจทก์จะขอให้ยึดทรัพย์จำเลยมาใช้เงินตามสัญญานั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งเงินมรดกที่ไม่มีอยู่จริง: สัญญาไม่มีผลผูกพันทรัพย์อื่น
สัญญายอมความที่จำเลยตกลงแบ่งเงินของเจ้ามรดกในธนาคารให้โจทก์โดยเฉพาะนั้น เมื่อเงินไม่มีอยู่ในธนาคารโดยไม่ใช่ความผิดของจำเลยแล้ว สัญญาแบ่งเงินนั้นก็ไม่มีผลผูกพันทรัพย์อื่นของจำเลย ฉะนั้น โจทก์จะขอให้ยึดทรัพย์จำเลยมาใช้เงินตามสัญญานั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน แม้มีข้อผิดพลาดในการทำสัญญา จำเลยต้องอุทธรณ์ทันที
โจทก์จำเลยทำยอมความยอมแบ่งที่พิพาทกัน และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว เมื่อจำเลยอ้างว่าทำยอมไปโดยความสำคัญผิด ทำให้จำเลยเสียเปรียบ และจำเลยได้เนื้อที่น้อยไปจากแผนที่จำลองท้ายยอมที่ศาลขีดไว้ ส่วนโจทก์กลับได้ที่ดินมากขึ้น ขอให้ศาลเรียกโจทก์มาสอบถามเพื่อสั่งให้โจทก์จำเลยได้ที่ดินตรงตามเหตุผลและตรงตามแผนที่ท้ายยอม ดังนี้ จำเลยชอบทีจะใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 138 แต่ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวก็ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จำเลยจะอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งและอาญาแยกกัน ประนีประนอมแพ่งไม่กระทบคดีอาญา
คดีแพ่งและคดีอาญาเป็นคนละส่วนกันฉะนั้น แม้เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาต่อศาลจังหวัดแต่ศาลจังหวัดไม่รับฟ้องคดีส่วนอาญา เพราะอยู่ในอำนาจศาลแขวง คงรับฟ้องเฉพาะคดีส่วนแพ่ง แล้วคู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเฉพาะในข้อหาทางแพ่ง แต่ไม่ปรากฎว่าโจทก์ยอมเลิกคดีอาญากับจำเลยด้วยนั้น คดีอาญาย่อมไม่ระงับไป ส่วนการที่จำเลยประนีประนอมยอมรับผิดทางแพ่งนั้นก็มีผลเพียงไม่ต้องดำเนินคดีในทางแพ่งต่อไปเท่านั้นเอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393-395/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าพิสูจน์ลายมือ: การถอนคำท้าที่ไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย ศาลไม่ผิดที่ไม่อนุญาต
คู่ความท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิสูจน์ลายเซ็นในเอกสาร ถ้าผู้เชี่ยวชาญว่าอย่างไรข้ออื่น ๆ เป็นอันไม่โต้เถียงกันนั้น เมื่อผู้เชี่ยวชาญส่งผลการพิสูจน์มาแล้วอันตรงกับข้อท้าโจทก์ย่อมจะมาขอถอนคำท้าโดยอ้างลอย ๆ ซึ่งจำเลยมิได้ตกลงด้วยหาได้ไม่ ศาลย่อมไม่อนุญาตให้ถอนคำท้านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนเวลาชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอม การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร
จำเลยยื่นคำร้องขอผัดเวลาชำระเงินค่าเช่าซื้อที่พิพาทงวดที่ 2 ซึ่งครบกำหนดชำระตามสัญญาประนีประนอม ยอมความที่โจทก์จำเลยทำกันไว้ต่อศาล โจทก์คัดค้านไม่ยอมผ่อนเวลาให้จำเลยและขอให้ถือตามสัญญายอมความ ดังนี้จำเลยจะอ้างว่า ในขณะที่ศาลชั้นต้นทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้โจทก์จำเลยนั้น โจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระเงินให้จำเลยโดยโจทก์แถลงด้วยวาจาว่า ถ้าผิดนัด 2 - 3 วันจะไม่เอาผิด มาบังคับโจทก์หาได้ไม่ แม้จะปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้ออกนั่งพิจารณารับรองว่า โจทก์ได้ตกลงด้วยวาจาเช่นนั้นจริงก็ตาม ก็เป็นเรื่องจดบันทึกขึ้นภายหลัง จะบังคับเอาแก่โจทก์ไม่ได้ ต้องถือตามสัญญายอมความที่ทำกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรม หากผลตรงตามที่ตกลงกัน ถือเป็นข้อแพ้ชนะ ศาลต้องบังคับตาม
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ตาย ซึ่งได้พิมพ์ไว้ในโฉนดจริงหรือไม่ แล้วยอมให้ศาลชี้ขาดตามนั้นเป็นข้อแพ้ชนะ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า "ไม่ใช่พิมพ์ลายนิ้วมือของพิมพ์ลายนิ้วมือนิ้วเดียวกัน" ดังนี้ ถือว่าตรงตามคำท้าซึ่งคู่ความได้ตกลงกันไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องสอดในชั้นอุทธรณ์ฎีกาต้องเป็นประเด็นที่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้น การตั้งประเด็นใหม่ทำไม่ได้
มีส่วนได้เสียเพราะเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์ที่จำเลยทำยอมความโอนให้โจทก์ไปและศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ดังนี้ จะร้องสอดเข้ามาในคดีเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์และฎีกาในอายุความอุทธรณ์ฎีกาเพื่อทำลายสัญญายอมความไม่ได้ เพราะเหตุที่ผู้ร้องยกขึ้นอุทธรณ์เป็นการตั้งประเด็นใหม่ ไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้น จึงขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความชอบธรรม ศาลบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ แม้การรังวัดไม่สมบูรณ์
โจทก์จำเลยทำสัญญาให้กรรมการวัดสอบเขตที่ดินตามเนื้อที่ในโฉนดของโจทก์หากปรากฎว่าจำเลยปลูกรั้วล้ำเข้าไปในเขตของโจทก์ จำเลยยอมรื้อรั้ว เมื่อเริ่มรังวัดเพียงด้านหนึ่งปรากฎว่ารั้วของจำเลยล้ำเข้าไปในเขตที่ของโจทก์ 1.20 เมตร จำเลยจึงไม่ยอมให้วัดต่อไป สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวนี้ย่อมเป็นสัญญาที่ใช้บังคับกันได้ตามกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่ยินยอมให้กรรมการวัดตามสัญญาที่ตกลงกัน นั้น จำเลยก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมจะมาฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยมิให้ขัดขวางในการที่กรรมการจะทำการตามสัญญานั้นได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2503)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2503)